สสธท. และ กสธท. จัดงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 สมาชิกทั่วประเทศเข้าร่วมกว่า 700 คน โชว์ผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง จ่ายเงินสงเคราะห์และเงินสินไหมแล้วกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท พร้อมเดินหน้าสร้างคุณค่าและมูลค่าแห่งชีวิตบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ครอบครัวผู้อยู่ข้างหลังให้สามารถใช้ชีวิตต่อไปได้โดยไม่ลำบากยามเมื่อจากไป

สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขไทย (สสธท.) และกองทุนสวัสดิการสมาชิกของสหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขไทย (กสธท.) ได้จัดประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2568 ณ อาคารเพชรสะพานบุญ จ.นนทบุรี มีผู้เข้าร่วมกว่า700 คน จากศูนย์ประสานงานสหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุข โรงพยาบาลทั่วประเทศ 149 ศูนย์ประสานงาน มี ดร.มะนู บุญศรีมณีชัย นายกสมาคม และ ประธานกรรมการ กสธท. ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม มีการนำเสนอผลการดำเนินงานของ สสธท. และกสธท. ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2567 โดยมีเป้าหมายเป็นองค์กรหลักในการจัดสวัสดิการให้กับสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขไทย และสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์กลุ่มวิชาชีพอื่น ด้วยในปี 2568 เงินสงเคราะห์ล่วงหน้าหรือเบี้ยประกัน เพียง 18,000 บาทต่อปี เมื่อสมาชิกเสียชีวิตผู้รับผลประโยชน์หรือทายาทจะได้รับเงินสวัสดิการสงเคราะห์หรือเงินสินไหม ไม่ต่ำกว่า 4 ล้านบาท ดังนี้

สสธท. ล้านที่ 1 มีสมาชิก จำนวน 232,814 ราย เงินสงเคราะห์ล่วงหน้า 5,600 บาท/ปี สมาชิกเสียชีวิต จำนวน 9,358 ราย จ่ายเงินสงเคราะห์ครอบครัวไปแล้ว เป็นเงิน 9,925,123,760.50 บาท นับว่าเป็นสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์แห่งแรกและแห่งเดียวที่จ่ายเงินสงเคราะห์ครอบครัวให้กับทายาทผู้เสียชีวิตได้มากที่สุดในประเทศไทย กสธท. ล้านที่ 2 มีสมาชิก จำนวน 95,540 ราย เบี้ยประกัน 6,900 บาท/ปี สมาชิกเสียชีวิต จำนวน 2,839 ราย จ่ายเงินสินไหมไปแล้ว เป็นเงิน 2,839,000,000 บาท

กสธท. ล้านที่ 3 มีสมาชิก จำนวน 22,266 ราย เบี้ยประกัน 3,000 บาท/ปี สมาชิกเสียชีวิต จำนวน 31 ราย จ่ายเงินสินไหมไปแล้ว เป็นเงิน 31,000,000 บาท ส่วนกสธท. ล้านที่ 4 มีสมาชิก จำนวน 9,292 ราย เบี้ยประกัน 2,500 บาท/ปี สมาชิกเสียชีวิต จำนวน 1 ราย จ่ายเงินสินไหมไปแล้ว เป็นเงิน 1,000,000 บาท

ภายในงานมีการมอบโล่รางวัลให้กับเจ้าหน้าที่ และศูนย์ประสานงานสหกรณ์ออมทรัพย์ดีเด่น ประจำปี 2567 จำนวน 15 รางวัล และมอบป้ายเงินสงเคราะห์ครอบครัวหรือเงินสินไหม สสธท. ล้านที่ 1 กสธท. ล้านที่ 2 กสธท. ล้านที่ 3 และ กสธท. ล้านที่ 4 ให้กับทายาทของสมาชิกผู้เสียชีวิต จำนวน 5 ราย รวมเป็นเงิน 14,024,595.86 บาท

จากนั้นประธานได้ดำเนินการประชุมตามระเบียบวาระ โดยมีประเด็นที่สำคัญ คือ การแก้ไขข้อบังคับและระเบียบสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขไทย พ.ศ.2568 และการเลือกตั้งคณะกรรมการดำเนินการจากผู้แทนสมาชิกสสธท. และ กสธท. จากทั่วทุกภาคของประเทศ จำนวน 30 คน ที่อาสาเข้ามาเป็นตัวแทนในการบริหารงานในการสร้างสวัสดิการที่ดีที่สุด เพื่อเพิ่มคุณค่าชีวิตของสมาชิก และครอบครัวสาธารณสุขไทย รวมถึงบุคลากรของสหกรณ์ออมทรัพย์กลุ่มวิชาชีพอื่นให้มั่นคงยั่งยืน

โดย ดร.มะนู บุญศรีมณีชัย ได้เน้นย้ำว่าอยากจะให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ได้ตระหนักถึง การสร้างคุณค่าและมูลค่าแห่งชีวิตเพื่อครอบครัวผู้อยู่ข้างหลังให้สามารถใช้ชีวิตต่อไปได้โดยไม่ลำบาก ยามเมื่อเราจากไป “เมื่อยังมีชีวิตอยู่ก็อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี หากเมื่อถึงเวลาจากไปก็จากไปอย่างมีคุณค่าและมีมูลค่า”