จับนอภ.เหนือคลอง

รีดรับเงินผู้รับเหมา

ปปท.-ปปป.-ปปช.

ตามรวบคาที่ทำงาน

ป.ป.ท.จับมือ ตำรวจ บก.ปปป.และป.ป.ช.บุกรวบ “นายอำเภอเหนือคลอง”ใน จ.กระบี่ พร้อมพวก เรียกรับเงินผู้รับเหมาก่อสร้าง “โครงการปรับปรุงอาคารที่พักข้าราชการ” เจ้าหน้าที่วางแผน ตามจับกุมตัวได้คาที่ทำงาน

เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) มอบหมายให้ พ.ต.ท.สราวุธ คำเหลือง ผอ.กองอำนวยการต่อต้านการทุจริต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.บูรณาการร่วมกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.อ.สมศักดิ์ เนียมเล็ก ผกก.5 บก.ปปป.และนายไพโรจน์ นิยมเดชา ผอ.กลุ่มสืบสวน และปฏิบัติการข่าว 2 สำนักงาน ป.ป.ช.เข้าจับกุม นายวิชญุตม์ อายุ 47 ปี นายอำเภอเหนือคลอง จ.กระบี่ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น , เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต , เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

นอกจากนี้ได้จับกุม นางอุไรวรรณ อายุ 53 ปี เจ้าหน้าที่ปกครองชำนาญงาน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในความผิดฐานสนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบข่มขืนใจหรือจูงใจ ให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น , เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต , เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

ทั้งนี้ เนื่องจากช่วงเดือนพฤษภาคม 2567 ได้มีผู้เสียหายทำสัญญาก่อสร้างโครงการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารที่พักข้าราชการ ราคาจ้างเหมา 500,000 บาท มีนายอำเภอคนดังกล่าว เป็นผู้รับมอบอำนาจจาก ผวจ.กระบี่ ลงนามเป็นผู้ว่าจ้างโครงการ ต่อมาในช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2567 นายอำเภอรายนี้ ได้พูดคุยเกี่ยวกับงานที่กำลังก่อสร้างตามสัญญาจ้าง และระบุว่า “เสร็จงานแล้ว ให้นาย 50,000 นะ” กระทั่งเมื่อการก่อสร้างเสร็จสิ้น มีการตรวจรับงานถูกต้องครบถ้วนตามสัญญา ผู้กล่าวหาได้รับเงินค่าจ้างครบถ้วนแล้ว จากนั้นประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน 2567 ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ได้โทรศัพท์บอกกับผู้เสียหาย ว่านายอำเภอ ฝากบอกให้นำเงินไปให้ ถ้าไม่ให้ก็จะให้ไปรับเอาหนังสือลาออกจากการเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน

ต่อมา ผู้เสียหายได้โทรศัพท์ไปสอบถามนางอุไรวรรณ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ปกครองชำนาญงาน ทำหน้าที่หน้าห้องปลัดอาวุโส เกี่ยวกับเรื่องเงินดังกล่าว แต่ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน ผู้เสียหายจึงไปหานายอำเภอ ตามกำหนดนัดหมาย แต่ไม่พบ ระหว่างนั้นก็มีบุคคลโทรศัพท์มาหาแจ้งว่า ทางนายอำเภอ ให้นำเงินไปให้ โดยนำไปให้หลายครั้ง ภายหลังจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นและขอคำปรึกษาจากทาง ป.ป.ช.จังหวัดกระบี่

จากนั้นจึงได้ร่วมกันวางแผนรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อยืนยันการกระทำผิดของผู้ต้องหา มีการนำเงินบางส่วน เป็นจำนวน 10,000 บาท ไปมอบให้นายอำเภอ แต่กลับให้ฝากเงินไว้กับนางอุไรวรรณ เมื่อผู้เสียหายเห็นว่าไม่สามารถมอบเงินให้กับนายอำเภอ ได้ตามแผนที่วางไว้ จึงทำทีพูดคุยเรื่องเงินที่นำมามอบให้ ต่อหน้าปลัดอาวุโส และนางอุไรวรรณ พร้อมกับนำเงินที่เตรียมมา ออกมาวางไว้ ซึ่งนางอุไรวรรณ ได้หยิบเงินไป หลังจากนั้นทางผู้เสียหายได้โทรศัพท์สอบถามแล้วได้รับการยืนยันว่าได้ส่งมอบเงินให้นายอำเภอ แล้ว จึงเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน บก.ปปป.ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งสอง

อย่างไรก็ตาม ภายหลังพนักงานสอบสวน บก.ปปป.ได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด จึงขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสอง และเมื่อผู้เสียหายได้นำเงินไปส่งมอบให้แก่ผู้ต้องหาภายในห้องทำงาน ทางตำรวจ บก.ปปป.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท.และ ป.ป.ช.จึงแสดงตัวเข้าจับกุมผู้ต้องหา และส่งตัวผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวนรับไว้ดำเนินคดีต่อไป ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา