กรมประมงผลักดันนวัตกรรมเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลคาร์บอนต่ำเน้นใช้พลังงานสะอาด

กรมประมงผลักดันนวัตกรรมเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลคาร์บอนต่ำเน้นใช้พลังงานสะอาด

วันศุกร์ ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568, 10.17 น.

รมช.เกษตรฯ อัครา หนุนกรมประมง ใช้พลังงานสะอาด ผลักดันนวัตกรรมการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลคาร์บอนต่ำ

วันนี้ (14 ก.พ.) นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ตามที่นายอัครา พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านประมง โดยมีนโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี Agri-tech มาใช้ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยการนำเอานวัตกรรมต่างๆ มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มผลผลิตที่มีคุณภาพสูงและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตร ซึ่งจะช่วยยกระดับเศรษฐกิจการเกษตรของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนและสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ กรมประมงจึงได้ดำเนินโครงการพัฒนานวัตกรรมการเลี้ยงกุ้งทะเลคาร์บอนต่ำ โดยได้รับการสนับสนุนจากองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ในชื่อ "Support to upscaling and adoption of innovations and good practices on energy use efficiency in aquaculture in Thailand" ซึ่งมีเป้าหมายในการศึกษาและพัฒนาแนวทางการใช้พลังงานสะอาด ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ


ทั้งนี้ กรมประมงได้เริ่มต้นโครงการพัฒนานวัตกรรมการเลี้ยงกุ้งทะเลคาร์บอนต่ำในพื้นที่นำร่อง 10 จังหวัด โดยแบ่งออกเป็น 8 จังหวัดในพื้นที่ชายฝั่งสำหรับการเลี้ยงกุ้งทะเล ได้แก่ ตราด จันทบุรี สมุทรสาคร ชุมพร  สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง และสงขลา และ 2 จังหวัดในพื้นที่น้ำจืดสำหรับการเลี้ยงกุ้งก้ามกราม ได้แก่ กาฬสินธุ์และราชบุรี ซึ่งโครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ภาคเอกชน  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการพัฒนานวัตกรรมการใช้พลังงานที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการเลี้ยงกุ้งทะเล โดยพัฒนา 5 รูปแบบ ได้แก่ 1.ระบบโซลาร์เซลล์ขนาดเล็ก สำหรับเครื่องเติมอากาศในบ่อเลี้ยงกุ้งทะเล 2.ระบบโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่ สำหรับฟาร์มเลี้ยงกุ้งทะเล 3.ระบบมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง สำหรับเครื่องเติมอากาศในบ่อเลี้ยงกุ้งทะเล 4.ระบบควบคุมเครื่องเติมอากาศอัจฉริยะ ในบ่อเลี้ยงกุ้งทะเล และ 5.ระบบโซลาร์เซลล์ร่วมกับระบบควบคุมเครื่องเติมอากาศอัจฉริยะ ในบ่อเลี้ยงกุ้งทะเล และในส่วนของการเลี้ยงกุ้งก้ามกราม มีการพัฒนา 2 รูปแบบ ได้แก่ 1.การใช้โซลาร์เซลล์ขนาดเล็ก (Stand Alone) และ 2.การใช้มิเตอร์ไฟฟ้าแบบ TOU

นอกจากนี้ โครงการฯ ยังได้จัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ ได้แก่ การเสริมสร้างทักษะและความรู้ให้กับเกษตรกรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและลดต้นทุนนโยบายสนับสนุนการให้บริการด้านการเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานจากสตาร์ทอัพและนักลงทุน การส่งเสริม การเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับเกษตรกรในการลงทุนในนวัตกรรมพลังงานทดแทน และการพัฒนาขีดความสามารถของเกษตรกรในการใช้นวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน โดยผลความสำเร็จจากการใช้นวัตกรรมเหล่านี้ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้ถึง 18-30% และลดต้นทุนพลังงานลงถึง 22.4-39% ซึ่งทำให้ต้นทุนการเลี้ยงกุ้งทะเลลดลงเป็น 10.1-24.3 บาท ต่อกิโลกรัม นอกจากนี้ยังช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 2,291-9,433 kCO2e ต่อรอบการเลี้ยง ต่อบ่อ ถือเป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืนในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย

“กรมประมง เชื่อมั่นว่านวัตกรรมการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลคาร์บอนต่ำนี้ จะเป็นก้าวสำคัญ ในการยกระดับภาคอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้กับเกษตรกรในภาคประมงของไทยต่อไป  ในอนาคต” อธิบดีกรมประมง กล่าว

 

015

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top