วันศุกร์ ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
'ดร.วชิราภรณ์'ประสานทุกหน่วยงานแก้ปัญหา'ไฟตก-ไฟดับ'

'ดร.วชิราภรณ์'ประสานทุกหน่วยงานแก้ปัญหา'ไฟตก-ไฟดับ'

วันพฤหัสบดี ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567, 14.36 น.
Tag :
  •  

เป็นปัญหาสำคัญที่กลายเป็นทุกข์แสนสาหัสของชาวบ้านในหลายพื้นที่ทั่วทั้งประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเวลานี้ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน เนื่องจากเกิดปัญหาเรื่อง “ไฟฟ้าตก-ไฟฟ้าดับ” หลายครั้งต่อวัน โดยมีสาเหตุมาจากการขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าไม่ทั่วถึง ทำให้ชาวบ้านต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการลากสายไฟฟ้าพ่วงต่อกันไปมาจำนวนหลายสิบหลัง เป็นเหตุให้แรงดันไฟฟ้าปลายสายต่ำ โดยขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาให้ความช่วยเหลืออย่างจริงจัง อีกทั้งในหลายพื้นที่ชาวบ้านยังไม่มีไฟฟ้าใช้ 

จากปัญหาที่เกิดขึ้น “สส.จ๋า - ดร.วชิราภรณ์ กาญจนะ” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสุราษฎร์ธานี เขต 3 ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพลังงาน ได้เห็นความทุกข์ร้อนของชาวบ้าน จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนมาร่วมประชุมเพื่อเร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สำนักนโยบายและแผนพลังงาน สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน กรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช


แต่ปัญหาติดตรงที่เงื่อนไขในส่วนของการขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้า ปัจจุบันมีงบประมาณให้เฉพาะ “บ้านเรือนที่ไม่เคยมีการติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้ามาก่อนเท่านั้น” หรือเรียกว่า “ครัวเรือนใหม่” โดยทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะมีงบประมาณในการขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าให้เพียง 2 หลักเกณฑ์ คือ 

1. ขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าให้ฟรีเพียง 140 เมตรแรก ระยะทางที่เหลือทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะออกค่าใช้จ่ายในการขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าให้เพียงครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือ ต้องให้ชาวบ้านที่ต้องการให้ขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าเป็นคนออกค่าใช้จ่ายเอง ถ้าหากชาวบ้านรายนั้นไม่มีเงิน ต้องให้ อบต. หรือ เทศบาล นั้นๆ อุดหนุนงบประมาณจ่ายแทน 

2. ให้ค่าใช้จ่ายในการขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้า หลังละ 75,000 บาท  ในบริเวณนั้นมีบ้านเรือนกี่หลัง ก็ให้เอา 75,000 คูณ ได้ผลลัพธ์เท่าไหร่ก็จะเป็นค่าใช้จ่ายในการขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้า โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะออกค่าใช้จ่ายในการขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าฟรีให้เพียงเท่านี้ ส่วนที่เหลือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะออกค่าใช้จ่ายให้เพียงครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือจะให้ชาวบ้านที่ต้องการขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าเป็นคนออกค่าใช้จ่ายเอง ถ้าชาวบ้านไม่มีเงินในส่วนนี้ก็ให้ อบต. หรือ เทศบาล นั้นๆ อุดหนุนงบประมาณจ่ายแทน

ซึ่งทั้งสองหลักเกณฑ์ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก เนื่องจากชาวบ้านยังคงหาเช้ากินค่ำ ได้เงินมาพอประทังชีวิตวันต่อวัน ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าส่วนที่เกินจากหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ได้

เรื่องนี้หากมองตามความเป็นจริง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเปรียบเสมือนเป็นผู้ขายสินค้า ลูกค้าคือชาวบ้าน ซึ่งเป็นผู้ซื้อสินค้า ตามหลักแล้วช่องทางการขนสินค้ามาขายให้กับลูกค้า ผู้ขายควรจะเป็นผู้จัดการค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ทั้งหมด แต่ในกรณีนี้กลับกลายเป็นว่า ผู้ขายมาบังคับให้ผู้ซื้อออกค่าใช้จ่ายในการสร้างช่องทางขนส่ง มิหนำซ้ำหากชาวบ้านไม่มีเงินจ่ายก็บังคับให้ผู้บริหารท้องถิ่นช่วยอุดหนุนเงินงบประมาณแทน ยิ่งเมื่อมองเข้าไปในเนื้อหาสาระสำคัญอย่างเช่น “รายได้” การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็นผู้จัดเก็บ ดังนั้น ก็ควรจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างทั้งหมด แต่ทำไมจึงผลักภาระมาให้แต่ละท้องถิ่นต้องออกค่าใช้จ่ายช่วยชาวบ้าน

นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งหลักเกณฑ์ที่มีปัญหามาก นั่นคือ บ้านเรือนที่เคยมีการติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าแล้ว หรือที่ เรียกว่า “ครัวเรือนเก่า” แต่ทว่าบ้านเรือนเหล่านี้ไม่ได้รับการขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้ามาให้อย่างถูกต้องตามมาตรฐาน ทำให้ชาวบ้านต้องพ่วงสายไฟฟ้าต่อกันไปมาเอง มิเตอร์ไฟฟ้าหลายตัวต่อพ่วงสายไฟกันไปมาหลายสิบหลังคาเรือน ลักษณะนี้เป็นการลากสายไฟเชื่อมต่อที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้แรงดันไฟฟ้าปลายสายไฟฟ้าต่ำ เป็นเหตุให้เครื่องใช้ไฟฟ้าของชาวบ้านเสียหายบ่อยมาก แต่พอชาวบ้านไปขอให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมาทำการขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าให้ กลับได้รับคำตอบว่า ถ้าบ้านไหนที่มีการติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าแล้ว จะไม่มีงบประมาณในการขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าให้ เพราะมีไฟฟ้าใช้แล้ว 

ประเด็นนี้ “สส.จ๋า” ได้ทำเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนมาร่วมประชุม และทำหนังสือไปถึงการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ให้มีการขอปรับหลักเกณฑ์ในการขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าใหม่ ซึ่งทางผู้บริหารระดับสูงของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้รับปากว่าจะเร่งดำเนินการแก้ไขให้ อีกทั้งยังมีประเด็นการขอให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคปรับหลักเกณฑ์ และวิธีการช่วยเหลือให้ชาวบ้านมีมิเตอร์ไฟฟ้าถาวรอย่างทั่วถึง เพราะที่ผ่านมามีประชาชนจำนวนมากได้ทำการติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าชั่วคราว แต่ไม่สามารถขอติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าถาวรได้ ทำให้ชาวบ้านที่มีมิเตอร์ไฟฟ้าชั่วคราวต้องเสียเงินค่าไฟสูงกว่ามิเตอร์ไฟฟ้าถาวรเกือบเท่าตัว 

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องขอให้พิจารณาทบทวนการจัดเก็บค่าไฟฟ้าส่องสว่างสาธารณะ ซึ่งปัจจุบันถ้าเป็นถนนทางหลวง หรือ ทางหลวงชนบท การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะให้ใช้ไฟฟ้าในส่วนนี้ฟรี แต่หากว่าถ้าโอนถนนเส้นนี้ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะอุดหนุนเงินค่าไฟฟ้าสาธารณะเพียงร้อยละ 10 โดยส่วนที่เหลือแต่ละท้องถิ่นต้องออกเอง ด้วยเหตุผลตามที่กล่าวมา จึงขอให้มีการทบทวนหลักเกณฑ์ใหม่ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมและเป็นธรรมกับประชาชนมากที่สุด

ขณะที่ในส่วนของ กรมป่าไม้ และ กรมอุทยานฯ ก่อนหน้านี้ได้มีปัญหาเรื่องการขออนุญาตสร้างถนน หรือ ขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่ของกรมป่าไม้ และ กรมอุทยานฯ เพราะกว่าจะได้รับอนุญาตจากทั้งสองหน่วยงานให้ดำเนินการได้ ที่ผ่านมาดำเนินไปอย่างล่าช้ามาก แต่ภายหลังการเข้าร่วมประชุมได้รับคำยืนยันว่า หลังจากนี้กรณีด้านความจำเป็นในการดำรงชีวิตขั้นพื้นฐานของประชาชน จะได้รับการพิจารณาอนุญาตอย่างเร่งด่วน 

นี่คือการทำงานเชิงรุกของ “สส.จ๋า - ดร.วชิราภรณ์ กาญจนะ” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสุราษฎร์ธานี เขต 3 ซึ่งเป็นการทำงานที่ต้องอาศัยความแม่นยำของข้อมูลข่าวสาร การประสานงานที่เข้าถึง ทำให้พร้อมแก้ไขปัญหาและทำงานได้อย่างมีคุณภาพ โดยมีเป้าหมายสู่อนาคตเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของพี่น้องประชาชน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'รัตนา\'ได้นั่ง\'นายกสมาคมกีฬาเชียงราย\'ต่อ-หลังได้รับการเลือกจากสมาชิก 'รัตนา'ได้นั่ง'นายกสมาคมกีฬาเชียงราย'ต่อ-หลังได้รับการเลือกจากสมาชิก
  • ทสจ.กาฬสินธุ์-ขานรับ ‘นโยบาย-ภารกิจสำคัญ’ ของกระทรวงทรัพย์ฯ ทสจ.กาฬสินธุ์-ขานรับ ‘นโยบาย-ภารกิจสำคัญ’ ของกระทรวงทรัพย์ฯ
  • อบต.บางม่วง ระดมจนท.ทำความสะอาดบ้านเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) เตรียมพร้อมใช้รับเหตุฉุกเฉิน อบต.บางม่วง ระดมจนท.ทำความสะอาดบ้านเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) เตรียมพร้อมใช้รับเหตุฉุกเฉิน
  • รวบหนุ่มท่าม่วง ‘ซุกแรงงานเถื่อน’ เต็มคันรถ-เผย!จ่ายค่าหัวคนละ1.2หมื่นบาท รวบหนุ่มท่าม่วง ‘ซุกแรงงานเถื่อน’ เต็มคันรถ-เผย!จ่ายค่าหัวคนละ1.2หมื่นบาท
  • \'ปศุสัตว์-ทม.ชุมเห็ด\' ร่วมใจกำจัดภัย \'โรคพิษสุนัขบ้า\' เฉลิมพระเกียรติสมเด็จเจ้าฟ้าฯ 'ปศุสัตว์-ทม.ชุมเห็ด' ร่วมใจกำจัดภัย 'โรคพิษสุนัขบ้า' เฉลิมพระเกียรติสมเด็จเจ้าฟ้าฯ
  • วท.สัตหีบ-ลงนามMOU5ฝ่าย-ขับเคลื่อนนโยบาย ‘เสริมสร้างความปลอดภัย’ วท.สัตหีบ-ลงนามMOU5ฝ่าย-ขับเคลื่อนนโยบาย ‘เสริมสร้างความปลอดภัย’
  •  

Breaking News

'กันเนอร์-ไนซ์'เติมหวานน้ำตาลไม่ตก ออกเดทฮีลใจแฟนซีรีส์ 'Knock Out หมัดน็อกล็อกหัวใจ'

ก.เกษตรฯกระชับความร่วมมือค้าสินค้าเกษตรไทย-อาร์เจนติน่า

'สมเด็จพระสังฆราช'ประทานพระวโรกาสให้'ภูมิธรรม'เข้าเฝ้าเพื่อความเป็นสรรพสิริมงคล

'เกาหลีใต้'รวบชาวเกาหลีเหนือ หลังแอบข้ามพรมแดนหวังลี้ภัย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved