พ่อพาลูกสาววัย 15 ร้องทนายถูกญาติขืนใจ คดีไม่มีความคืบหน้า ตร.อ้างลืม

พ่อพาลูกสาววัย 15 ร้องทนายถูกญาติขืนใจ คดีไม่มีความคืบหน้า ตร.อ้างลืม

วันอังคาร ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2568, 14.32 น.

พ่อพาลูกสาววัย 15 ปีร้องทนายถูกญาติขืนใจ ขู่ไม่ให้ไปบอกใคร เผยไปแจ้งความกับตำรวจแล้วแต่คดีไม่มีความคืบหน้า ทางตำรวจบอกว่าลืม

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 14 ม.ค.68 นายบุญยืน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 66 ปีอาชีพเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ได้พา น.ส.เปิ้ล (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ลูกสาวนำหลักฐานเข้าร้องมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคมว่าลูกสาวถูกหลานชายแท้ๆ บังคับล่วงละเมิดทางเพศ สำเร็จ 3 ครั้ง แถมข่มขู่ไม่ให้ไปบอกใคร และไม่ให้ไปแจ้งความ อ้างว่าแจ้งความก็ไม่มีใครเชื่อ


นายบุญยืน กล่าวว่า ครั้งแรกที่ลูกสาวโทรมาบอกหัวใจตนแทบสลาย เพราะไม่คิดว่าลูกจะต้องเจอคนในครอบครัวกระทำเช่นนี้ ตอนนี้ลูกสาวอยู่ในภาวะที่เครียดมาก หลังเกิดเหตุได้พาลูกสาวไปแจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้อง แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า ลูกโทรไปสอบถามทางตำรวจบอกว่าลืม ตนรู้สึกน้อยใจคิดเองว่าตนคงเป็นเพียงแค่ รปภ.ไม่รู้จักคนใหญ่คนโต จึงไม่มีคนสนใจ จึงตัดสินใจพาลูกสาวเดินทางมาที่มูลนิธิรณณรงค์ฯ เพื่อมาเรียกร้องความยุติธรรมให้กับลูกสาว และขอความช่วยเหลือให้ทางมูลนิธิรณณรงค์ฯ ช่วยติดตามในเรื่องของคดี

น.ส.เปิ้ล (นามสมมุติ) ให้ข้อมูลว่า ตนมีปัญหาทะเลาะกับพ่อเลยเกิดน้อยใจ ตนจึงได้โทรไปร้องไห้กับพี่เขาและปรึกษากับพี่เขาเนื่องจากเราสนิทกันตั้งแต่เด็ก ทางพี่เขาก็แนะนำว่าถ้าไม่สบายใจก็ให้มาอยู่กับพี่ก่อน ก็เลยไปคุยกับพี่เขาว่าอยากทำงานและหางานให้ทำหน่อยได้ไหม ตอนอยู่กับเขาตอนแรกเขาก็ไม่มีอาการอะไรเลย ต่อมาอาการเขาเริ่มไม่ปกติ เขาพยายามเข้ามาถูกเนื้อถูกตัว ใช้ให้เหยียบหลัง ตนรู้แล้วว่ามันผิดปกติก็พยายามจะลุกเดินหนี จากนั้นเขาก็ฉุดแขนลงนอนแล้วใช้มือบีบคอ ใช้กำลังขืนใจ ตนพยายามต่อสู้แต่ก็สู้แรงเขาไม่ได้ สุดท้ายโดยกระทำไป 1 ครั้ง หลังจากที่เขากระทำเสร็จได้บอกว่าอย่านำเรื่องนี้ไปบอกใคร อย่าให้เมียเขารู้ และพ่อรู้ 

ครั้งที่สองวันนั้นเมียเขาออกไปทำงาน ตนนอนอยู่ที่ด้านล่าง เขาก็เข้ามาใช้กำลังขืนใจอีก 1 ครั้ง ตอนนั้นตนไม่มีที่ไปก็เลยจำเป็นต้องอยู่กับเขา ส่วนครั้งที่สาม เขาทะเลาะกับเมียของเขา แล้วเมียของเขาก็ออกไปนอกบ้าน แล้วเขาก็มาพยายามจะทำกับตนอีกครั้ง แต่ครั้งจากนั้นตนพยายามใจดีสู้เสือหลอกให้เขาตายใจใช้คำพูดดีกับเขา จากนั้นก็หนีออกจากบ้านเมื่อออกมาได้ตนตัดสินใจโทรบอกแม่เลี้ยง แล้วแม่เลี้ยงก็โทรบอกพ่อ หลังพูดคุยกันทางพ่อได้พาเข้าแจ้งความ

ด้านนายรภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยศิลป์ รองประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทางพ่อและน้องไปแจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้อง ทางตำรวจแจ้งว่าจะนัดผู้เสียหายมาสอบปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพ จนผ่านมาเกือบ 2 เดือน คดีไม่มีความคืบหน้า แต่ที่น่าตกใจมากทางตำรวจบอกว่าลืม แม้กระทั่งใบตรวจร่างกายก็บอกว่าลืม หลังจากวันนี้ทางมูลนิธิรณณรงค์ จะพาผู้เสียหายไปติดตามความคืบคดีที่ สน.ทุ่งสองห้อง ว่าต่อไปนี้จะดำเนินการต่อไปอย่างไร 

"สำหรับเรื่องนี้ถึงแม้ว่าผู้เสียหายจะยอมหรือไม่ยอมมันก็เป็นความผิด มีโทษทั้งจำคุกและก็ปรับ ตำรวจเองที่เป็นพนักงานสอบสวนก็ควรจะติดตามคดีเพราะเป็นเรื่องเด็กและที่สำคัญเป็นผู้หญิง ไม่ควรปล่อยปะละเลย ถ้าปล่อยให้เวลาผ่านไปมันจะส่งผลกระทบหลายอย่าง" นายรภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยศิลป์ กล่าว - 003

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top