นอภ.ทองผาภูมิ ประกาศใช้กฎเหล็ก ห้ามเผาป่า ทั้งในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันพิษฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 หากฝ่าฝืน แล้วถูกจับ เจอทั้งคุกทั้งปรับ แถมอาจเจอ พรบ.อุทยานฯฉบับใหม่ 2562 จำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี ปรับตั้งแต่ 400,000-2,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
วันนี้ 17 ม.ค.68 นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า อำเภอทองผาภูมิเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี มีพื้นที่ 3,655.171 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 228,4481.875 ไร่ ซึ่งเป็นอำเภอที่มีพื้นที่มากที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรี อำเภอทองผาภูมิมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญมากมาย เช่น ถ้ำ น้ำตก ภูเขา ที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ และอุทยานแห่งชาติเขาแหลม รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำภายในเขื่อนวชิราลงกรณ
ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอสังขละบุรี และอำเภออุ้มผาง (จังหวัดตาก) ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอบ้านไร่ (จังหวัดอุทัยธานี) และอำเภอศรีสวัสดิ์ ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอไทรโยค ทิศตะวันตก ติดต่อกับภาคตะนาวศรี (ประเทศพม่า) ลักษณะภูมิประเทศ เป็นป่าเบญจพรรณแล้ง มีเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนเป็นส่วนใหญ่ มีที่ราบบ้าง บริเวณริมแม่น้ำแควน้อย และที่ราบระหว่างภูเขา มีพื้นที่ลาดเอียงลงสู่แม่น้ำ มีแม่น้ำแควน้อยไหลผ่าน ฝั่งตะวันตกเป็นชุมชนเมืองเป็นศูนย์รวมด้วยการพาณิชย์ และสถานที่ราชการสำคัญ ๆ ฝั่งตะวันออกเป็นชุมชน ที่อยู่อาศัย
อำเภอทองผาภูมิ มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 8 แห่ง ประกอบด้วย 1.เทศบาลตำบลทองผาภูมิ ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลท่าขนุน 2.เทศบาลตำบลสหกรณ์นิคม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลสหกรณ์นิคมทั้งตำบล 3.เทศบาลตำบลท่าขนุน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลท่าขนุน (นอกเขตเทศบาลตำบลทองผาภูมิ) 4.เทศบาลตำบลลิ่นถิ่น ครอบคลุมพื้นที่ตำบลลิ่นถิ่นทั้งตำบล 5.องค์การบริหารส่วนตำบลปิล๊อก ครอบคลุมพื้นที่ตำบลปิล๊อกทั้งตำบล 6.องค์การบริหารส่วนตำบลหินดาด ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหินดาดทั้งตำบล 7.องค์การบริหารส่วนตำบลชะแล ครอบคลุมพื้นที่ตำบลชะแลทั้งตำบล และ 8.องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยเขย่ง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลห้วยเขย่งทั้งตำบล
นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ กล่าวว่า สภาพอากาศปัจจุบันนี้อยู่ในช่วงฤดูหนาว ซึ่งฤดูใบไม้ผลิที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน ของทุกปี ทำให้ใบไม้สะสมกองอยู่กับพื้นด้วยปริมาณที่หนาแน่น เมื่อถึงฤดูหนาวที่มีอากาศแห้ง จึงกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ซึ่งไฟป่าสามารถเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติโดยเฉพาะบนยอดเขา แต่มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก
สาเหตุหลักของการเกิดไฟป่าที่พบในปัจจุบันซึ่งประชาชนทุกคนต่างก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าเกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว เช่น การลอบวางเพลิง การตั้งแคมป์กองไฟที่ไม่ได้รับการดูแล สามารถเกิดได้จากสิ่งเล็กๆ อย่างก้นบุหรี่ที่ยังไม่ได้ดับรวมถึงการเผาขยะ รวมถึงจุดเพื่อเหตุผลทางการเกษตร การล่าสัตว์ป่า หาของป่า และตีผึ้ง จนลามจากพื้นที่หนึ่งไปยังอีกพื้นที่หนึ่ง จากการลามของเชื้อไฟหรือถูกกระแสลมพัดเอาเศษซากเชื้อไฟกระจายไปยังพื้นที่ป่าใกล้เคียงได้อย่างอิสระเสรี โดยไม่มีขอบเขต ปัญหาที่ตามมาคือทำให้เกิดหมอกควันจากไฟป่า ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทั่วไป
ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาข้างต้นที่จะเกิดขึ้นและเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย และนโยบายของนายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี อำเภอทองผาภูมิ จึงประกาศห้ามเผาป่า รวมถึงเผาในที่โล่งทุกรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-30 เม.ย.หรือจนกว่าสถานการณ์ไฟป่าจะเข้าสู่สภาวะปกติหากฝ่าฝืนแล้วถูกจับกุมตัวได้ จะต้องถูกดำเนินคดีมีโทษทั้งจำคุกและปรับ โดยไม่มียกเว้น เพราะผู้กระทำผิดรู้อยู่ก่อนแล้วว่าการเผาป่า เป็นคำสั่งห้ามที่เคร่งครัดอยู่แล้วแต่ก็ยังฝืนทำ หากประชาชนหรือนักท่องเที่ยวพบเห็นจุดที่เกิดไฟไหม้ ขอให้แจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 034-599740
สำหรับพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ ส่วนใหญ่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ และอุทยานแห่งชาติเขาแหลม โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ออกมาแจ้งเตือนแล้วว่า หากจุดไฟแล้วเกิดลุกลามเข้าพื้นที่ป่าในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์หรือสวนรุกขชาติ จะเป็นการตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 400,000-2,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับตามมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ ฉบับใหม่ พ.ศ. 2562
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี