11 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ‘ข้าวเกรียบงาดำ’ เมนูขนมไทยโบราณ เป็นของฝากยอดนิยมของจังหวัดเพชรบุรีมาช้านาน ในอดีต ข้าวเกรียบงาดำที่ขึ้นชื่อที่ผู้มาเยือนเมืองเพชรบุรีจะต้องซื้อติดไม้ติดมือกันเป็นประจำ จะมีทั้งร้าน ‘เพชรปิ่นแก้ว’ ‘เจือทิพย์’ ‘ไทยสว่าง’ หรือ ‘ข้าวเกรียบน้ำเพชร’ แต่ปัจจุบันร้านเหล่านี้ได้เป็นเพียงรอยอดีตไปแล้ว

ปัจจุบัน นางนิตยา เข็มทอง หรือ ‘ป้าหมง’ อายุ 65 ปี ชาวบ้านโตนดหลาย ต.ช่องสะแก อ.เมือง จ.เพชรบุรี ได้อนุรักษ์สืบทอดการทำข้าวเกรียบงาดำต้นตำรับเมืองเพชรบุรี มานานกว่า 50 ปี ส่งขายให้แก่ร้านขายของฝากชื่อดังหลายร้าน สร้างสร้างรายได้งานถึงเดือนละประมาณ 3 หมื่นกว่าบาท

‘ป้าหมง’ เปิดเผยว่า ได้ช่วยคุณแม่ทำข้าวเกรียบงาดำตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ป.4 ในสมัยก่อนคุณแม่จะใช้น้ำตาลโตนดเป็นวัตถุดิบหลักในการผสมกับแป้งข้าวจ้าว มะพร้าว เกลือทะเล และงาดำ นำมาละเลงเป็นแผ่นวงกลมที่ผ้าขาวบนหม้อนึ่ง นำไปตากแห้ง บรรจุหีบห่อด้วยกระดาษแก้วสีแดง สีเขียว สีขาว และสีเหลือง ส่งขายให้แก่ร้านขายของฝากทั้ง เพชรปิ่นแก้ว ,  เจือทิพย์ , ไทยสว่าง หรือ ข้าวเกรียบน้ำเพชร ในราคาห่อละ 7 บาท

ปัจจุบัน วัตถุดิบในการทำข้าวเกรียบงาดำมีต้นทุนค่อนข้างสูง โดยเฉพาะน้ำตาลโตนด ป้าหมงจึงได้เปลี่ยนมาใช้น้ำตาลมะพร้าวแทนน้ำตาลโตนด แต่ยังคงรสชาติความอร่อยแบบดั้งเดิม ส่วนขั้นตอนในการทำข้าวเกรียบงาดำค่อนข้างพิถีพิถัน เริ่มจากการนำข้าวจ้าวมาโม่จนได้เป็นตัวแป้ง จากนั้นนำมาผสมกับมะพร้าว เกลือทะเล น้ำตาลมะพร้าว และงาดำ เมื่อคลุกเคล้าทุกอย่างเข้ากันแล้ว ก็ตั้งกระทะบนเตาฟืน นำหม้อนึ่งใส่น้ำ ขึงผ้าขาวบางด้านบนปากหม้อให้ตึง ต้มจนน้ำเดือดให้เกิดไอน้ำ จากนั้นใช้ทัพพีตักแป้งละเลงบนผ้าขาวบางเป็นแผ่นวงกลมก่อนนำไปตากแดดให้แห้งและนำมามัดรวมกันมัดละ 7 แผ่น เสร็จแล้วบรรจุใส่ถุง ๆ ละ50 มัด ส่งขายให้แก่แม่ค้าที่มารับซื้อทุกวันๆละ4ถุง ในราคาถุงละ  350 ซึ่งจะขายได้ประมาณวันละ 1,280 บาท

หากใครสนใจที่จะมาดูขั้นตอนในการทำ หรือเรียนรู้สูตรผสม สามารถมาชมได้ทุกวันที่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 6 บ้านโตนดหลาย ต.ช่องสะแก อ.เมือง จ.เพชรบุรี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.062-478-5724

.025