เยี่ยมชม : ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ พบปะเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาช่อนทะเลและประมงพื้นบ้านแหลมทราย พร้อมเยี่ยมชมกระชังเพาะเลี้ยงปลาช่อนทะเลกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงปลาช่อนทะเลและประมงพื้นบ้านแหลมทราย โดยกรมประมง มีแนวทางพัฒนาและส่งเสริมกลุ่มผู้เลี้ยงดังกล่าว
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่พบปะเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาช่อนทะเลและประมงพื้นบ้านแหลมทราย พร้อมเยี่ยมชมกระชังเพาะเลี้ยงปลาช่อนทะเลกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงปลาช่อนทะเลและประมงพื้นบ้านแหลมทราย โดยมีผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ที่ท่าเรือแหลมทราย หมู่ 6 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยกลุ่มผู้เลี้ยงปลาช่อนแหลมทรายมีสมาชิก 27 ราย รวม 72 กระชัง พื้นที่ 648 ตารางเมตร สามารถผลิตได้ 4 ตัน/ปี เกษตรกรขายได้กิโลกรัมละ 200–250 บาท โดยเนื้อปลาช่องทะเล นิยมใช้ทำปลารีดเลือดหรือปลาดิบ หรือซาชิมิ ปัจจุบันผลิตได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดผู้บริโภค
สำหรับแนวทางในการพัฒนาส่งเสริมของกรมประมง จะมีการพัฒนาและถ่ายทอดนวัตกรรมการผลิตลูกพันธุ์สู่ภาคเอกชน ควบคู่การผลิตลูกพันธุ์โดยภาครัฐ นอกจากนี้ยังมีการประกาศเพิ่มพื้นที่อนุญาตเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม ประเภทการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชัง ในพื้นที่ที่เหมาะสม โดยคณะกรรมการประมงประจำจังหวัด อีกทั้งยังมีการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เพื่อให้สามารถลดต้นทุนในทุกด้าน เช่น การผลิตอาหารสำเร็จรูป การพัฒนาสายพันธุ์ที่โตดี FCR ต่ำด้วย
“กรมประมง พร้อมจะเข้ามาสนับสนุน ทั้งเรื่ององค์ความรู้ งานวิจัย และแหล่งเงินทุน เพื่อให้สามารถต่อยอดการประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังพร้อมสนับสนุนในเรื่องที่พี่น้องชาวประมงร้องขอ ในเรื่องการพัฒนาพื้นที่เป็นเกษตรเชิงท่องเที่ยว ที่จะต้องบูรณาการร่วมกัน ทั้งกรมประมง กรมเจ้าท่า และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จึงได้มอบหมาย รมช.เกษตรฯ ประสานทั้ง 3 หน่วยงานเพื่อสร้างอาชีพและรายได้ที่ยั่งยืนต่อไป” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี