23 ครู-นักเรียน

ประชาชนเรือนหมื่นร่วมอาลัย

สังฆราชปลงธรรมสังเวช

‘โป๊ป’ส่งสาส์นเสียพระทัย

ในหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประธานองคมนตรี เป็นประธานพิธีพระราชทานเพลิงศพครู-นักเรียน โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ซึ่งประสบเหตุเพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษา ด้าน รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานพิธีบำเพ็ญกุศลพระราชทาน ท่ามกลางผู้แทนหน่วยงานต่างๆและประชาชนเรือนหมื่น ร่วมอาลัย ขณะที่สมเด็จพระสังฆราช ทรงปลงธรรมสังเวช พระราชทานผ้าไตรบังสุกุล อุทิศแก่ผู้วายชนม์ ส่วนโป๊ปฟรานซิส ส่งสาสน์แสดงความเสียพระทัยเหตุเพลิงไหม้รถบัสครู-นักเรียนในประเทศไทย

เมื่อวันที่ 8ตุลาคมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นประธานในการพระราชทานเพลิงศพ ผู้เสียชีวิต 23 ราย จากอุบัติเหตุรถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆารามต.ลานสัก อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี

ทั้งนี้ พิธีได้เริ่มตามกำหนดการในเวลา 12.30 น.โดยทางพล.อ.สุรยุทธ์ เป็นประธานในพิธีทอดผ้าไตรพระราชทาน 5 ไตร วางกระทงข้าวตอก ดอกไม้ หน้าหีบศพ หยิบธูปเทียนดอกไม้จันทน์จากเจ้าพนักงาน จุดไฟที่โคมจากเจ้าพนักงาน วางดอกไม้จันทน์พระราชทานเพลิง แล้ววางธูปเทียนดอกไม้จันทน์ของพระบรมวงศานุวงศ์ วางที่หน้าหีบศพ ตามด้วยพระสงฆ์ ข้าราชการและประชาชน ขึ้นวางดอกไม้จันทน์ตามลำดับ ซึ่งพิธีการดังกล่าวจัดขึ้นภายในอาคารอเนกประสงค์โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงเวลาประมาณ 13.30 น.ได้มีการเคลื่อนขบวนศพของครูและนักเรียน มาประกอบพิธีฯ ณ สถานที่ประกอบพิธี ครั้งละ 7 ร่าง จนครบทั้ง 23 ร่าง แต่มีการรอให้ฝนที่ตกมาอย่างหนักได้ซาลงก่อน ซึ่งระหว่างที่ฝนตกอยู่นั้น ประชาชนที่มาร่วมพิธี ต่างจับกลุ่มวิพากวิจารณ์เป็นเสียงเดียวกันว่า แม้แต่ฟ้าฝนยังรับรู้ และร่วมไว้อาลัยครูและนักเรียนที่จากไปจากเหตุการณ์ดังกล่าว

จากนั้นในเวลา 14.00 น.วันเดียวกัน จึงมีพิธีเคลื่อนร่างผู้เสียชีวิตในการออกเมรุมายังบริเวณสถานที่ตั้งเตาเผา ซึ่งมีการแบ่งชุดในการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ เป็น 4 ชุด โดยชุดที่ 1 และชุดที่ 2 นักเรียน 7 คนชุดที่ 3 นักเรียน 6 คน และชุดสุดท้ายจะเป็นคุณครู 3 คน

สำหรับพิธีพระราชทานเพลิงศพใช้เวลาชุดละ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นจะมีการเก็บอัฐิ จนครบทั้ง 23 คน ซึ่งผ้าขาวที่ใช้ในการเก็บอัฐิ ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิต ได้ขอให้ใช้ผ้าขาวที่ใช้สำหรับตัดเย็บชุดนักเรียน นำมาใช้ในการเก็บอัฐิโดยเมื่อชุดที่ 1 มาถึง ประกอบด้วยร่างของผู้เสียชีวิตทั้งหมด 7 ราย ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

ส่วนครอบครัวของผู้เสียชีวิตยังคงร่ำไห้และเสียใจกับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับมาของบุคคลอันเป็นที่รัก บางครอบครัวได้กอดรูปของผู้เสียชีวิตไว้แน่น บ้างก็กอดสิ่งของ เสื้อผ้าของผู้เสียชีวิต บ้างก็ถึงกับเป็นลมล้มพับไปทั้งยืน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยปฐมพยาบาลและดูแลอย่างใกล้ชิด

ก่อนหน้านี้ในช่วงเช้าวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศการจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 23 ครูและนักเรียน โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม ว่าเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ทุกภาคส่วน ได้จัดเตรียมความพร้อมในพิธีและสถานที่เพื่อรองรับผู้ที่จะมาเข้าร่วมงาน โดยมีประชาชนทยอยเดินทางมาไม่ขาดสาย

ต่อมาเวลา 09.30น.พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ได้เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลพระราชทานในการออกเมรุผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาของโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม ที่อาคารเอนกประสงค์ของโรงเรียนดังกล่าว โดยมีพระพรหมวัชรธีราจารย์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ซึ่งพิธีเริ่มจากพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 10รูป สวดพระพุทธมนต์ แสดงธรรมเทศนา สวดมาติกาและพิธีทอดผ้าไตรบังสุกุล ภายในงานมี นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ว่าที่ร.ต.ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

พร้อมด้วยนายธีรพัฒน์คัชมาตย์ผวจ.อุทัยธานี นายชาดา ไทยเศรษฐ์ นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี และผู้แทนหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมพิธี

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บริเวณเต็นท์โดมขนาดใหญ่ 4 หลัง ที่จัดเตรียมเก้าอี้ไว้ 5,000 ตัว เพื่อรองรับผู้เข้าร่วมพิธีนั้น เนืองแน่นไปด้วยผู้คน เนื่องจากมีประชาชนหลั่งไหลกันเข้ามาจนเต็นท์ไม่สามารถจุคนได้อีก แต่ก็ยังมีประชาชนมาปักหลักรอกันอยู่ด้านนอก คาดว่ามีประชาชนมาร่วมพิธีกว่า 5 หมื่นคน

ขณะเดียวกัน สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงประทานพระอนุเคราะห์ โดยสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช มีหนังสือที่ สสร.0599/2567 ถึง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีเนื้อหาระบุว่า ตามที่เกิดอุบัติภัยแก่รถโดยสารของครูและนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม เมื่อวันอังคาร ที่ 1 ตุลาคม 2567 ทำให้มีครูและนักเรียนเสียชีวิตจำนวน 23 คน ความทราบตามข่าวสารที่ปรากฏแล้ว นั้น

เจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงปลงธรรมสังเวช และโปรดประทานผ้าไตรเพื่อการบังสุกุลอุทิศแก่ผู้วายชนม์รายละ 1 ไตร พร้อมทั้งมีพระบัญชาโปรดให้ไวยาวัจกรจัดกัปปิยภัณฑ์รายละ 10,000 บาท ประทานแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต เพื่อช่วยการบำเพ็ญกุศลศพทุกราย

โอกาสนี้ มีรับสั่งประทานกำลังใจแก่ครอบครัว ญาติมิตรของผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้ได้รับผลกระทบทางจิตใจจากเหตุการณ์นี้ เพื่อเป็นส่วนทุเลาความเศร้าโศกหม่นหมอง จงถึงพร้อมด้วยขันติ สติ และปัญญา ในอันที่จะฟื้นฟูสรรพกำลังให้กลับคืนมาอย่างเข้มแข็งมั่นคงสืบไป

อีกด้านหนึ่ง สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส แห่งวาติกัน ทรงมีแถลงการณ์แสดงความเสียพระทัย ต่อเหตุการณ์อุบัติเหตุไฟไหม้รถบัสโรงเรียนในประเทศไทย ซึ่งลงนามโดยพระคาร์ดินัลปิเอโตร ปาโรลิน เลขาธิการแห่งนครรัฐวาติกัน โดยแถลงการณ์มีเนื้อความว่า พระสันตะปาปาฟรานซิสทรงพระรู้สึกเศร้าโศกอย่างสุดซึ้งเมื่อทรงทราบการเสียชีวิตของนักเรียนและครู จากอุบัติเหตุรถบัสโรงเรียนที่เกิดขึ้นที่ชานเมืองกรุงเทพมหานคร

พระสันตะปาปาทรงอธิษฐานภาวนาให้กับทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวที่กำลังโศกเศร้า และทรงมอบดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับไว้ในพระเมตตาอันเปี่ยมด้วยความรักของพระผู้ทรงสรรพานุภาพ พระสันตะปาปาฟรานซิสทรงวิงวอนขอพระพรแห่งความเข้มแข็ง สันติสุข และการปลอบประโลมมายังทุกคน