ทั่วไทยสำลักฝุ่น

กทม.ส้มทุกเขต-10จว.แดงโร่

แนวโน้มPM2.5พุ่งต่อถึง9ก.พ.

กทม.ยังสำลักฝุ่น PM2.5 สีส้มทั้ง 50 เขต ค่าเฉลี่ยเกิน 60 มคก./ลบ.ม.เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ แนะปชช.ต้องใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน “หนองจอก” รั้งแชมป์ขณะที่ 10 จว.แดงโร่ คาดการณ์แนวโน้มฝุ่นพุ่งต่อเนื่องถึง 9 กุมภาพันธ์

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน(PM 2.5) ในกรุงเทพมหานคร ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานครอยู่ที่ 60.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) เกินมาตรฐานในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพจำนวน 69 พื้นที่ และมี 12 พื้นที่ที่ค่าฝุ่น PM 2.5 สูงสุดในกรุงเทพมหานคร ได้แก่

1 เขตหนองจอก 73.9 มคก./ลบ.ม. 2 เขตลาดกระบัง 73.5 มคก./ลบ.ม. 3 เขตบึงกุ่ม 72.6 มคก./ลบ.ม. 4 เขตมีนบุรี 71.5 มคก./ลบ.ม. 5 เขตทวีวัฒนา 71.1 มคก./ลบ.ม. 6 เขตหนองแขม 70.9 มคก./ลบ.ม. 7 เขตคลองสามวา 70.9 มคก./ลบ.ม. 8 เขตคันนายาว 70.4 มคก./ลบ.ม. 9 เขตบางกอกน้อย 68.1 มคก./ลบ.ม. 10 เขตบางขุนเทียน 67.6 มคก./ลบ.ม. 11 สวนหนองจอก เขตหนองจอก 67.4 มคก./ลบ.ม. 12 เขตราษฎร์บูรณะ 67 มคก./ลบ.ม.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กทม.ยังจำแนกพื้นที่กรุงเทพเหนือ วัดค่าฝุ่นได้ 55.3 - 64.2 มคก./ลบ.ม. กรุงเทพตะวันออก 53.4 - 73.9 มคก./ลบ.ม. กรุงเทพกลาง 53.9 - 64.6 มคก./ลบ.ม. กรุงเทพใต้ 55.1 - 66.7 มคก./ลบ.ม. กรุงธนเหนือ 58.9 - 71.1 มคก./ลบ.ม. กรุงธนใต้ 54.2 - 70.9 มคก./ลบ.ม.

ขณะที่ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ กรมควบคุมมลพิษ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศประจำวัน เมื่อเวลา 07:00 น. สรุปภาพรวมปริมาณ PM2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐานใน จ.ปทุมธานี กรุงเทพฯ จ.นนทบุรี จ.นครปฐม จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรปราการ จ.น่าน จ.พะเยา จ.ลำปาง จ.แพร่ จ.อุตรดิตถ์ จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก จ.ตาก จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ จ.นครสวรรค์ จ.อุทัยธานี จ.ชัยนาท จ.สิงห์บุรี จ.ลพบุรี จ.สระบุรี จ.อ่างทอง จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ราชบุรี จ.สมุทรสงคราม จ.เพชรบุรี จ.ปราจีนบุรี จ.สระแก้ว จ.ฉะเชิงเทรา จ.ชลบุรี จ.ระยอง จ.จันทบุรี จ.ตราด จ.ชุมพร จ.หนองคาย จ.เลย จ.อุดรธานี จ.นครพนม จ.หนองบัวลำภู จ.สกลนคร จ.มุกดาหาร จ.ขอนแก่น จ.กาฬสินธุ์ จ.มหาสารคาม จ.ร้อยเอ็ด จ.อำนาจเจริญ จ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี จ.ศรีสะเกษ จ.นครราชสีมา จ.บุรีรัมย์ และ จ. สุรินทร์

เมื่อตรวจวันค่าฝุ่นเป็นรายภาคพบว่า ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐาน 13 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 13.3 - 63.3 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 33.8 - 76.7 มคก./ลบ.ม.

ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 29.0 - 85.3 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออก เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 28.5 - 68.0 มคก./ลบ.ม. ภาคใต้ เกินค่ามาตรฐาน 1 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 19.2 - 41.5 มคก./ลบ.ม. กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 45.1 - 74.5 มคก./ลบ.ม.

นอกจากนี้ กรมควบคุมมลพิษยังคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่น 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 2 - 8 กุมภาพันธ์ โดยพื้นที่กทม.และปริมณฑลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นวันที่ 2 - 5 กุมภาพันธ์ และยังคงต้องเฝ้าระวังในบางพื้นที่ ขณะที่ 17 จังหวัดภาคเหนือมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นวันที่ 3 - 5 กุมภาพันธ์ และยังคงต้องเฝ้าระวังในบางพื้นที่ เช่นเดียวกับ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นวันที่ 2 - 4 กุมภาพันธ์ และยังคงต้องเฝ้าระวังในบางพื้นที่ ภาคตะวันออก มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นวันที่ 2 - 5 กุมภาพันธ์ยังต้องเฝ้าระวังในบางพื้นที่ ส่วนภาคใต้สถานการณ์ฝุ่นดีอย่างต่อเนื่อง

เช่นเดียวกับ แอปฯ IQAir ตรวจสอบคุณภาพอากาศ รายงานว่า เวลา 07:50 น. พบพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน 10 อันดับแรกของไทย ได้แก่ อ.ปลวกแดง จังหวัดระยอง อ.บางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ อ.เมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม อ.อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว อ.เมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น อ.ศรีราชา จังหวัดชลบุรี อ.เมืองระยอง จังหวัดระยอง อ.เมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร อ.เมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา

สรุปภาพรวมสถานการณ์ฝุ่น อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพทุกพื้นที่ในระดับสีส้ม พร้อมกันนี้มีข้อแนะนำประชาชนทั่วไป ให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก นอกจากนี้ ยังคาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ฝุ่นตั้งแต่วันนี้ (1 กุมภาพันธ์)-9 กุมภาพันธ์) การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์อ่อน ประกอบกับมีการเกิดอินเวอร์ชั่นใกล้ผิวพื้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มลพิษทางอากาศแพร่กระจายได้จำกัด ส่งผลให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มทรงตัว