ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณปากทางเข้าตลาดทรัพย์สินพลาซ่า ริมถนนหน้าที่ทำการไปรษณีย์สงขลา เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา นางสมการี (พี่กระแต) เถรว่อง อายุ 54 ปี และนางภัสวดี (พี่ติ๋ม) ทองมา อายุ 49 ปี สองสาว เพื่อนซี้ได้มาเปิดร้านขายขนมไทยโบราณ ขนมจู้จุน ขนมพิมพ์รังผึ้ง ขนมปำจีไส้มะพร้าว ที่นับวันจะหากินยากในเมืองสงขลา โดยได้รับการถ่ายทอดสูตรมาจากพี่สาวที่ขายขนมอยู่ที่ทะเลน้อยจังหวัดพัทลุง

ขนมไทยโบราณ ของพี่กระแตและพี่ติ๋มได้รับการยอมรับจากลูกค้าที่ทยอยกันเดินทางเข้ามาซื้อกลับไปกินที่บ้านอย่างต่อเนื่องรวมทั้งแม่ค้าที่ขายของอยู่ในตลาดไม่สามารถออกมาซื้อได้ ก็โทรศัพท์สั่งเข้ามาให้นำขนมเข้าไปส่งในตลาดอยู่ตลอดเวลา บางครั้งทำแทบไม่ทัน ทั้งขนมพิมพ์รังผึ้ง ขนมปำจีไส้มะพร้าว ขนมจู้จุนพี่กระแตและพี่ติ๋มจะช่วยกันทำแทบไม่มีเวลาว่างเลยทีเดียว โดยพี่กระแตจะทำขนมปำจีไส้มะพร้าวและขนมจู้จุน รวมทั้งเป็นคนขายด้วย เพราะทำอยู่ด้านข้าง ส่วนพี่ติ๋มก็จะทำขนมพิมพ์รังผึ้ง อยู่ด้านหลัง โดยทั้งสองคนจะช่วยกันทำอยู่ตลอดเวลา หากขนมจู้จุนที่ทอดอยู่ในกระทะสุก พี่กระแตทำขนมปำจีอยู่ พี่ติ๋มอยู่ใกล้กระทะก็จะจัดการคีบขนมจู้จุนขึ้นจากกระทะให้ จากนั้นพี่กระแตก็ตักแป้งขนมใส่กระทะ แล้วก็จัดการทำขนมปำจีต่อ

ในวันนี้จะมาแนะนำและทำความรู้จัก “ขนมจู้จุน” เมนูของหวานโบราณ ที่นับวันจะหากินยากในเมืองสงขลา สูตรโบราณดั้งเดิมโดยได้สูตรมาจากพี่สาวคิดสูตรเองผสมเอง เป็นคนผสมสูตรให้ ปกติพี่สาวทำขนมขายอยู่ที่ทะเลน้อยจังหวัดพัทลุง ขายมานานหลายปีแล้ว พี่สาวเป็นคนผสมแป้งและช่วยออกความคิดให้ โดยใช้แป้งข้าวเจ้า กะทิ เกลือและแป้งข้าวเหนียว เป็นวัตถุดิบหลักในการทำขนมจู้จุน สูตรโบราณ โดยขายแผ่นละ 5 บาท ชุดละ 4 แผ่น 20 บาท

นางสมการี (พี่กระแต) เถรว่อง กล่าวว่า ทำขนมจู้จุนมา 2 ปีแล้ว ได้สูตรมาจากพี่สาว สำหรับสูตรแป้งที่ทำขนมจู้จุน สูตรโบราณ ประกอบด้วย แป้งข้าวเจ้ากะทิ เกลือ และแป้งข้าวเหนียว ในส่วนความอร่อยขนมจู้จุนอยู่ที่มันต้องถึงหัวกะทิให้มันๆ และกรอบ อย่าให้แข็ง