ตำรวจไทย-เขมรลุย
กวาดล้างแก๊งคอลฯ
ดันตั้งศูนย์ปฏิบัติการ
จีนสั่งจำคุก4บิ๊กบอส
“จเรตำรวจ”เข้ารายงาน“ภูมิธรรม”คืบหน้าปฏิบัติการร่วม ตำรวจกัมพูชา กวาดล้างแก๊งคอลฯ ในปอยเปต เบื้องต้นช่วยคนไทยได้ 125 คน เร่งถกตั้งศูนย์ปฎิบัติการร่วมปราบ ขณะที่ ศาลจีน ตัดสินจำคุกตลอดชีวิต 4 บิ๊กบอส แก๊งคอลฯข้ามชาติ ด้าน กองกำลังบีจีเอฟ-ดีเคบีเอ เร่งทลายแก๊งคอลฯต่อเนื่องช่วยเหยื่อได้กว่า6.9พันคน โอดแบกภาระดูแลไม่ไหว ขอไทยประสานสถานทูตปท.ต้นทางรับตัวกลับ
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ เดินทางเข้าพบ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพื่อรายงานความคืบหน้าการร่วมมือกับตำรวจกัมพูชาในการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ในพื้นที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา รวมถึงหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์
ก่อนหารือพล.ต.อ.ธัชชัย เปิดเผยว่าในความร่วมมือครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีไทยและกัมพูชา ที่ต้องการจัดการปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตนได้รับมอบหมายให้ประชุมร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติกัมพูชา จากนั้นวันเสาร์และอาทิตย์ ตำรวจกัมพูชาดำเนินการกวาดล้างเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งในนั้นมีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ เบื้องต้นมีตัวเลขคนไทย 125 คน อย่างไรก็ตาม ยังต้องตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อยืนยันตัวเลขที่แน่นอนอีกครั้ง เพราะต้องมีการเข้าตรวจค้นพื้นที่บางจุดเพิ่มเติม
พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวต่อว่า การปราบปรามไม่จำกัดเฉพาะคนไทย ยังรวมถึงคนต่างชาติ ที่อยู่ในขบวนการนี้ด้วย ส่วนกระบวนการหลังจากนี้ เป็นเรื่องของกฎหมายกัมพูชาซึ่งตำรวจกัมพูชาจะเก็บพยานหลักฐานไปดำเนินคดีต่อไป ส่วนแนวคิดตั้งศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ ขณะนี้มีแนวทางตั้งศูนย์ประสานงานร่วมระหว่างไทยและกัมพูชา อยู่ระหว่างการดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวถามว่าจุดที่ตำรวจกัมพูชาเข้าไปทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ถือว่าครบเกือบทุกจุดหรือไม่ พล.ต.อ.ธัชชัยตอบว่ายังต้องติดตามพร้อมขอบคุณกัมพูชาที่ให้การสนับสนุนและร่วมมือกับฝ่ายไทยเต็มที่ ในส่วนแหล่งที่มาของแก๊งคอลเซนเตอร์ที่หลอกลวงคนไทยนั้น ส่วนใหญ่มาจากกัมพูชาและลาว ขณะที่ฝั่งเมียวดี ประเทศเมียนมา แม้จะพบการใช้บัญชีม้าเพื่อโอนเงิน แต่ยังไม่มีรายงานว่าคนไทยถูกหลอกไปทำงานในพื้นที่ดังกล่าว
เมื่อถามว่าเปอร์เซ็นต์ที่คนไทยถูกหลอก จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ส่วนใหญ่มาจากฝั่งเมียวดี ประเทศเมียนมาหรือฝั่งประเทศกัมพูชามากกว่ากัน พล.ต.อ.ธัชชัยเผยว่า ส่วนใหญ่จะมาจากกัมพูชาและลาว ขณะที่ฝั่งเมียวดี ประเทศเมียนมา แม้จะพบการใช้บัญชีม้าเพื่อโอนเงิน แต่จะไม่เห็นภาพคนไทยถูกหลอกอยู่ที่นั่น เบื้องต้นตัวเลขคนไทยที่ทางการเมียนมาให้ความช่วยเหลือ ยังไม่เห็นคนไทยนั้นเกี่ยวข้องอยู่ในพื้นที่เมียวดี
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของกลุ่ม กกล.BGF และกลุ่ม กกล.DKBA ในจ.เมียวดี ประเทศเมียนมาว่า กองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง กกล.BGF ยังกวาดล้างจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ โดยจัดชุดปฏิบัติการเข้าไปตรวจสอบกวาดล้างแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ กลุ่มหลอกลวงและการค้ามนุษย์ ในพื้นที่อาคารต่างๆ ทั้งในเมืองชเวโก๊กโก่และเคเคปาร์คอย่างต่อเนื่อง จนถึงวันนี้ (24 กุมภาพันธ์) กองกำลัง BGF ควบคุมตัวบุคคลต่างชาติได้แล้ว 6,500 คน หลังควบคุมตัวมาแล้วขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำบัญชีรายชื่อ แยกสัญชาติ (ประเทศ) และสอบสวนเบื้องต้นว่า เป็นผู้อยู่ร่วมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือเป็นผู้ที่ถูกขบวนการค้ามนุษย์หลอกมา
ส่วนปัญหาของกลุ่มกองกำลัง BGF คือการต้องรับภาระการเลี้ยงดูบุคคลชาวต่างชาติจำนวนมาก จึงประสงค์ให้รัฐบาลไทยและสถานทูตทุกชาติ เร่งประสานผ่านรัฐบาลเมียนมา เพื่อรับตัวชาวต่างชาติกลับไปโดยเร็ว โดยที่ผ่านมาได้ส่งบุคคลสัญชาติจีนไปแล้ว 621 คน เช่นเดียวกับ กลุ่มกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย หรือกองกำลัง DKBA ปัจจุบันรวมชาวต่างชาติไว้ 401 คน ก็ประสบปัญหาต้องรับภาระการเลี้ยงดูเช่นกัน จึงต้องการประสานสถานทูต ประเทศต่างๆ ให้มารับคนของตนโดยเร็ว
วันเดียวกัน สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ศาลประชาชนสูงสุดของจีนรายงานการตัดสินจำคุกตลอดชีวิต 4 บุคคลสำคัญในคดีฉ้อโกงทางโทรคมนาคมข้ามพรมแดน โดยบุคคลทั้งสี่เดินทางออกนอกจีนเพื่อจัดตั้งองค์กรฉ้อโกงทางโทรคมนาคม ซึ่งรายแรก มีแซ่อวี๋เป็นผู้จัดหาคนจำนวนมากออกจากจีนมาก่ออาชญากรรมดังกล่าว ส่วนคดีที่สองเกี่ยวข้องกับจำเลยแซ่หยาง ซึ่งเคยถูกตัดสินโทษ ฐานพัวพันกับการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมมาก่อน ศาลพิพากษาลงโทษสถานหนักฐานทำความผิดซ้ำ ส่วนคดีที่สามเกี่ยวข้องกับจำเลยอีกสองราย ถูกลงโทษสถานหนัก แม้เป็นเพียงผู้สมรู้ร่วมคิดและรับสารภาพความผิดแล้ว เพราะมีความผิดฐานชักจูงผู้เยาว์เข้าร่วมการฉ้อโกงทางโทรคมนาคม ทั้งนี้ ศาลจีนยังสั่งให้กลุ่มผู้กระทำความผิดคืนเงินที่ได้มาจากการฉ้อโกง และรับรองว่าเหยื่อจะได้รับเงินที่ยึดคืนมาอย่างทันท่วงที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี