พบซาก"วาฬบรูด้า"เกยตื้นบริเวณริมเขื่อนย่านบางปู คาดถูกใบพัดเรือฟัน

วันที่ 7 มีนาคม 2568 นายบรรเจิด อุดมสมุทรหิรัญ ที่ปรึกษาอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมด้วยอาสาสมัครภาคีเครือข่ายทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งบางปู ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบซากวาฬบรูด้าที่เกยตื้นบริเวณท้ายซอยเทศบาลบางปู 90 ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่กรมประมงร่วมเดินทางตรวจสอบ

ที่ริมเขื่อนพบซากวาฬบรูด้า วัยรุ่น ยาวประมาณ 8-9 เมตร มีน้ำหนักประมาณ 3 ตัน ลอยเกยตื้นอยู่ตรงโขดหิน มีบาดแผลคาดว่าถูกฉีกขาดบริเวณหัว และใต้หาง คล้ายถูกใบพัดเรือฟัน คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน เจ้าหน้าที่ได้ทำการเคลื่อนย้ายซากวาฬตัวดังกล่าวโดยใช้เรือประมงของชาวบ้านทำการลากซากวาฬตัวดังกล่าวไปที่ด้านหลังโรงเรียนเทศบาล 2 หมู่ 5 ตำบลบางปู เพื่อทำการผ่าชันสูตรและตรวจสอบ ก่อนจะทำการฝังกลบ

จากการสอบถาม นายสำเภา สิทธิรุ่ง ชาวประมงชายฝั่ง ซึ่งเป็นผู้พบซากวาฬเป็นคนแรก กล่าวว่า ตนเองทำประมงในพื้นที่นี้มานานกว่า 60 ปี แต่ไม่เคยพบวาฬบรูด้าเกยตื้นมาก่อน

ขณะที่ นางเดือนเพ็ญ แจ้งประจำ หัวหน้าชุมชนวัดศรีจันทร์ประดิษฐ์ และกรรมการประมงจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมาเคยพบเพียงปลาโลมาและสัตว์ทะเลชนิดอื่น ๆ เกยตื้นเท่านั้น

นายบรรเจิด อุดมสมุทรหิรัญ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเหตุวาฬเกยตื้นบริเวณซอยเทศบาลบางปู 88 เมื่อเดินทางมาถึงจึงพบซากวาฬดังกล่าว เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจึงได้ทำการผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการตาย จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าวาฬตัวดังกล่าวเป็นวาฬบรูด้าเพศเมีย อายุประมาณ 7-8 ปี ความยาวประมาณ 8-9 เมตร สภาพศพมีร่องรอยบาดแผลบริเวณส่วนหัวและหาง คาดว่าเกิดจากอุบัติเหตุถูกใบพัดเรือฟัน แต่ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการตายที่แน่ชัดได้ ต้องรอผลการชันสูตรจากสัตวแพทย์อีกครั้ง

นายบรรเจิด กล่าวเพิ่มเติมว่า วาฬบรูด้าในอ่าวไทยมีประมาณ 100 กว่าตัว โดยปกติวาฬบรูด้าเป็นสัตว์ที่ชอบว่ายน้ำเล่นกับเรือตามชายฝั่ง คาดว่าวาฬตัวนี้น่าจะเข้ามาหากินในบริเวณนี้ และเสียชีวิตไม่เกิน 2 วันก่อนถูกพบ การพบวาฬบรูด้าเกยตื้นในบริเวณนี้ถือเป็นครั้งแรก