ผบช.น.ยอมรับมีการอบรม"อาสาตำรวจจีน"จริง แต่เจ้าของโครงการ ไม่ใช่ตำรวจนครบาล 3 เพียงแต่ถูกเชิญไปเป็นวิทยากรเท่านั้น ส่วนเจ้าของโครงการเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านฝั่งธนบุรี ด้านผบก.น.3 สั่งตั้งสอบข้อเท็จจริงทันที หากพบเข้าข่ายกระทำความผิดจะลงโทษทางวินัย-อาญา พร้อมยืนยันกองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ไม่ได้จัดหลักสูตรดังกล่าว

2 ม.ค.67 จากกรณีกระแสข่าวตำรวจนครบาล 3 จัดการอบรมอาสาตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้กับคนจีน พร้อมเรียกเก็บค่าหลักสูตรถึง 38,000 บาทต่อราย เมื่อจบหลักสูตรจะได้รับใบประกาศนียบัตรผู้ผ่านการฝึกอบรม ซึ่งก่อนหน้านี้ สส.พรรคประชาชน ได้โพสต์ตั้งคำถามถึงกรณีดังกล่าว ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น ( อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :  'ศุภมาส'เต้นผาง!! สั่งตรวจสอบคอร์สอบรม'อาสาตำรวจจีน' หลังสส.โพสต์แฉจ่าย 38,000 บ./หัว)

ล่าสุด พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า หลังได้รับรายงานกระแสข่าวดังกล่าว ตนได้สั่งการให้ พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 ได้รายงานกลับมาเบื้องต้นว่า ข่าวดังกล่าวเป็นเรื่องจริง แต่การอบรมดังกล่าวเป็นโครงการที่ทางมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านฝั่งธนบุรี เป็นเจ้าของโครงการ โดยได้เชิญตำรวจนครบาล 3 ไปเป็นวิทยากร ในการฝึกอบรม

ส่วนประเด็นการให้สิทธิ์คนจีนเข้ารับอบรมตำรวจอาสานั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าผู้กำกับการสืบสวน กองบังคับการนครบาล 3 เกี่ยวข้องอะไรกับโครงการดังกล่าว และเป็นผู้เซ็นรับรองในประกาศนียบัตรจริงหรือไม่

ขณะที่ บช.น.ชี้แจงกรณีมีการจัดอบรมนักศึกษาชาวจีน เพื่อเป็นอาสาสมัครตำรวจ บช.น.ได้รับรายงานจาก บก.น.3 ได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น ปรากฏรายละเอียด ดังนี้

1. ผกก.สส.บก.น.3 รายงานว่า มหาวิทยาลัยสยาม ได้จัดอบรมหลักสูตรแจ้งข่าวอาชญากรรม และให้ความรู้ในการป้องกันตัวเองแก่นักศึกษาต่างชาติ โดยมหาวิทยาลัยเป็นผู้ดำเนินการจัดอบรมและขอความร่วมมือจาก กก.สส.บก.น.3 เป็นที่ปรึกษา แนะนำให้ความรู้ทาง ผกก.สส.บก.น.3 เห็นว่าเป็นประโยชน์ จึงมอบหมายให้ พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ ช่วงวงศ์ รอง ผกก.สส.บก.น.3 เป็นผู้ประสานงาน โดยมหาวิทยาลัยสยามเป็นผู้จัดการอบรม ใช้งบประมาณและสถานที่ตามที่มหาวิทยาลัยสยามกำหนด

2. จากการตรวจสอบทราบว่า มหาวิทยาลัยสยาม ได้มีหนังสือ ที่ 13DECC2567CHI1ac1 ลงวันที่ 13 ธ.ค. 2567 โดยมี Dr.LI ZHANG ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนานาชาติ มหาวิทยาลัยสยาม เป็นผู้ลงนาม ถึง ผกก.สส.บก.น.3 จัดทำโครงการฝึกอบรมนักศึกษานานาชาติ มหาวิทยาลัยสยาม จำนวน 30 คน และขอความอนุเคราะห์จัดวิทยากรพิเศษบรรยาย โดยมี พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ เป็นผู้ประสานงานและผู้ร่วมพัฒนาร่างโครงการ ซึ่งโครงการดังกล่าว มหาวิทยาลัยสยาม เป็นผู้จัดอบรมและออกค่าใช้จ่าย และมีการออกใบประกาศเกียรติคุณ ลงวันที่ 27 ธ.ค. 2567 ให้แก่ผู้ผ่านการอบรม ว่าได้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นสมาชิกแจ้งเหตุข่าวอาชญากรรม และการจราจร ด้านการมีส่วนร่วมของนักศึกษาและประชาชน ลงนามโดย Dr.LI ZHANG ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนานาชาติ มหาวิทยาลัยสยาม และ ผกก.สส.บก.น.3

3. ตามระเบียบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการส่งเสริมให้ประชาชน ชุมชน ท้องถิ่นและองค์กรมีส่วนร่วมในกิจการตำรวจ พุทธศักราช 2551 ผู้ที่จะเป็นอาสาสมัครตำรวจบ้าน หรืออาสาจราจร ต้องผ่านการคัดเลือกจากสถานีตำรวจ และสถานีตำรวจเป็นผู้จัดทำโครงการฝึกอบรม โดยมีการเกณฑ์การคัดเลือกจากผู้มีสัญชาติไทยและอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ หรือชาวต่างชาติที่สมรสกับคนไทยและมีถิ่นที่อยู่อาศัยอันเป็นปกติในเขตพื้นที่สถานีตำรวจ ต้องมีการรับรองจากบุคคลที่เชื่อถือได้หรือตำรวจรวม 3 คน ปฏิบัติหน้าที่ได้ คราวละ 2 ปี ซึ่งกรณีดังกล่าว เป็นการจัดกิจกรรมของมหาวิทยาลัยสยาม ซึ่งทาง บก.สส.บก.น.3 ไม่ได้เป็นผู้จัดอบรม แต่อย่างใด

4. สำหรับการใช้เครื่องหมายราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งการใช้สัญลักษณ์ตัวอักษร CIB ระบุว่า ตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งเป็นหน่วยงานของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะได้ทำการตรวจสอบว่าได้รับอนุญาตให้ใช้หรือไม่ อย่างไร อีกส่วนหนึ่ง หากพบว่ามีการนำเครื่องหมายราชการไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อให้คนที่พบเห็นเข้าใจว่าทำงานในหน่วยงานนั้นๆ ก็เข้าข่ายกระทำผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายราชการ พุทธศักราช 2482 มาตรา 6 และ 8 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับไม่เกิน 2,000 บาท

5. เบื้องต้น ผบก.น.3 ได้มีคำสั่ง บก.น.3 ที่ 1/2568 ลงวันที่ 2 ม.ค. 2568 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยมี พ.ต.อ.สุทธิศักดิ์ วันที รอง ผบก.น.3 เป็นประธาน หากพบว่ามีการกระทำผิดวินัย จะได้ดำเนินการทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เกี่ยวข้องต่อไป.