นักข่าวเศร้า!!! เจอกับตัวเองเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังนำรถเก๋งเข้าซ่อม แต่กลับถูกเจ้าของอู่ถอดล้อแม็กซ์ไป 2 ล้อ ยกหม้อแบตเตอรี่ ก่อนปิดอู่ทิ้งร้าง ไร้ความรับผิดชอบ

8 พ.ย.67 ที่ สภ.เมืองพัทลุง นางลัดดา มณีรัตน์ อายุ 62  ปี นักข่าวประจำจังหวัดพัทลุง อยู่บ้านเลขที่ 239 ถ.อภัยบริรักษ์ อ.เมืองพัทลุง เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.สุภัทร์  ขุนนุ้ย  ร้อยเวร สภ.เมือง  เพื่อเอาผิดกับนายเสริม  ช่วยคล้าย อายุ  65 ปี เจ้าของอู่เสริมการช่าง ริมถนนอภัยบริรักษ์ อ.เมืองพัทลุง

นางลัดดา ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเมื่อประมาณปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เธอได้นำรถเก๋งมาสด้า 303  สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กฉ 2536  พัทลุง  เข้าซ่อมภายในอู่ดังกล่าว จากการตรวจสอบของช่างทราบว่าไดร์สตาส มีปัญหา แบตเตอรี่ไม่สามารถเก็บไฟได้  นอกจากนั้นเธอได้แจ้งให้ช่างทำสีใหม่ 2 จุด คือบนหลังคาและกระโปรงหน้ารถ ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จพร้อมชำระเงินเรียบร้อยแล้ว  แต่เนื่องจากระบบไฟยังมีปัญหา จึงอยู่ระหว่างซ่อม จนกระทั่งเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เธอพบว่าล้อแม็กซ์ 2 ล้อหน้าถูกถอดออก พร้อมถอดหม้อแบตเตอรี่หายไปด้วย ส่วนตัวนายเสริมฯก็เริ่มไม่อยู่อู่ โทร.หาก็ไม่ยอมรับสาย เธอมารู้อีกทีเมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา  ลูกค้าที่นำรถมาซ่อมเริ่มทะยอยลากรถออกจากอู่ จนหมด  เหลือไว้ของเธอเพียงคันเดียว

อย่างไรก็ตามการเข้าแจ้งความในครั้งนี้ เป็นการลงบันทึกประจำวันเพื่อเป็นหลักฐานในการเคลื่อนย้ายรถออกจากอู่เท่านั้น  ยังไม่สามารถแจ้งข้อหานายเสริมฯเจ้าของอู่ได้  เนื่องจากยังไม่เข้าข่ายขโมย เพราะเป็นการอยู่ในช่วงระหว่างทำการซ่อม  หลังจากนี้เจ้าทุกช์สามารถไปร้องทุกข์ต่อ สคบ.และฟ้องต่อศาลเท่านั้น

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังทราบว่าก่อนหน้านี้มีเจ้าทุกข์จำนวนหลายราย ได้เข้าแจ้งความก่อนหน้านี้แล้วเช่นกัน ล่าสุดทางเจ้าของที่ดินได้ปิดประกาศขับไล่ที่ ขอให้เจ้าของอู่เคลื่อนย้ายทรัพย์สินออกภายใน 15 วัน และทำการตัดน้ำตัดไฟไปแล้ว  ซึ่งนางลัดดาฯต้องเคลื่อนย้ายรถอกเป็นการเร่งด่วนด้วย

ทางนางลัดดา ยังแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เพราะไม่มีรถออกไปทำข่าว เธออยากขอร้องให้นายเสริมฯ ออกมารับผิดชอบ ในเรื่องของล้อแม็กซ์ และหม้อแบตเตอรี่เท่านั้น