วันอังคาร ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
นิติเวชพิสูจน์อัตลักษณ์ 23 ศพบัสมรณะ  ส่งครู-นร.กลับบ้าน  ญาติเศร้ารอรับร่างไร้วิญญาณ

นิติเวชพิสูจน์อัตลักษณ์ 23 ศพบัสมรณะ ส่งครู-นร.กลับบ้าน ญาติเศร้ารอรับร่างไร้วิญญาณ

วันพฤหัสบดี ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.
Tag :
  •  

นิติเวชพิสูจน์อัตลักษณ์ 23 ศพบัสมรณะ

ส่งครู-นร.กลับบ้าน

ญาติเศร้ารอรับร่างไร้วิญญาณ

ตั้งศพ 5 วันก่อนประชุมเพลิง

เด็กอีก 2 รายอาการยังน่าห่วง

ใส่ท่อช่วยหายใจ-ดูแลใกล้ชิด

 

“บิ๊กต่าย”แถลงสรุปกรณีรถบัสไฟไหม้ ตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ทั้ง 23 ร่างเสร็จแล้ว ก่อนเคลื่อนร่างกลับภูมิลำเนาที่ จ.อุทัยธานีเพื่อประกอบพิธีทางศาสนา โดยจะตั้งศพไว้ 5 วัน จึงจะประชุมเพลิง ส่วนคนขับถูกแจ้งข้อหาหนัก เจ้าตัวรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา เผยผลตรวจสภาพพบใช้แก๊ส 11 ถัง แต่จดแจ้งแค่เพียง 6 ถังเท่านั้น สั่งขยายผลสอบทุกประเด็นใครเกี่ยวข้องเอาผิดจนถึงที่สุด ขณะที่ 2 นักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว ยังต้องใส่ท่อช่วยหายใจ แพทย์ดูแลใกล้ชิด ด้าน รมว.ศึกษาธิการ สั่งงดทัศนศึกษาทันทีหากไม่จำเป็น

จากกรณีโศกนาฏกรรมรถบัสทัศนศึกษาของเด็กนักเรียน โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จังหวัดอุทัยธานี เกิดเพลิงไหม้ระหว่างเดินทางกลับจากทัศนศึกษา มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต 23 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ที่บริเวณหน้าเซียร์รังสิต ถนนวิภาวดีขาเข้า หน้าอนุสรณ์สถาน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น


ช่วงเช้าวันที่ 2 ตุลาคม 2567 ที่ถนนพหลโยธินขาเข้า ก่อนถึงเซียร์รังสิตเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ได้ปิดการจราจรในช่องทางหลักชั่วคราว เพื่อให้ผู้ปกครอง ญาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำพิธีเชิญดวงวิญญาณผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะเดียวกันได้มีประชาชนนำดอกไม้ ขนม นม น้ำหวาน มาวางตามจุดต่างๆ ที่บริเวณฟุตบาธถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุไฟไหม้รถบัส เพื่อเป็นการไว้อาลัยต่อการโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น

ส่วนบรรยากาศที่หน้าสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา เดินทางมาพิสูจน์อัตลักษณ์ (DNA) ด้วยความโศกเศร้า ทางสถาบันนิติเวชฯ ได้จัดสถานที่รับรองสำหรับญาติของผู้เสียชีวิตไว้ที่ชั้น 3

“บิ๊กต่าย”แถลงสรุปเหตุสะเทือนใจ

ต่อมา เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) เป็นประธานแถลงความคืบหน้าคดีอุบัติเหตุเพลิงไหม้รถบัสรับส่งนักเรียนทัศนศึกษา ณ ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ ตำรวจภูธรภาค 1 โดยมี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร., พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รอง ผบช.ภ.1 รรท.ผบช.ภ.1 , พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1 , พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี , พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผบก.พฐก. , พล.ต.ต.สุพิไชย ลิ่มศิวะวงศ์ ผบก.นต.รพ.ตร. และ นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ร่วมแถลง โดยก่อนการแถลงข่าว รรท.ผบ.ตร.ได้เรียนเชิญทุกท่านร่วมยืนไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตั้ง ศปก.ส่วนหน้า ที่บริเวณศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและความมั่นคง ในการบริหารเหตุการณ์ฉุกเฉิน ควบคุม สั่งการ และประสานการปฏิบัติกับหน่วย เพื่อช่วยเหลือและดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และได้สั่งการให้ทุกส่วนร่วมบูรณาการอย่างใกล้ชิด

ตรวจเอกลักษณ์บุคคลครบ23ราย

สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ได้ร่วมกับสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.) ตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลทั้ง 23 รายเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างออกรายงานรับรองการเสียชีวิต และใบมรณะบัตร โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้อำนวยความสะดวกโดยจัดรถตำรวจทางหลวง และตำรวจท่องเที่ยวนำขบวนและอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง พร้อมส่งกลับภูมิลำเนาที่ จ.อุทัยธานี และจัดการดูแลอำนวยความสะดวกให้บริการ พร้อมดูแลสภาพจิตใจของครอบครัวและผู้ใกล้ชิดของผู้ประสบเหตุอย่างเต็มที่

แจ้งข้อหาหนักคนขับรถบัส

สำหรับผู้ขับขี่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้ ภ.จว.ปทุมธานี และ บก.สส.ภ.1 เร่งรัด กดดัน ติดตามจับกุมตัวผู้ขับขี่ จนเมื่อวานนี้ (1 ตุลาคม 2567) เวลา 19.30 น. จึงได้ร่วมจับกุมผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว แล้วนำตัวมาสอบสวนยัง สภ.คูคต และได้แจ้งข้อกล่าวหา บัส 4 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย (ม.291) ,หลบหนี ไม่หยุดช่วยเหลือ ไม่แสดงตัวต่อเจ้าพนักงาน (ม.78) ,ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ (ม.390) ,และ ขับรถประมาทหวาดเสียว ม.43 (4) ,และอาจจะแจ้งข้อหาเพิ่มอีก 1 ข้อหา คือ ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส (ม.300)

สารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ขณะที่นายสมาน ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้เป็นเพราะถุงลมโช้คระเบิด รถจึงเสียหลักไปพุ่งชนกับแบริเออร์ที่อยู่เกาะกลาง จึงพยายามเบรกประคองรถไว้ไม่ให้พลิกคว่ำ แต่จังหวะนั้นรถไปสีกับถนนจึงทำให้ไฟลุกไหม้ ซึ่งตอนเกิดเหตุได้พยายามเปิดประตูผู้โดยสารทั้งด้านหน้าและตรงกลางรถแล้ว แต่ประตูเปิดได้แค่ด้านหน้า ประตูด้านหลังไม่เปิด จากนั้นตนก็เกิดอาการตกใจ จึงหลบหนีไป

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวนายสมานไว้ ณ สภ.คูคต เตรียมที่จะนำตัวไปฝากขัง โดยได้รวบรวมพยานหลักฐานในทุกมิติ สอบพยานที่เกี่ยวข้องแล้วหลายปาก, วัตถุพยานในที่เกิดเหตุ , ภาพบันทึกกล้องวงจรปิด โดยเฉพาะผลตรวจพิสูจน์สภาพรถคันเกิดเหตุทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบตามกฎหมายต่อไป

เร่งเอาผิดผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง

ส่วนทางรถบัสคันเกิดเหตุ สพฐ.ตร.ได้ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก ตรวจสภาพและรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาสาเหตุที่เกิดไฟลุกไหม้ขึ้น ในเบื้องต้นพบว่ารถบัสคันดังกล่าวมีถังแก๊สเชื้อเพลิงจำนวน 11 ถัง พบเบื้องต้นจดทะเบียนถูกต้องเพียง 6 ถัง ส่วนที่เหลือ 5 ถัง ไม่อยู่ในรายการจดแจ้งกับเจ้าหน้าที่ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ จะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดทางนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป หากพบว่ามีบุคคลหรือบริษัทใดเกี่ยวข้อง หรือมีส่วนในการกระทำความผิด สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด

ท้ายนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ และขอความกรุณางดเผยแพร่ภาพ แชร์ภาพ แชร์คลิป ผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว

ส่งนางฟ้า-เทวดาตัวน้อยกลับบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ได้ร่วมกับสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.) ตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลทั้ง 23 รายเรียบร้อยแล้ว โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้อำนวยความสะดวกจัดรถตำรวจทางหลวง และตำรวจท่องเที่ยวนำขบวนและอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง พร้อมส่งกลับภูมิลำเนาที่ จ.อุทัยธานี

โดยนายปิยะลักษณ์ ถิ่นแก้ว หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการมูลนิธิร่วมกตัญญู เผยหลังร่วมประชุมแผนปฏิบัติงานลำเลียงร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุรถบัสไฟไหม้ทั้ง 23 ราย ส่งกลับภูมิลำเนาว่า ร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 23 ร่าง จะถูกลำเลียงไปรวมที่โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ในช่วงเวลา 15.00 น. โดยทุกร่างทางมูลนิธิมีความประสงค์อยากให้ไปพร้อมกันทั้งหมด ก่อนจะแยกย้ายให้แต่ละครอบครัวนำร่างไปบำเพ็ญกุศลตามภูมิลำเนาต่อไป

ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูมีการจัดเตรียมรถเพื่ออำนวจความสะดวก แบ่งรถออกเป็น 2 กรณีคือ 1.รถลำเรียงร่างผู้เสียชีวิต 2.รถตู้พาผู้ปกครองของผู้เสียชีวิตติดตามกลับไปด้วย พร้อมกับเขียนลำดับผู้เสียชีวิตติดฝาโลงไว้เพื่อความแม่นยำในการดำเนินการเคลื่อนศพ

ส่วนลักษณะโลงที่ใช้สำหรับทุกศพนั้น ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ จะได้โลงในลักษณะเดียวกัน เนื่องจากทางมูลนิธิร่วมกตัญญูมองว่า ในวาระสุดท้ายอยากให้ทุกคนได้บ้านหลังใหม่ที่สวยงามและเหมือนกัน โดยจะให้รถ 1 คัน บรรจุ 1 โลงศพ โดยตลอดทางการส่งกลับได้รับความอนุเคราะห์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจะปิดช่องทางการจราจรชั่วคราว

ขณะที่เพจ ฅนข่าว ต้นปราการ รายงานบรรยากาศการเคลื่อนร่างเมื่อเวลา 15.19 น.ทั้งรัฐมนตรี ตัวแทนรัฐบาล ตัวแทนกระทรวงศึกษา ตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เหล่าศิลปินดารา และผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงพี่ๆกู้ชีพและกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู มาช่วยกันพาร่างของหนูๆ และครูกลับบ้านกันนะ ขณะที่พี่ๆ พยาบาลโรงพยาบาลตำรวจ ยังพร้อมใจเข้าแถวสดุดดีและไว้อาลัยส่งดวงวิญญาณหนู ด้วยนะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเคลื่อนขบวนครั้งนี้ จะมีการแวะไปยังที่จุดเกิดเหตุไฟไหม้รถบัสบริเวณถนนวิภาวดีรังสิตขาออก เพื่ออัญเชิญดวงวิญญาณกลับบ้านเกิดที่จังหวัดอุทัยธานีด้วย

เตรียมสถานที่รับศพผู้เสียชีวิต

ช่วงเช้าวันเดียวกัน ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ช่วยเหลือโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาวาสกรณีอุบัติเหตุรถบัสนักศึกษาของโรงเรียนไฟไหม้ ล่าสุด น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่ร่วมกับ นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี พล.ต.ต.ณรงค์เดช ศักดิ์สมบูรณ์ ผบก.ภ.จว.อุทัยธานี และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบสถานที่ หอประชุมของโรงเรียนเขาพระยาสังฆาราม ต.ลานสัก จ.อุทัยธานี เพื่อใช้ในการจัดตั้งศพของครูและนักเรียน 23 ราย

หลังจากประชุมหารือ และได้สรุปว่าจะนำร่างครูและนักเรียนที่เสียชีวิตทั้งหมดไว้ที่อาคารอเนกประสงค์ของโรงเรียน เพื่อใช้ในการประกอบพิธีทางศาสนา โดยจะมีการเก็บล้างทำความสะอาดภายในอาคาร พร้อมกับปรับภูมิทัศน์โดยรอบเพื่อดำเนินการประดับตกแต่งสถานที่และติดตั้งไฟเพื่อใช้ในการประกอบพิธีทางศาสนา ขณะนี้เริ่มนำโลงศพเข้ามาในพื้นที่แล้ว

“ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับศพผู้เสียชีวิตทั้งหมด ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์แล้ว” ผู้ว่าฯอุทัยธานีกล่าว

ตั้งศพ5วันก่อนประชุมเพลิง

นายธีรพัฒน์ กล่าวว่าได้ข้อสรุปกับผู้ปกครองกันว่าจะนำน้องๆ คุณครูไว้ที่โรงเรียนนี้ทำพิธีกันที่โรงเรียน จะมีการระดมทุกภาคส่วนมาจัดเตรียมสถานที่ ควบคู่ไปกับการประสานงานกับ รพ. ตำรวจ รวมถึง นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ที่จะช่วยนำน้องๆ และคุณครูกลับมาที่โรงเรียน เพื่อดำเนินพิธีการทางศาสนา เราจะให้สิทธิผู้ปกครองกำหนดว่าจะเอาไว้กี่วัน

จากนั้น น.ส.ซาบิดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย พร้อม ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ประชุมผู้ปกครอง ที่มาภายในงานโดยหารือในการตั้งศพว่าจะกำหนดกี่วัน โดยญาติลงมติ 5 วัน จึงจะประชุมเพลิง

จัดเตรียมโลงเย็นรอประกอบพิธี

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ อส. สภ.ลานสัก จ.อุทัยธานี พร้อมเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนธิกำลัง ได้จัดเตรียมโลงเย็นแต่ละวัดมารอ เพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ ซึ่งอยู่ในพระบรมราชานุอนุเคราะของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่หอประชุมของโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม ต.ลานสัก จ.อุทัยธานี

ช่วงบ่าย พระกิตติวชิรธาดา เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ประคองธรรม ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หลังทราบข่าวเกิดเรื่องเหตุสลดใจไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของกลุ่มนักเรียน ล่าสุด ได้มอบหมายให้ นายไพรัช สุดธูป เดินทางนำโลงเย็นเข้าช่วยสนับสนุนในงานสวดอภิธรรมทันทีจำนวน 5 โลงเย็น พร้อมทั้งกล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียและได้รับบาดเจ็บทั้งหมดด้วย โดยได้ประสานไปยังนายธีระพัฒน์ คัชมาตร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานีได้จัดรถตู้ จำนวน 7 คัน พร้อมด้วยรถมินิบัส 1 คัน รับญาติผู้เสียชีวิตเดินทางเข้าไปยังโรงพยาบาลตำรวจเพื่อไปเซ็นรับร่างเด็กนักเรียนและครูเพื่อมาประกอบพิธีทางศาสนา

นายกฯแต่งชุดดำไว้อาลัย

เวลา 10.30 น. ที่กรมชลประทานปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมาตรวจราชการการบริหารจัดการน้ำ ที่กรมชลประทานปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยมีนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ และนายสุริยพล นุชอนงค์ รักษาราชการอธิบดีกรมชลประธาน รายงานสถานการณ์น้ำ โดย นายกฯ นางนฤมล นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คณะทำงานนายกฯ ได้สวมชุดดำเพื่อไว้อาลัยให้กับเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียน

อย่างไรก็ตาม ก่อนออกเดินทางไปยังกรุงโดฮา รัฐกาตาร์ เพื่อเข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย ครั้งที่ 3 (3rd Asia Cooperation Dialogue: ACD) ระหว่างวันที่ 2 – 4 ต.ค.2567 ในเวลา 12.00 น. นายกฯได้เชิญนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข และพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และอธิบดีกรมสุขภาพจิต มาที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง เพื่อมาพูดคุย และรายงานสถานการณ์ ความคืบหน้าเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษานักเรียนเกิดไฟไหม้ และในส่วนของสาธารณสุขจะเสนอแผนในการเยียวยาจิตใจของผู้สูญเสียและผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้

นักเรียน2รายอาการยังสาหัส

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ได้รับการส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลแพทย์รังสิต จ.ปทุมธานี จำนวน 2 ราย โดยรายที่ 1 เด็กหญิงอายุ 7 ปี และรายที่ 2 เด็กหญิงอายุ 9 ปี ทั้งนี้ ทีมแพทย์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ประกอบด้วย ศัลยแพทย์ จักษุแพทย์ กุมารแพทย์ ได้ประเมินอาการและให้การรักษา ดังนี้ รายที่ 1 เด็กหญิงอายุ 7 ปี แพทย์ประเมินแล้วว่าสัญญาณชีพปกติ แต่ยังคงต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ร่างกายถูกไฟไหม้บริเวณใบหน้า มือ และแขนทั้งสองข้าง ทั้งหมดประมาณ 20% จากการส่องกล้องทางเดินหายใจ พบว่า ทางเดินหายใจบวมแดง มีเสมหะปนเขม่า

เบื้องต้นได้รับยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือดและเกลือแร่ทดแทน เนื่องจาก Magnesium ในเลือดต่ำ ผู้ป่วยรายนี้มีเปลือกตา ผิวเยื่อตาและกระจกตาขุ่นถลอกทั้งหมด แผนการรักษาในขณะนี้ประกอบด้วยการล้างตาปริมาณมาก ทำหัตถการวางเยื่อหุ้มรก เพื่อครอบคลุมผิวเยื่อตาทั้งหมด นอกจากนี้ยังได้ใช้ยาน้ำตาเกล็ดเลือดซึ่งได้จากการเจาะเลือดของผู้ป่วยเองนำมาผ่านกระบวนการและใช้หยอดตาทุก 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ในการช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อและใส่ Eye Corneal Shield เพื่อครอบและปกป้องผิวเยื่อตา ช่วยป้องกันไม่ให้เยื่อบุตาติดกับกระจกตาและคงความชุ่มชื้น และให้ยาปฏิชีวนะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและลดการอักเสบ

แพทย์เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

รายที่ 2 เด็กหญิงอายุ 9 ปี แพทย์ประเมินแล้วว่าสัญญาณชีพปกติ แต่ยังคงต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ร่างกายถูกไฟไหม้บริเวณใบหน้า แขน ในระดับความรุนแรงที่ 2 และ 3 ทั้งหมดประมาณ 30% เบื้องต้นได้รับยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือดและเกลือแร่ทดแทน เนื่องจาก Magnesium ในเลือดต่ำ ผู้ป่วยรายนี้มีเปลือกตา ผิวเยื่อตา และกระจกตาขุ่นถลอกทั้งหมด แผนการรักษาผู้ป่วยในขณะนี้ประกอบด้วยการทำหัตถการวางเยื่อหุ้มรก เพื่อครอบคลุมผิวเยื่อตา ทั้งหมด ช่วยปกป้องและฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิวเยื่อตา กระจกตาที่เสียหาย นอกจากนี้ยังได้ใช้ยาน้ำตาเกล็ดเลือดซึ่งได้ จากการเจาะเลือดของผู้ป่วยเองนำมาผ่านกระบวนการและใช้หยอดตาทุก 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ในการช่วยฟื้นฟู เนื้อเยื่อและให้ความชุ่มชื้นกับกระจกตา โดยทีมแพทย์ได้ใส่ Eye Corneal Shield เพื่อครอบและปกป้องผิวเยื่อตา ช่วยป้องกันไม่ให้เยื่อบุตาติดกับกระจกตาและคงความชุ่มชื้น นอกจากนี้ผู้ป่วยยังได้รับยาหยอดตาลดการอักเสบ และยาปฏิชีวนะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและลดการอักเสบ ทีมแพทย์จะเฝ้าระวังและดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด

“เพิ่มพูน”แถลงทั้งน้ำตา

ที่กระทรวงศึกษาธิการ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังประชุมประสานภารกิจกระทรวงศึกษาธิการ ถึงเหตุรถบัสโรงเรียนวัดเขาพระยา จังหวัดอุทัยธานี เกิดไฟไหม้ระหว่างมาทัศนศึกษา บริเวณหน้าอนุสรณ์สถาน ถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า ทำให้นักเรียนและครูเสียชีวิตเป็นจำนวน23ราย ว่า ขอยืนยันว่าศธ.พยายามดูแลอย่างเต็มที่ในเรื่องการเยียวยา และเรื่องสิทธิประโยชน์ของนักเรียนและคุณครู เช่น ครูที่เสียชีวิตก็จะพิจารณาปรับเลื่อนขั้นเงินเดือนขึ้นให้ 3 ขั้น และดูแลเรื่องประกันภัยต่างๆ ค่าปลงศพ และมอบให้ สพฐ.เป็นเจ้าภาพหลัก เชิญชวนประชาชนร่วมสมทบทุนเพื่อช่วยเหลือดูแลครอบครัวผู้ประสบภัย และจัดตั้งกองทุนการศึกษาช่วยเหลือบุตรของคุณครูที่เสียชีวิต และผู้ปกครองของน้องๆที่เสียชีวิต

ทั้งนี้ทางสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เตรียมมอบรางวัล”ครูถิรคุณ”เพื่อยกย่องครูผู้เสียสละและมีอุดมการณ์ในวิชาชีพแก่ครูผู้เสียชีวิตและมอบประกาศเกียรติคูณให้แก่ครูที่ให้การช่วยเหลือนักเรียนที่บาดเจ็บ ทั้งนี้ ได้กำชับทุกหน่วยงานให้ดำเนินการเรื่องสวัสดิการและสิทธิประโยชน์แก่ผู้ประสบภัยและผู้เสียชีวิตอย่างรวดเร็วด้วย”

สั่งงดทัศนศึกษาครู-นักเรียนทันที

พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวถึงมาตรการระยะต่อไปว่าตนได้สั่งการให้งดทัศนศึกษาทันที ทั้งทัศนศึกษาของนักเรียนและครู ถ้าไม่จำเป็น แต่ถ้าจำเป็น และเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาจะต้องไปทัศนศึกษา ผอ.โรงเรียนจะต้องเป็นคนดูและเขตพื้นที่การศึกษาต้องไปกำกับเรื่องมาตรการความปลอดภัยที่ชัดเจนเช่นรถที่จะใช้เดินทางให้ประสานกับขนส่งเพื่อมาช่วยตรวจความพร้อมของรถก่อนเดินทางและรถที่ใช้เดินทางต้องไม่เก่าเกินไปไม่เกิน5 ปี และให้จัดทำแผนการเดินทาง แผนเผชิญเหตุ พร้อมให้มีการซักซ้อมและปฏิบัติตามแผนอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้น ส่วนการเข้าค่ายลูกเสือยังจำเป็นก็ยังคงต้องมี แต่ต้องดูเรื่องความปลอดภัย

ส่วนเด็กที่จะเดินทางไปทัศนศึกษาจะต้องแบ่งเป็นเด็กเล็กและเด็กโต ส่วนเด็กเล็ก ที่ยังช่วยตัวเองไม่ได้ ต้องมีผู้ปกครองร่วมเดินทางไปด้วยและให้หลีกเลี่ยงให้เด็กเล็กออกนอกเขตพื้นที่จังหวัดถ้าไม่จำเป็น อาจจะให้ดูงานใกล้โรงเรียน การทัศนศึกษาก็เป็นสิ่งจำเป็นต่อการเรียนรู้ เพราะถ้าห้ามเลยก็เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นไม่มีใครอยากให้เกิด แต่อาจจะเกิดอุบัติเหตุที่เราคาดไม่ถึง

รมว.ศธ.กล่าวด้วยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับผู้บาดเจ็บทั้งเด็กและคุณครูจากเหตุรถบัสไฟไหม้ทุกราย ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และกระทรวงศึกษาธิการ ก็จะขอพระราชทานเพลิงศพผู้เสียชีวิตต่อไป

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘พิมล เจริญยิ่ง’วัย 85 ปี ผู้ต้องขังคดี‘ตึกสตง.’ถล่ม เครียด ซีกซ้ายอ่อนแรง หามส่งรพ.ภูมิพล ‘พิมล เจริญยิ่ง’วัย 85 ปี ผู้ต้องขังคดี‘ตึกสตง.’ถล่ม เครียด ซีกซ้ายอ่อนแรง หามส่งรพ.ภูมิพล
  • หึงโหด! ผช.ผญบ.สุดทน! ใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวเมียดับ หลังจับได้คบซ้อน หึงโหด! ผช.ผญบ.สุดทน! ใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวเมียดับ หลังจับได้คบซ้อน
  • \'ตชด.ตรัง\'บุกสกัดแก๊งขนยานรก ลอบส่งผ่านพัสดุกว่า6หมื่นเม็ด 'ตชด.ตรัง'บุกสกัดแก๊งขนยานรก ลอบส่งผ่านพัสดุกว่า6หมื่นเม็ด
  • เปิดภาพ 4 คนร้าย แต่งกายคล้ายผู้หญิงยิง อส. ดับ 2 ราย ขณะออกกำลังกาย เปิดภาพ 4 คนร้าย แต่งกายคล้ายผู้หญิงยิง อส. ดับ 2 ราย ขณะออกกำลังกาย
  • พ่วงบรรทุกเปลือกสับปะรด เกิดพ่วงท้ายหลุด หนุ่มขับเก๋งลื่น พุ่งชนท้ายสิบล้อดับคาที่ พ่วงบรรทุกเปลือกสับปะรด เกิดพ่วงท้ายหลุด หนุ่มขับเก๋งลื่น พุ่งชนท้ายสิบล้อดับคาที่
  • ก.ต. ฟัน 3 ผู้พิพากษา ให้ออกจากราชการ ฐานผิดวินัยร้ายแรง แทรกแซงคดี ก.ต. ฟัน 3 ผู้พิพากษา ให้ออกจากราชการ ฐานผิดวินัยร้ายแรง แทรกแซงคดี
  •  

Breaking News

ดุจเจ้าหญิง! 'ลิซ่า'ร่วมงานเปิดตัว BVLGARI สวยเลอค่าสะกดทุกสายตา

กลืนน้ำลาย!‘อิ๊งค์’ถามกลับปม‘งูเห่า’เขาซื้อไหมคะ ชี้เส้นทางการเมืองเป็นเรื่องสมัครใจ

ทองผาภูมิเตรียมจัดงานเทศกาลผลไม้และงานกิ่งกาชาด ณ เขื่อนวชิราลงกรณ

‘พิมล เจริญยิ่ง’วัย 85 ปี ผู้ต้องขังคดี‘ตึกสตง.’ถล่ม เครียด ซีกซ้ายอ่อนแรง หามส่งรพ.ภูมิพล

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved