ศาลแขวงพระนครใต้ สั่งจำคุก"แก๊งปาร์ตี้เกย์"ใส่ กกน.ตัวเดียว เสพยาเสพติด 2 สำนวน โทษจำคุกให้รอลงอาญา สั่งคุมประพฤติ บริการสังคม ส่วนอีก 13 ราย สู้คดีส่งฝากขังศาลอาญากรุงเทพใต้ ก่อนได้ประกัน 12 คนๆละ 3.5 แสน ส่วนอีกคนไม่มีเงินประกัน ส่งนอนเรือนจำ
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 9 ธันวาคม ที่ศาลแขวงพระนครใต้ ถ.เจริญกรุง พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง4 (ยานนาวา) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องด้วยวาจา คดีหมายเลขดำ ย 315/ 2567นายหวัง เชิง โบ อายุ 24 ปี ชาวไต้หวัน เป็นจำเลย ความผิด พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพ และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
โจทก์ยื่นฟ้องสรุปว่าเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 67 เวลากลางคืน จำเลยได้มียาอีจำนวน 3 เม็ด ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด และตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข น้ำหนักสุทธิเท่าใดไม่ปรากฏชัดไว้ในครอบครองเพื่อเสพ อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายและจำเลยได้เสพยาอี ไม่ทราบปริมาณด้วยวิธีการกินยาอีเข้าไปเป็นเม็ด อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เหตุเกิดทีโรงแรมแห่งหนึ่งงานปาร์ตี้เกย์ ใส่กางเกงในตัวเดียว ที่ซ.สุขุมวิท 55 (ซ.ทองหล่อ) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
เจ้าพนักงานจับจำเลยพร้อมยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาอี)ชนิดเม็ดรูปการ์ตูนสีแดงบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบเลื่อนเปิด-กดปิด จำนวน 3 เม็ด ที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ
จำเลยให้การรับสารภาพตลาดข้อกล่าวหา โดยจำเลยไม่สมัครใจเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ขอให้ศาลลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด พ.ศ. 2564 มาตรา 1, 29, 90,134,107 และ164 ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องระบุชื่อยาเสพติดให้โทษประเภท 1 พ.ศ.2565 ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2565 และบัญชีท้ายประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องระบุชื่อยาเสพติดให้โทษประเภท 1 พ.ศ. 2565 ลำดับที่ 59 กฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ. 2567 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 32 ขอให้ศาลริบของกลาง
ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติดมาตรา 104, 107, 134, 162 และ 164 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ฐานเสพยาอี จำคุก 2 เดือน ปรับ 4,000 บาท ฐานมียาเสพติดประเภท 1 (ยาอี)ไว้ในครอบครองเพื่อเสพ จำคุก 2 เดือนและปรับ 6,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 ฐานมียาอี จำคุก 1 เดือน ปรับ 2,000 บาท ฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพ จำคุก 1 เดือน ปรับ 3,000 บาทรวม จำคุก 2 เดือน ปรับ 5,000 บาท ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษทุกประเภท ริบของกลาง ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี คุมความประพฤติจำเลยไว้มีกำหนด 1 ปี โดยให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง ทำงานบริการสังคม 12 ชั่วโมง และให้ไปรับการบำบัดอาการติดยาเสพติด ตามที่พนักงานคุมประพฤติเห็นสมควร
วันเดียวกันนี้ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง4 (ยานนาวา) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องด้วยวาจา นายพันธุ์ธรร อายุ 34 ปี เป็นจำเลย ในความผิดฐาน มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (คีตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพ และเสพวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (คีตามีน)โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี)ไว้ในครอบครองเพื่อเสพ และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค 67 เวลากลางคืนจำเลยได้มีคีตามีนอันเป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด และตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข โดยจำเลยมียาเสพติด คีตามีน 3 ถุง รวมน้ำหนัก 0.37 กรัมไว้ในครอบครองเพื่อเสพ จำเลยได้เสพคีตามีนจำนวนและปริมาณเท่าใดไม่ปรากฏชัด โดยวิธีการใช้หลอดพลาสติกสูตรดมผงคีตามีนเข้าทางจมูกของจำเลยอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
นอกจากนี้ จำเลยยังมียาอี อันเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 จำนวน 1 เม็ดและ 1 ชิ้น น้ำหนักสุทธิเท่าใดไม่ปรากฏชัดไว้ในครอบครองเพื่อเสพ เป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย โดยจำเลยได้เสพยาอีอันเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ด้วยวิธีการกินยาอีเข้าไปเป็นเม็ด อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เหตุเกิดที่แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
เจ้าพนักงานจับกุมจำเลยพร้อมยึดของกลางคีตามีนชนิดผงสีขาวบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบเลื่อนปิด ดึงเปิดจำนวน 3 ถุง และยาเสพติดประเภท 1 ยาอีชนิดเม็ดรูปสี่เหลี่ยมบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบเลื่อนเปิด กดปิดจำนวน 1 เม็ด ที่จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดมีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ
ชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพ โดยจำเลยไม่สมัครใจเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด
ขอให้ศาลลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดพ.ศ. 2564 มาตรา 1, 29, 30, 90, 104, 107, 134, 162 และ 164 ประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องระบุชื่อวัตถุออกฤทธิ์และประเภท 2 พ.ศ. 2565 ลงวันที่ 9 มิถุนายน 2565 และตามบัญชีท้ายประกาศกระทรวงสาธารณสุขดังกล่าวชื่อ วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ลำดับที่ 17 กฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในการครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ. 2567 ข้อ 5 (ข) ประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 พ.ศ 2565 ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2565 และบัญชีท้ายประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 พ.ศ 2565 ลำดับที่ 59 กฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพพ.ศ 2567 ข้อ 2 (1) (ช) ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 32, 91 และ พ.ร.บ.แก้ไขเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 ขอให้ศาลเป็นของกลาง
พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติดมาตรา 104,107, 162, 164 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ฐานเสพคีตามีน จำคุก 2 เดือน ปรับ 4,000 บาท ฐานมีวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (คีตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพ จำคุก 4 เดือน ปรับ 8,000 บาท ฐานเสพยาอี จำคุก 2 เดือน ปรับ 4,000 บาท ฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพ จำคุก 2 เดือน ปรับ 6,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 ฐานเสพคีตามีน จำคุก 1 เดือน ปรับ 2,000 บาท ฐานมีวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (ยาอี) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพ จำคุก 2 เดือน ปรับ 4,000 บาทฐานเสพยาอี จำคุก 1 เดือน ปรับ 2,000 บาท ฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพ จำคุก 1 เดือน ปรับ 3,000 บาท คงจำคุก 5 เดือน ปรับ 11,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อนโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 ห้ามจำอะไรเกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษทุกประเภท และ ริบของกลาง ให้คุมประพฤติจำเลยโดยให้จำเลยไปรายงานตัวกับพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้งภายในกำหนดระยะเวลา 1 ปี กับให้จำเลยทำงานบริการสังคม 12 ชั่วโมง
นอกจากนี้พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ยังได้นำตัวผู้ต้องหา 13 คน ในคดีเดียวกันที่ให้การปฏิเสธต่อสู้คดีไปยื่นคำร้องฝากขังต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ฝากขัง ในข้อหาเสพยาอีและครอบครองฯ หรือจำหน่ายยาอี และคีตามีน โดยทั้ง 13 คนมีเพียงรายเดียวที่ถูกคุมขังเนื่องจากไม่มีเงินประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 12 คนได้รับการประกันตัวคนละ 3.5 แสนบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี