ผัวเมียเก็บของเก่าที่เอาแมวใส่กระสอบไปทิ้งในวัดอยู่ไม่ติดเห็นข่าวรีบมาพบ ผอ.โรงเรียน และทีมงานเดอะโฮปสงขลา บอกไม่ใช่แมวตัวเองเป็นแมว ที่ รภป.จับใส่กระสอบฝากมาทิ้งเจตนาดีเอามาทิ้งไว้เพื่อให้แมวรอดไม่รู้ว่าผิดกฏหมาย ด้าน รภป. ที่จับแมวใส่กระสอบล้มป่วยทันทีลุกไม่ขึ้นทำงานไม่รอดตั้งแต่คืนนั้น
30 ส.ค.67 จากกรณีที่มีผัวเมียเก็บของเก่าขับรถจักรยานยนต์สามล้อพ่วงข้าวเอาแมวใส่กระสอบไปปล่อยไว้ภายในวัดหงส์ประดิษฐามราม หรือ วัดคอหงส์ ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตรงประตูโรงเรียนเทศบาล 3 วัดคอหงส์ ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดเมื่อช่วง 4 ทุ่มคืนวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยหลังจากที่ปล่อยแมวออกจากกระสอบแมวตัวนี้ได้วิ่งหนีตายกระโดดปีนกำแพงเข้าไปภายในโรงเรียนเทศบาล 3 เพื่อหนีตายเพราะกลัวว่าจะถูกฝูงสุนัขที่อยู่ภายในวัดรุมกัดโดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ขณะผัวเมียคู่นี้เอาแมวไปปล่อยไว้ได้อย่างชัดเจน หลังเกิดเหตุทางครูโรงเรียนเทศบาล 3และทีมงานเดอะโฮปสงขลา ได้ไปช่วยกันตามหาแมวตัวนี้แต่ไม่พบคาดว่าจะมุดท่อหนีเพื่อหลบฝูงสุนัข
ล่าสุดในวันนี้ หลังจากที่มีการนำเสนอข่าวนี้ออกไปผ่านสื่อมวลชนปรากฏว่า ผัวเมียคู่นี้ที่เอาแมวมาปล่อยได้เดินทางมายังโรงเรียนเทศบาล 3 เพื่อพบกับและนายวิทยา กลางวัง ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 3 นางสมคิด บุหงาชาติ ประธานเดอะโฮปสงขลา อธิบายเรื่องราวข้อเท็จจริงที่ต้องเอาแมวตัวนี้ใส่กระสอบมาทิ้งในวัด เพราะหลังจากที่รู้ข่าวไม่สบายใจถึงขั้นจิตตกเพราะว่าไม่มีเจตนาที่จะเอาไปทิ้งแต่เพราะต้องการช่วยแมวตัวนี้ให้รอด
โดยทั้งคู่บอกว่าแมวตัวนี้ไม่ใช่แมวของตัวเองแต่เป็นแมวที่อาศัยอยู่แถวอพาร์ทเม้นแห่งหนึ่งย่านถนนสามชัย เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ โดยคืนนั้นตอนที่ไปหาของเก่าแถวอพาร์ทเม้นได้มี รภป.ของอพาร์ทได้ฝากแมวซึ่งจับใส่กระสอบเอาไว้แล้วฝากให้ช่วยพาไปทิ้งเพราะว่ามันมักจะถูกทุบตีเป็นประจำ ด้วยความสงสารจึงพามันมาปล่อยที่วัดคอหงส์เพราะคิดว่าดีกว่าไปปล่อยที่อื่นอย่างน้อยถ้านำมาปล่อยที่วัดมันก็มีข้าวกินไม่ตายถ้าหากเอาไปเลี้ยงที่บ้านก็เลี้ยงไม่รอด ตอนที่ปล่อยก็ยังยกมือไหว้ขอโทษแมวตัวนี้ด้วย โดยผัวเมียคู่นี้ยืนยันว่ามีเจตนาดีที่จะช่วยแมวตัวนี้เพราะถ้าอยู่ที่เก่ามันอาจจะลำบากหรือโดนทำร้ายจึงมาปล่อยที่วัดและไม่รู้ว่าทำแบบนี้ผิดกฏหมายทารุณกรรมสัตว์พร้อมกับยกมือไหว้ขอโทษแมวตัวนี้ด้วย
โดยหลังจากที่่ผัวเมียคู่นี้มาอธิบายความจริงในคืนนั้นให้ทราบและก็ช่วยกันเดินตามหาแมวแต่ก็ไม่พบ จากนั้นทางทีมงานเดอะโฮปสงขลา ก็ให้ผัวเมียคู่นี้พาไปชี้จุดที่เอาแมวตัวนี้มาซึ่งอยู่ที่อพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่งย่านถนนสามชัย และเพื่อจะไปพบ รปภ.คนนี้ที่จับแมวใส่กระสอบ แต่ทราบว่าตั้งแต่จับแมวใส่กระสอบในคืนนี้ รปภ.คนนี้ก็ล้มป่วยทันทีแทบยกหัวไม่ขึ้นยังไม่มาทำงาน ส่วนผัวเมียคู่นี้ดูแลก็น่าจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์และไม่ใช่คนใจร้ายมีเจตนาดีที่จะช่วยแมวอาจจะไม่รู้ข้อกฏหมายจึงไม่ได้ถูกแจ้งความเอาผิดแต่อย่างใด
ด้าน นางสมคิด บุหงาชาติ ประธานเดอะโฮปสงขลา เปิดเผยว่า เรื่องของการเอาหมาแมวมาปล่อยทิ้งวัด หรือทำร้ายสัตว์เป็นเรื่องใกล้ตัวและคนส่วนใหญ่อาจจะไม่รู้ว่าผิดกฏหมาย ซึ่งความจริงแล้วจะมีความผิด พรบ.คุ้มครองสัตว์ฯโดยเฉพาะมาตรา 20 การทารุณกรรมสัตว์หากเอาหมาแมวไปทรมานให้บาดเจ็บหรือตายจะโดนข้อหาทารุณกรรมสัตว์มีโทษปรับ 4 หมื่นบาทและจำคุก 2 ปีหรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 23 ข้อ2 คือการทิ้งสัตว์ ปรับ 4 หมื่นบาท หรือถ้าเกิดหมาแมวเกิดตายในที่ ที่เอาไปทิ้งจะโดนจำคุก 2 ปีปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาทเช่นกันซึ่งเป็นกฏหมายใกล้ตัวที่ประชาชนต้องรู้โดยเฉพาะคนที่เลี้ยงหมาเลี้ยงแมวหาเลี้ยงไม่ได้จะด้วยสาเหตุใดก็แล้วแต่หากเอาไปทิ้งหรือทำร้ายสัตว์ก็จะมีความผิดตามกฏหมาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี