ฝนถล่มต่อเนื่อง4จว.จมบาดาล
ปักษใต้วิกฤต
ปัตตานีท่วมหนักสั่งปิด4รพ.
หาดใหญ่ปักธงแดงทั้งเมือง
ยะลาระดับน้ำเพิ่มต่อเนื่อง
เตือน8จว.ใต้รับมือฝนถล่ม
น้ำท่วมใต้ยังวิกฤตฝนตกต่อเนื่อง4 จว. “ปัตตานี-ยะลา-นราฯ-สงขลา”จมบาดาล โดยยะลาระดับน้ำเพิ่มกระทบ 8 อำเภอ เส้นทางคมนาคมถูกตัดขาด ขณะที่ปัตตานีรับมวลน้ำจากยะลา ทำชาวบ้าน 12 อำเภอเดือดร้อน น้ำยังทะลักเข้า 4 รพ. ต้องประกาศปิดชั่วคราว ย้ายคนไข้ไปพักที่รพ.สนาม ขณะที่อ.แม่ลานท่วมหนักสุดรอบ 19 ปี น้ำสูงเกือบมิดหลังคาบ้านกว่า 3 พันครัวเรือน ส่วนที่หาดใหญ่ จ.สงขลาประกาศปักธงแดงทั้งเมือง อ.ระแงะ นราฯฝนตกต่อเนื่องสะสม 3 วัน อยู่ที่ 935 มิลลิเมตร คลองตันหยงมัสน้ำสูงกว่าตลิ่ง 1.90 เมตร อพยพชาวบ้านแล้ว 107 ครัวเรือน ขณะที่นายอำเภอแจ้งเตือนพื้นที่เชิงเขาเสี่ยงดินสไลด์ ส่วนรัฐบาลส่ง มท.1 ลงพื้นที่ เร่งประสานคลังเพิ่มวงเงินทดรองเป็นจังหวัดละ50 ล้าน สั่งผู้ว่าฯดูแลแจกอาหาร3 มื้อ ‘วันนอร์’จี้รบ.เร่งช่วยชาวใต้ 4 จว.ด่วน เสียหายกว่า 90%
เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดชายแดนใต้ยังวิกฤต เพราะมีฝนตก ระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ต้องอพยพชาวบ้านไปอยู่ในที่ปลอดภัย
ยะลา8อำเภออ่วมท่วมวงกว้าง
โดยที่จ.ยะลา ระดับน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และขยายวงกว้างท่วมทั้งในพื้นที่ย่านการค้าเศรษฐกิจ พื้นที่ชุมชน พื้นที่รอบนอก เจ้าหน้าที่เร่งอพยพให้ความช่วยเหลือประชาชน พร้อมส่งอาหารให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ขณะที่ปริมาณฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ เริ่มลดลง ทั้งนี้ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จังหวัดยะลารายงานสถานการณ์และผลกระทบในจ.ยะลามี 8 อำเภอ 58 ตำบล 344 หมู่บ้าน 29 ชุมชน ประชาชนเดือดร้อน 32,830 ครัวเรือน 131,685 คน เสียชีวิต 1 ราย อพยพ 1,446 ครัวเรือน 5,012 คน (ยะหา รามัน และเมืองยะลา) ถนน 158 สาย สะพาน 10 แห่ง และเสาไฟฟ้า 13 ต้น แนวโน้มสถานการณ์ยังมีฝนตกต่อเนื่อง ระดับน้ำในแม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำปัตตานีเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่ทางการเกษตร ถนนสายหลักพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนอย่างหนัก
เบตงดินสไลด์ลมแรงต้นไม้-เสาไฟโค่น
ในพื้นที่อ.เบตง จ.ยะลา ยังต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากยังมีฝนตกต่อเนื่อง ลมกรรโชกแรง ทำให้เสาไฟฟ้าข้างทางล้มขวางถนนการสัญจรเส้นทางสายยะลา – เบตงบางช่วงยังปิดเส้นทาง เช่นถนนระหว่าง หมู่ 2 บ้านบาแตตูแงกับหมู่ 3 บ้านกาแปะซาลัง ต.ธารน้ำทิพย์ ชำรุดทรุดตัว รถใหญ่ไม่สามารถสัญจรได้ รวมถึงทางแยกไปบันนังซิแน (ถนน อบจ.)รถวิ่งได้ช่องทางเดียว จากนั้นนายอำเภอเบตงลงพื้นที่สำรวจจุดที่เกิดเหตุดินสไลด์ทับเส้นทางเส้นทางสาย 410 ยะลา-เบตง ในต.อัยเยอร์เวง และ ต.ตาเนาะแมเราะ และประสาน เจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงเบตง และเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยตำบลอัยเยอร์เวงนำรถเครื่องจักรเร่งเอาดินสไลด์ออกจากถนน ทำให้ประชาชนสัญจรไปมาได้ตามปกติ ขณะเดียวกันในเขตเทศบาลเมืองเบตงเกิดลมกระโชกแรง ทำให้เสาไฟฟ้าหักโค่นลงมาขวางถนนทางเข้าเมืองเบตง เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคดำเนินการแก้ไขเพื่อให้รถผ่านไปมาได้ ส่วนเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองเบตงนำสิ่งของเครื่องอุปโภตบริโภคไปแจกให้ประชาชนที่ประสบภัย
ปัตตานีหนักสุดรอบ34ปี-ถนนขาด
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในจ.ปัตตานีว่าเข้าขั้นวิกฤติ ตั้งแต่ช่วง 3 ทุ่ม วันที่ 28 พฤศจิกายน มวลน้ำจากตอนบนจ.ยะลาไหลลงแม่น้ำปัตตานีต่อเนื่อง ประกอบกับมีน้ำทะเลหนุนสูง ส่งผลให้ระดับน้ำปัตตานีล้นตลิ่งเข้าท่วมหนักในพื้นที่ติดกับริมแม่น้ำ ร่วมถึงทะลักเข้าท่วมในเทศบาลเมืองปัตตานีเป็นวงกว้างสูง 40-70 เซนติเมตร ถนนถูกตัดขาดรถสัญจรไปมาไม่ได้ ถือว่าหนักสูดในรอบ 34 ปี บ้านเรือนประชาชน ร้านค้าน้ำในเขตเทศบาลเมืองปัตตานีถูกน้ำท่วมเดือดร้อนเป็นวงกว้าง ทางจังหวัดปัตตานีได้ประกาศเสียงตามสายให้ประชาชนที่อาศัยติดริมแม่น้ำเฝ้าติดตามสถานการณ์ใกล้ชนิด ถ้าบ้านใดอยู่ในเกณฑ์ท่วมสูงมิดหัวให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่ออพยพ สำหรับสถานการณ์จ.ปัตตานีมีพื้นที่ประสบภัยแล้ว 12 อำเภอ 111 ตำบล 597 หมู่บ้าน 37294 ครัวเรือนเดือดร้อนแล้ว 138858 คน
แม่ลาน3พันหลังน้ำท่วมมิดหลังคา
อย่างที่ตำบลม่วงเตี้ย ทั้ง 6 หมู่บ้าน อ.แม่ลาน น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมเป็นวงกว้าง สูง 3-4 เมตร รวมถึงน้ำไหลเชี่ยวทำให้ชาวบ้านกว่า 3,000 ครัวเรือน เดือดร้อนหนักสุดในรอบ 19 ปี บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมถนนถูกน้ำท่วมเกือบมิดเกือบถึงหลังคาบ้านแทบทุกหลัง ต้องย้ายไปอาศัยอยู่ศูนย์พักพิงชั่วคราวที่ว่าการอำเภอแม่ลาน พันเอก ปรเมธ ศานุพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 นำเจ้าหน้าที่ทหารพรานกว่า 30 นาย เร่งเข้าช่วยอพยพชาวบ้าน กลุ่มเปราะบางขึ้นเรือทองแบน เจ็ตสกี จากหน่วย ศรชล.ภาค 2 นำข้าวกล่อง สิ่งของจำเป็นน้ำดื่มไปแจกให้ชาวบ้าน ขณะที่ระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สอบถามชาวบ้านหลายคนบอกตรงกันว่า มาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ปี 2530 ยังไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้ ปีนี้หนักกว่าปีที่แล้วมาก และน้ำมาเร็ว ทุกครั้งฝนตกหนักพอฝนหยุดน้ำจะแห้งทันที แต่ปีนี้น้ำไม่แห้งแต่เพิ่มขึ้น ได้ขนของไว้ที่สูงแล้ว แต่ไม่สามารถอยู่ในบ้านได้ เพราะน้ำเพิ่มต่อเนื่อง ปัจจุบัน จ.ปัตตานีมีพื้นที่ประสบสถานการณ์อุทกภัยทั้ง 12 อำเภอ 111 ตำบล 597 หมู่บ้าน 37294 ครัวเรือนเดือดร้อนแล้ว 138858 คน เสียชีวิตแล้ว 2 ราย
น้ำทะลักเข้า4รพ.สั่งปิดชั่วคราว
จากสถานการณ์น้ำในจ.ปัตตานี ระดับน้ำยังคงสูงขึ้นต่อเนื่อง เพราะฝนตกไม่หยุด ทำให้น้ำเอ่อท่วมโรงพยาบาลจนต้องประกาศปิดทำการชั่วคราว 4 แห่ง ได้แก่ 1 โรงพยาบาลหนองจิก โรงพยาบาลยะหริ่ง โรงพยาบาล ทุ่งยางแดง และโรงพยาบาลแม่ลาน โดยทั้ง 4 โรงพยาบาลเป็นพื้นที่ติดแม่น้ำทั้ง 2 สาย คือแม่น้ำปัตตานี และ แม่น้ำสายบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำท่วมสูงของจ.ปัตตานี โดยนายแพทย์อนุรักษ์ สารภาพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานีเผยว่า มีโรงพยาบาลต้องปิดชั่วคราวแล้ว 4 แห่ง เนื่องจากน้ำท่วมสูงในโรงพยาบาล และได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลไปอยู่ที่โรงพยาบาลสนาม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ป่วยเป็นการชั่วคราว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่พื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี พื้นที่เศรษฐกิจหลักของจังหวัดปัตตานี สถานการณ์น้ำสูงขึ้นกว่าเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนประมาณ 10 เซนติเมตร ทำให้ร้านค้าในเขตเทศบาลเมืองต้องปิดตัว เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ส่วนประชาชนออกมาจับจ่ายเพื่อตุนสินค้า เพราะเชื่อว่าน้ำท่วมอีกหลายวันกว่าจะลด
เทศบาลนครหาดใหญ่ปักธงแดงทั้งเมือง
ส่วนที่เทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 4 เมื่อเวลาประมาณ 04.00น. ประกาศ ยกธงแดง เตือนประชาชนในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ว่า มีมวลน้ำจากนอกพื้นที่จำนวนมากไหลเข้าคลองอู่ตะเภา และคลองหวะ ตั้งแต่ต้นน้ำและกลางน้ำ ส่งผลให้คลองหวะ คลองอู่ตะเภา และคลองระบายน้ำที่ 1 ล้นตลิ่ง และอาจท่วมพื้นที่ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ได้ ให้ประชาชนที่อาศัยในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ อพยพย้ายสิ่งของ ไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย และติดตามประกาศจากทางเทศบาลนครหาดใหญ่ อย่างใกล้ชิด
ถ.เพชรเกษมเข้าเมืองหาดใหญ่จมห้ามผ่าน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ช่วงเช้าวันเดียวกัน ในตัวเมืองหาดใหญ่เริ่มมีมวลน้ำทะลักเข้าท่วมเขตตัวเมือง และย่านเศรษฐกิจแล้ว ระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากในพื้นที่ยังมีฝนตกหนัก ทำให้น้ำจากคลองอู่ตะเภา และคลองระบายน้ำภูมินารถดำริ หรือคลองร.1 เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่โซนหาดใหญ่ทั้งหมดแล้ว ซึ่งเป็นโซนที่อยู่ชั้นนอกของตัวเมืองหาดใหญ่ และน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เส้นทางถนนเพชรเกษมขาเข้าเมืองหาดใหญ่ ด้านฝั่งหาดใหญ่ในถูกน้ำท่วมสูงถูกตัดขาดห้ามรถผ่าน ทำให้การจราจรติดขัด เพราะใช้ได้แค่สะพานเมตตาเท่านั้น
4อำเภอสงขลาหนักเจอน้ำฝนน้ำทะเลหนุน
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่จ.สงขลา ส่งผลกระทบทั้ง 16 อำเภอ โดยเฉพาะอ.สะเดาและ 4 อำเภอชายแดนของจ.สงขลาคือ อ.จะนะ อ.เทพา อ.นาทวี และอ.สะบ้าย้อย ได้รับผลกระทบหนักสุด ขณะที่หลายพื้นที่ของจังหวัดยังมีฝนตกต่อเนื่อง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน ทำให้ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่ริมลำคลอง และพื้นที่ติดริมทะเลสาบ อุทกภัยครั้งนี้ ยังส่งผลกระทบต่อทรัพย์สินและสาธารณูปโภคสร้างความเสียหายให้บ้านเรือน 109 หลัง พื้นที่เกษตรกรรมกว่า 10,522 ไร่ ถนน 22 สาย สะพาน 3 แห่ง คอสะพาน 1 แห่ง และโรงเรียน 2 แห่ง สำหรับการให้ความช่วยเหลือนั้น จังหวัดสั่งการให้อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และส่วนราชการแจกจ่ายอาหาร 24,102 กล่อง น้ำดื่ม 36,428 ขวด ถุงยังชีพ 4,671 ถุง ตั้งโรงครัว 37 แห่ง แจกจ่ายยาและเวชภัณฑ์ 4,994 ชุด และช่วยเหลือด้านอุปกรณ์ เครื่องมือ เรือ 93 ลำ เครื่องสูบน้ำ 65 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 6 เครื่อง รถ 6 ล้อยกสูง 9 คัน กระสอบทราย 50,125 กระสอบ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบายน้ำในพื้นที่น้ำท่วม ด้านนายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาสั่งให้ทุกภาคส่วนตรึงพื้นที่เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากฝนยังไม่หยุดตก คาดว่าหากไม่มีฝนตกอีก 1-2 วัน สถานการณ์จะเบาบางลง
น้ำท่วมฟาร์มหมูสงขลา480ตัวจม
ด้านผู้ประกอบอาชีพเลี้ยงสัตว์ ที่หมู่ 7 บ้านปลายเหมือง ต.จะโหนง อ.จะนะ มีฟาร์มหมูของนายสมคิด ไชยบุญแก้ว ชาว ต.จะโหนง ถูกน้ำทะเลอ่าวไทยหนุนเข้าท่วม และมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้บ้านพักและฟาร์มเลี้ยงหมูถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร กระแสน้ำไหลเชี่ยว หมูประมาณ 480 ตัว อายุประมาณ 4 เดือนถูกน้ำท่วม ต่างส่งเสียงร้องด้วยความตกใจ เจ้าของเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและทีมกู้ภัยให้เข้ามาช่วยเหลือเป็นการด่วน ก่อนหมูทั้งหมดจะจมน้ำตาย มูลค่าทั้งหมดประมาณ 4 ล้านบาท เจ้าของกำลังจะจับส่งขายปลายเดือนนี้
นราฯฝนตกต่อเนื่อง-คลองตันหยงล้น
เช่นเดียวกับที่จ.นราธิวาส นายวิมุตติ อำนักมณี นายอำเภอระแงะ จ.นราธิวาส เผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ที่ฝนตกหนักต่อเนื่อง ปริมาณฝนสะสม 3 วันที่ผ่านมา อยู่ที่ 935 มิลลิเมตร และระดับน้ำ คลองตันหยงมัสที่เป็นคลองสายหลัง ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 1.90 เมตร สถานการณ์ปีนี้รุนแรงว่าปีที่แล้ว แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกาศแจ้งเตือนประชาชนเป็นระยะ ทำให้ประชาชนอพยพมาอาศัยที่สูง อพยพผู้ป่วยติดเตียงไปไว้ที่รพ.ระแงะ แล้ว 20 คน และยังเปิดศูนย์อพยพ 5 แห่ง นอกจากนี้ ยังเปิดครัวพระราชทาน ผลิตอาหารกล่องแจกประชาชน
เตือนชาวระแงะระวังดินสไลด์
นายวิมุตติกล่าวต่อว่า สิ่งที่อยากได้รับความช่วยเหลือ เป็นเรื่องน้ำดื่ม และอาหารสด คาดว่า 2-3 วันถ้าไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มระดับน้ำจะเริ่มลด ทั้งนี้มี 107 ครัวเรือน 330 คน ซึ่งต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ระดับน้ำ ถ้าสูงขึ้นจะอพยพเพิ่ม สำหรับในพื้นที่ถนนทุกตำบลสายย่อย 22 เส้นทาง ถูกกระแสน้ำตัดขาดสัญจรไปมาไม่ได้ คาดว่าหลังวันที่ 1 ธันวาคม ฝนน่าจะลด น้ำน่าจะลดลง ถ้าไม่มีฝนตกลงมาอีก 4 วันทุกอย่างจะเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ อ.ระแงะ มีภูเขาห้อมล้อม เป็นภูเขาต้นน้ำ ซึ่งห่วงปริมาณน้ำฝนจะส่งผลให้น้ำป่าไหลลงมาสมทบกับน้ำในคลองตันหยงมัส จึงแจ้งเตือนเรื่องดินสไลด์ และให้อพยพประชาชนบริเวณพื้นที่เชิงเขาแล้ว
มท.1ลุยนราฯถกแผนช่วยน้ำท่วม4จว.ใต้
ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย พร้อมน.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จ.นราธิวาส ติดตามสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยประชุมติดตามสถานการณ์น้ำภาพรวมของ 4 จังหวัดคือ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา ซึ่งนายอนุทินเผยว่า เร่งประสานกรมบัญชีกลางเพื่อขยายวงเงินทดรองราชการในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดจากจังหวัดละ 20 ล้านบาท เป็น 50 ล้านบาท นอกจากนี้ สั่งให้อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) สนับสนุนสรรพกำลัง อุปกรณ์ตามที่จังหวัดร้องขอ โดยเฉพาะเรื่องเรือพาหนะ ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน นอกจากนี้ ยังกำลังให้จังหวัดดูแลเรื่องการประกอบอาหารสะอาด มีคุณภาพ แจกให้ผู้ประสบภัยครบ 3 มื้อ รวมถึงจัดเวรลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้ชาวบ้านด้วย
นายกฯส่งรมต.ลุยช่วยน้ำท่วมใต้
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) กล่าวว่า รัฐบาลเป็นห่วงประชาชนที่กำลังประสบภัยน้ำท่วมหลายจังหวัดในภาคใต้ และน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีสั่งให้รัฐมนตรีลงไปบัญชาการ เบื้องต้นพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหมได้ลงพื้นที่แล้ว รวมถึงนายอนุทิน นายกฯยังฝากให้กำลังใจประชาชน ส่วนเรื่องสิ่งของรัฐจะช่วยดูแล นอกจากนี้ ได้รับรายงานที่อำเภอหาดใหญ่ปักธงแดงเตือน 13 ชุมชน แปลจากที่สอบถามศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ทราบว่าอาหารดิบ ไม่พอ เพราะเส้นทางขนส่งถูกตัดขาด กำลังเร่งแก้ปัญหา นอกจากนี้ ยังมีปัญหาลำเลียงคนออกมา โดยเฉพาะกลุ่มคนชรา ที่เป็นไปอย่างยากลำบาก ซึ่งเราประสานนำเรือท้องแบน หน่วยงานทหารและภาคเอกชนเกือบ 50 ลำ นำกลุ่มเด็กและผู้ป่วย รวมถึงขนเครื่องอุปโภคบริโภคเข้าไปช่วยเหลือ และวันนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จะส่งเรือเข้าไปช่วยอีกประมาณ 100 ลำ
“อ้วน”บอกน้ำท่วมใต้คงไม่น่าห่วงเท่าเหนือ
“ยืนยันว่าขณะนี้ทุกฝ่ายเร่งทำงานเต็มที่ สถานการณ์ในพื้นที่ยังไม่กังวลเรื่องดินโคลนเหมือนอย่างอุทกภัยภาคเหนือ แต่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าช่วงสัปดาห์แรกต้องประสานงานดูแลให้ดี เท่าที่ประเมินสถานการณ์ คาดว่าฝนจะตกหนักอีก 2-3 วัน ถ้าไม่มีอะไรมากกว่านี้น้ำก็ ไหลลงทะเลไป หลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรจะลงพื้นที่ไปตรวจดูและเยี่ยมประชาชน” นายภูมิธรรมกล่าว และว่า การประเมินความเสียหายนั้น สั่งการไปแล้ว ให้เริ่มดำเนินการทันที การประเมินคงต่างภาคเหนือที่มีดินโคลนถล่ม เนื่องจากเหตุการณ์ในพื้นที่ภาคใต้เป็นเพียงน้ำหลากที่มาแล้วไป
“วันนอร์”จี้รบ.ช่วยปชช.4จว.เสียหาย90%
ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ว่า ได้รับรายงานฝนตกหนักมากกว่ารอบที่ผ่านมา เกือบทุกอำเภอใน 4 จังหวัด ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลาเสียหาย80-90 % เพราะน้ำมาเร็ว สิ่งที่ชาวบ้านเดือดร้อนนอกจากเรื่องทรัพย์สินที่ขนย้ายไม่ทัน ยังมีผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และเด็กเล็ก มีปัญหามากในการขนย้ายออก ต้องการเรือ พาหนะและรถสูงไปขนถ่าย ซึ่งวันนี้ทราบว่าทางรัฐบาลได้ให้ทหารช่างกองทัพ ส่งรถ ส่งเรือ 30-40 ลำที่สามารถเข้าไปขนชาวบ้านออกมา รวมทั้งเรือของกทม. คิดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายบางส่วน แต่สิ่งที่ชาวบ้านต้องการก็คือ น้ำประปา อาหารการกินก็ขาด เพราะในเมืองตลาดร้านค้าน้ำท่วมหมด หาซื้อของซื้อของกินของใช้ได้ยาก รัฐบาลต้องรีบส่งอาหารการกินของใช้ไปในพื้นที่โดยด่วนที่สุด
นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวต่อว่า น้ำท่วมครั้งนี้ท่วมมาก มากกว่าปีที่แล้ว บางแห่งมากถึง 2 เท่า ที่ไม่เคยท่วม อย่างตัวเมืองเขตเทศบาลเมืองยะลาครั้งนี้ท่วมหมด ทางรถไฟเดินรถไม่ได้ การคมนาคมถูกตัดขาดในหลายอำเภอ แม้ว่าฝนเริ่มชาแต่ยังไม่หยุด ถือเป็นเรื่องเดือดร้อนภัยพิบัติรุนแรงมากในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะที่บ้านตนเองในจังหวัดยะลาอยู่บนยอดเขา จึงยังไม่ท่วมจึงทำให้สามารถดูแลคนอื่นได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี