ปักธงแดงเตือนปชช.นาโขงทะลัก

‘หนองคาย’อ่วมหนัก

ชาวบ้านเร่งขนข้าวของหนีน้ำ

เชียงรายจม9อำเภอ/ตาย10

ศรีสะเกษน้ำเซาะถนนขาด

นายกฯตั้งศูนย์‘ศปภ.’รับมือ

ปภ.เผย 12 จังหวัดน้ำท่วมอ่วม ระดมเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ ส่วนหนองคาย น้ำโขงวิกฤตหนักสุดในรอบ 16 ปี พื้นที่เกษตรเสียหายนับหมื่นไร่ ประกาศปักธงแดงแจ้งเตือนต่อเนื่อง ทหาร-ฝ่ายปกครอง-จิตอาสา เร่งเสริมแนวกั้นน้ำ ด้าน จ.นครพนม สั่งพร้อมรับมือ24ชั่วโมง ขณะที่’ศรีสะเกา’น้ำกัดเซาะถนนตัดขาด เจ้าหน้าที่รุดซ่อมแซม นายกฯ สั่งตั้งศูนย์ปฏิบัติการฯ ถกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนัดแรก 16 ก.ย.นี้

เมื่อวันที่ 15กันยายน นายไชยวัฒน์จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก เกิดขึ้นในพื้นที่ 28 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ เลย อุดรธานี หนองคาย หนองบัวลำภู ปราจีนบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ระยอง ภูเก็ต ยะลา นครศรีธรรมราช พังงา ตรัง และสตูล รวม 129 อำเภอ 600 ตำบล 3,185 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 133,040 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยและดินถล่ม รวม 43 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ รวม 24 ราย

ปภ.เผยน้ำยังท่วมใน12จังหวัด

ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 12 จังหวัด รวม 39 อำเภอ 182 ตำบล 797 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 30,073 ครัวเรือน ดังนี้ 1.เชียงราย 2.แม่ฮ่องสอน 3.น่าน 4.ตาก 5.สุโขทัย 6.พิษณุโลก 7.เพชรบูรณ์ 8.หนองคาย 9.เลย 10.อ่างทอง 11.พระนครศรีอยุธยา และ12.ปราจีนบุรี

ประสานทุกหน่วยเร่งช่วยปชช.

นายไชยวัฒน์กล่าวว่า สำหรับการแก้ปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ปภ.โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยและแก้ปัญหาความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย อาทิ เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เครื่องสูบน้ำ รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย และรถผลิตน้ำดื่ม เพื่อระบายน้ำบรรเทาความเดือดร้อน และผลิตน้ำดื่มสะอาดแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ หากมีความจำเป็นต้องระบายน้ำออกจากพื้นที่ลงสู่พื้นที่อื่นได้กำชับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประสานเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการดำเนินการโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนเป็นสำคัญ และเลือกใช้วิธีการที่ส่งผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด

อุตุฯชี้อีสาน-ตะวันออกฝนหนัก

ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่า ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย

อันดามัน-อ่าวไทยคลื่นสูง2-3เมตร

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้

อีสานฝนตกร้อยละ80ของพื้นที่

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยภาคเหนือมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งภาคกลางมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งภาคตะวันออกมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วน กทม.และปริมณฑลมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

หนองคายน้ำโขงล้น-วิกฤตหนัก

ที่ จ.หนองคาย วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำในแม่น้ำโขง เพิ่มสูงจนเข้าขั้นวิกฤตเป็นรอบที่ 2 โดยหนักกว่ารอบแรก และหนักที่สุดในรอบ 16 ปี ในหลายพื้นที่ชาวบ้านได้รับความเดือนร้อนอย่างหนัก พื้นที่การเกษตร สัตว์เลี้ยง ได้รับความเสียหาย เช่น ที่เกาะดอนต่ำดอนแตง เกาะกลางน้ำโขงขนาดใหญ่มีพื้นที่กว่า 3,000ไร่ ผลผลิตทางการเกษตรคาดว่าน่าจะเสียหายหมด

อบต.เร่งขนย้ายข้าวของ-สัตว์

นายอภิสิทธิ์ วงศรีแก้ว นายก อบต.โพนสา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่และทีมกู้ภัย ได้เร่งขน/เคลื่อนย้ายสิ่งของต่างๆ และสัตว์เลี้ยงจากดอนขึ้นฝั่ง เพื่อความปลอดภัยและลดความเสียหายจาก น้ำโขงล้นตลิ่ง เนื่องจากสถานการณ์แม่น้ำโขงล้นตลิ่งในเขตพื้นที่บ้านท่ามะเฟือง ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ที่ผ่านมาเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้เกิดมีน้ำท่วมและล้นตลิ่งบริเวณเกาะดอนต่ำ และริมตลิ่งในหมู่ 4-7 ทีมป้องกันภัยอบต.โพนสา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ ได้นำเรือท้องแบน เรือหางยาวผูกติดทำเป็นแพเพื่อขนย้ายวัวกว่า 60 ตัว รวมถึงอุปกรณ์ทางการเกษตร ออกจากพื้นที่ไปขึ้นฝั่ง

น้ำเหนือ-เขื่อนที่ลาวลงมาสมทบ

แม้ว่าปัจจุบันระดับน้ำ จะลดลงอยู่ที่ 13.79 เมตร แต่ก็ลดลงเพียงเล็กน้อย ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง และพื้นที่โดยรอบ ซึ่งน้ำโขง ได้ไหลย้อนเข้าทางท่อระบายน้ำ เอ่อท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร ประกอบกับที่ผ่านมา เกิดฝนตกต่อเนื่องหลายวัน มวลน้ำจากตอนเหนือของไทย รวมถึงน้ำจากเขื่อนไซยะบุรี ประเทศลาว ล้นสปิลเวย์ ลงมาสมทบ ทำให้ระดับน้ำแม่น้ำโขงสูงขึ้น กระทบพื้นที่ 6 อำเภอ มีบ้านเรือนกว่า 3,000 หลัง ถูกน้ำท่วม พื้นที่การเกษตรเสียหายหลายหมื่นไร่

กระทบพื้นที่หนองคาย6อำเภอ

สำหรับพื้นที่ได้รับผลกระทบ ประกอบด้วย อ.รัตนวาปีอ.เมืองอ.ศรีเชียงใหม่อ.สังคมอ.ท่าบ่อ และ อ.โพนพิสัย โดยทหารจากกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 13,ร.13 พัน 3, มทบ.24กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี รวมถึงตำรวจในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ต่างช่วยกันนำกระสอบทรายเข้าปิดกั้นน้ำ แต่ก็เอาไม่อยู่น้ำได้ไหลทะลักเข้าพื้นที่ตอนใน ทั้งพื้นที่เกษตรพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ ชาวบ้านต้องเร่งขนย้ายสิ่งของและเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียงหนีน้ำ ตั้งเต็นท์อาศัยอยู่ริมทางหลวง จัดเวรยามกันเฝ้าสิ่งของ บางรายต้องไปอาศัยบ้านญาติ ซึ่งน้ำท่วมครั้งนี้ถือได้ว่าหนักสุดในรอบ 16 ปี

หนองคายจมปักธงแดงเตือน

บ่ายวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.หนองคาย โดยเฉพาะที่ตัวเมือง และเขตเทศบาลเมืองหนองคาย น้ำโขงได้ไหลล้นเข้าท่วมบ้านเรือ และพื้นที่ต่างๆ กินบริเวณกว้าง เทศบาลเมืองหนองคาย รายงานระดับน้ำโขง อยู่ที่13.78 เมตร จึงประกาศธงสีแดง แจ้งเตือนสภาวะน้ำอยู่ในเกณฑ์ที่มีความเสี่ยงอันตรายในการเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ขอให้ประชาชนอาศัยอยู่ในสถานที่ปลอดภัยและปฏิบัติตามข้อสั่งการ โดยช่องทางการติดต่อเทศบาลเมืองหนองคาย สายด่วน 199 ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองหนองคาย โทร.042-411000 ตลอด 24ชั่วโมง สอบถามข้อมูลข่าวสารเทศบาลเมืองหนองคาย

โทร.042-420762 หรือ092-4240555

ทหารเร่งวางแนวกั้นตลิ่งริมโขง

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าวันเดียวกัน ภายหลังน้ำเข้าท่วมบริเวณสำนักงานเทศบาลเมืองหนองคาย ถนนประจักษ์ศิลปาคม ทางทหารจากมณฑลทหารบกที่ 24 (มทบ.24) ได้เร่งเสริมแนวกั้นริมตลิ่งแม่น้ำโขงในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย เพื่อเสริมความแข็งแรงสำหรับป้องกันน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านเพิ่มเติม โดยหลายจุดน้ำยังทะลักและมีน้ำขัง เจ้าหน้าที่ต้องทำงานแข่งกับเวลาและปฏิบัติงานกันตลอดวัน

นครพนมงดบริการเรือท่องเที่ยว

ส่วนที่ จ.นครพนม สถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงที่ไหลผ่านพื้นที่ อ.เมือง จ.นครพนม ยังคงเพิ่มสูง อยู่ที่ระดับ 11.38 เมตร ต่ำกว่าระดับวิกฤตเพียง0.62 เมตร และต่ำกว่าระดับตลิ่ง 1.62 เมตร ซึ่งระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นได้เข้าท่วมลานคอนกรีตริมแม่น้ำโขงที่ท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยวของเทศบาลเมืองนครพนม สูงประมาณ 50 เซนติเมตร จึงต้องงดให้บริการเรือท่องเที่ยวเป็นการชั่วคราว ส่วนเรือโดยสารข้ามฟากนครพนม-เมืองท่าแขก ประเทศลาว ยังคงให้บริการตามปกติ

ร้านค้าลานพญานาคเก็บข้าวของ

ขณะที่ผู้ประกอบการร้านค้าที่อยู่ใต้ลานพญาศรีสัตตนาคราช ได้เก็บข้าวของและขนย้ายสินค้า ออกจากร้านค้าหมดแล้วทุกร้านแล้ว ตามที่มีการแจ้งเตือนของทางจังหวัดนครพนม ซึ่งระดับน้ำต่ำกว่าพื้นร้านค้าประมาณ 30 เซนติเมตร โดยลานพญาศรีสัตตนาคราช ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม และพื้นที่ใกล้เคียง ยังคงมีนักท่องเที่ยวและประชาชนเดินทางไปท่องเที่ยว รวมทั้งยังมีกิจกรรมต่างๆ ตามปกติ เนื่องจากยังไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำโขงที่เพิ่มขึ้นในขณะนี้แต่อย่างใด

ในส่วนของแม่น้ำสงคราม ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาที่ไหลลงแม่น้ำโขง ที่จุดวัดบ้านหาดแพง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม อยู่ที่ระดับ 12.90 เมตร ต่ำกว่าระดับวิกฤต 0.60 เมตร ระดับวิกฤตอยู่ที่ 13.50 เมตร

นครพนมสั่งเตรียมพร้อม24ชม.

นายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม ประชุมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดนครพนม ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน เพื่อวิเคราะห์และติดตามสถานการณ์น้ำ รวมทั้งได้สั่งการให้ทุกอำเภอที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ระดับน้ำแม่น้ำโขงที่เพิ่มขึ้นอย่างใกล้ชิด พร้อมให้เตรียมเครื่องจักรกล เครื่องมืออุปกรณ์ กำลังพลให้พร้อมช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อได้รับการร้องขอและประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงริมน้ำโขงและลำน้ำสาขาอย่างต่อเนื่อง

ศรีสะเกษฝนถล่มซัดถนนขาด

ที่ จ.ศรีสะเกษนายธนเดช พระอารักษ์ นายอำเภอเบญจลักษ์ พร้อมด้วย อส.สังกัดร้อย.อส.อ.เบญจลักษ์18 นายธงไชย ชุมคำ ผู้ใหญ่บ้านโนนคำตื้อ หมู่ 4 และนายสำเนียง พื้นพรม ผู้ใหญ่บ้านโนนคูณน้อย หมู่ 11 ต.หนองหว้า อ.เบญจลักษ์ลงพื้นที่ตรวจสอบและติดตามการซ่อมแซมถนนทางเลี่ยงสะพานข้ามห้วยสร้าง หลังจากถูกน้ำกัดเซาะจนถนนตัดขาด เนื่องจากมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้ประชาชนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ซึ่งนายธนเดช กล่าวถึงแนวทางการซ่อมแซม ว่าจะประสานผู้รับเหมาและช่างคุมงาน เข้าซ่อมแซมถนนส่วนที่ขาดให้กลับมาใช้งานได้ พร้อมกับแนะนำผู้รับเหมาให้เปิดช่องระบายน้ำเพิ่ม

เร่งซ่อมทางเบี่ยงสะพานห้วยสร้าง

นายธนเดช กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ตนยังได้ติดตามการซ่อมแซมถนนทางเบี่ยงสะพานข้ามห้วยสร้างพื้นที่บ้านโนนคำตื้อ หมู่ 4ต.หนองหว้า อ.เบญจลักษ์ โดยผู้รับเหมาและช่างคุมงาน ได้นำดินมากลบพื้นถนน ราดด้วยปูนซีเมนต์และหินกรวด ใช้รถทำให้ดินเรียบและใช้รถแบ็กโฮ ปรับพื้นดินอัดดินให้แน่น จนรถสามารถเดินทางสัญจรได้สะดวกตามปกติ

นาวิกโยธินนำรถAAVช่วยเหลือ

ขณะเดียวกัน กำลังพลหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ได้นำรถสะเทินน้ำสะเทินบก (AAV) 2คัน ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ชุมชนไม้ลุงขน ต.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีกระแสน้ำไหลแรง และมีรถที่จมน้ำอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้เป็นอุปสรรคในการปฏิบัติภารกิจ จึงต้องเปลี่ยนเป็นการนำรถ AAV ทั้ง 2 คัน มาจอดขวางกั้นทางน้ำ ลดความเชี่ยวและความรุนแรงของกระแสน้ำ เพื่อให้ผู้ประสบภัยสามารถอพยพออกนอกพื้นที่ได้สะดวกขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับ จ.เชียงราย นั้น ได้รับผลกระทบรวม 9 อำเภอ มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 10 ราย

ทัพเรือยันช่วยแม่สายจนพ้นวิกฤต

ทั้งนี้ การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ชุมชนไม้ลุงขน พบว่ามีชายชาวเมียนมา ได้รับบาดเจ็บ กระดูกขาหัก จึงมีการประสานแพทย์เข้าปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนจะนำส่ง รพ.เป็นที่เรียบร้อย นอกจากนี้กำลังเจ้าหน้าที่ได้นำอาหาร น้ำดื่ม เข้าไปส่งมอบให้ผู้ที่ยังติดค้างอยู่ภายในด้วย สำหรับกองทัพเรือ ยังคงปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ชาว อ.แม่สาย จ.เชียงราย จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยมีการเตรียมพร้อมทั้งกำลังพล ยุทโธปกรณ์ด้านบรรเทาสาธารณภัยไว้พร้อมให้การช่วยเหลือ

นายกฯสั่งตั้งศูนย์ปฏิบัติการฯ

มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ว่าในวันที่ 16 กันยายนนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเรียกประชุมทุกหน่วยงานต่างๆ เพื่อเตรียมรับมือและแก้ปัญหาน้ำท่วม พร้อมตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2 ชุด คือ 1.จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) และ 2.คณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม และจัดตั้งศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและบริหารสถานการณ์ โดยมีนายกฯ เป็นประธานกรรมการ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม เป็นรองประธานฯ รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย เป็นรองประธานฯ

คกก.มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วม

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับคณะกรรมการ ประกอบด้วย รมว.เกษตรและสหกรณ์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รมว.สาธารณสุข เลขาธิการนายกฯ ปลัดสำนักนายกฯ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ปลัดกระทรวงคมนาคม ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปลัดกระทรวงมหาดไทยอธิบดีกรมชลประทาน อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก ผอ.สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ผอ.สำนักประยุกต์และบริหารภูมิสารสนเทศ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)

ถกนัดแรก16ก.ย.นี้ที่ทำเนียบฯ

ขณะที่อธิบดีปภ.เป็นกรรมการและเลขานุการ และรองอธิบดีปภ.เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการทั้งนี้ จะมีการเรียกประชุมทุกหน่วยงานเพื่อบูรณาการการแก้ปัญหาน้ำท่วมและการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยทุกพื้นที่นัดแรกในวันที่ 16 กันยายนนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยคณะกรรมการทั้งหมดจะมีการประชุมร่วมแบบบูรณาการ เพื่อสั่งการให้เร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และเร่งแก้ปัญหาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน

นายกฯทวีตสั่งประชุมทีมงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.14น.วันเดียวกัน น.ส.แพทองธาร ได้โพสต์ข้อความผ่าน X ว่า “พรุ่งนี้16 ก.ย.ดิฉันจะเรียกประชุมทีมงานที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเตรียมจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.)คณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัยและดินโคลนถล่มและจัดตั้งศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและบริหารสถานการณ์ เพื่อให้ทุกภาคส่วนบูรณาการเข้ามาบริหารจัดการวิกฤตอุทกภัยครั้งนี้อย่างคล่องตัวรวดเร็วมากขึ้นค่ะ #น้ำท่วม #น้ำท่วมภาคเหนือ #น้ำท่วมเชียงราย #น้ำท่วมหนองคาย