วันอังคาร ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
เมื่อ ASF เคาะประตูบ้านไทยทุกทิศทาง

เมื่อ ASF เคาะประตูบ้านไทยทุกทิศทาง

วันจันทร์ ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2568, 14.23 น.
Tag : อหิวาต์หมู ASF
  •  

เมื่อ ASF เคาะประตูบ้านไทยทุกทิศทาง

สถานการณ์โรคระบาด ASF (African Swine Fever) หรือ อหิวาต์แอฟริกาในสุกร ที่เกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศเพื่อนบ้านของไทย กำลังส่งสัญญาณเตือนให้ไทยเตรียมพร้อมป้องกันในระดับสูงสุด ไม่ว่าจะเป็น “มาเลเซีย” ที่มีรายงานว่ามีสุกร 76,000 ตัวได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ ASF หลังจากทำการสุ่มตรวจตัวอย่างปศุสัตว์ในฟาร์มที่ได้รับอนุญาต 114 แห่งในเซปังและกัวลาลางัต


ขณะที่ “สปป.ลาว” ประกาศให้แขวงไชยสมบูรณ์ในภาคกลางเป็นพื้นที่สีแดง หลังพบการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ในพื้นที่ดังกล่าว โดยทางการลาวได้สั่งห้ามแปรรูปและจำหน่ายเนื้อหมูที่ติดเชื้อโดยเด็ดขาด รวมทั้งเพิ่มการเฝ้าระวังในหมู่บ้านหลายแห่งทั่วแขวงไชยสมบูรณ์และแขวงบอลิคำไซ ทั้งยังได้ขอความร่วมมือให้เกษตรกรเข้มงวดเรื่องมาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพและปฏิบัติตามข้อกำหนดการเคลื่อนย้ายสัตว์เพื่อควบคุมการระบาดให้เร็วที่สุด

เชื้อ ASF ยังไม่มียารักษา ไม่มีวัคซีนป้องกัน และไม่สามารถติดต่อจากสัตว์สู่คนได้ แต่ “คน” สามารถเป็นพาหะแพร่เชื้อได้ โรคนี้ส่งผลกระทบต่อสุกรและหมูป่าโดยมีอัตราการตายสูงถึงเกือบ 100% ตัวไวรัสทนความร้อนได้สูง และสามารถอยู่รอดในเนื้อแช่แข็งได้นานถึง 3 ปี และในเนื้อแห้งได้นานถึง 1 ปี นับว่าเป็นเชื้อที่อันตรายที่สุดของสุกรทั่วโลก โรค ASF ไม่เพียงแต่จะทำให้สูญเสียสุกรจำนวนมากเท่านั้น แต่ยังสร้างความเสียหายลงไปถึงระบบความมั่นคงทางอาหาร กระทบอุตสาหกรรมอาหารและระบบเศรษฐกิจอีกด้วย

เมื่อโรค ASF มาเคาะประตูบ้านไทยแทบจะทุกทิศทางเช่นนี้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยจะต้องยกระดับการป้องกันโรคในระดับสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ตามแนวเขตชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการเดินทางโดยเครื่องบินที่อาจจะมีเนื้อหมูที่สุ่มเสี่ยงปะปนเข้ามากับนักท่องเที่ยวในรูปแบบอาหารแปรรูปและวัตถุดิบ

“ระบบไบโอซีเคียวริตี้ - Biosecurity System” เป็นระบบความปลอดภัยทางชีวภาพในการเลี้ยงสุกรอย่างมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานกรมปศุสัตว์ เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมีและบังคับใช้อย่างเคร่งครัด เช่น การเลี้ยงสุกรในโรงเรือนระบบปิด ป้องกันสัตว์ที่เป็นพาหะนำโรค อาทิ หนู นก หรือแมลงต่างๆ นอกจากนี้ วัตถุดิบที่นำมาใช้ภายในฟาร์ม ทั้งอาหาร น้ำ และวัสดุจำเป็นอื่นๆ ต้องมีการตรวจสอบย้อนกลับไปถึงแหล่งที่มาได้ และต้องควบคุมยานพาหนะขนส่งเข้า-ออกฟาร์มอย่างเข้มงวด โดยรถทุกคันและพนักงานฟาร์มทุกคนต้องผ่านระบบฆ่าเชื้อเพื่อไม่ให้คนหรือยานพาหนะเป็นพาหะนำเชื้อโรคเข้าสู่ฟาร์ม

การสร้างและรักษามาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพถือเป็นหัวใจสำคัญในการจัดการโรค ASF หากเราละเลยในเรื่องนี้อาจจะนำไปสู่การระบาดที่รุนแรง ส่งผลให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรงต่อเศรษฐกิจและการเกษตรกรรม แต่ในทางกลับกัน หากมีการเตรียมการและการวางแผนที่ดี ประเทศไทยจะสามารถลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดที่อาจเกิดขึ้นได้ แม้ต้นทุนการเลี้ยงสุกรในช่วงนี้ จะต้องเพิ่มขึ้นจากการเฝ้าระวังและเข้มงวดมาตรการป้องกันโรค เช่น การลงทุนในการทำความสะอาด การฆ่าเชื้อ และการตรวจสอบสุขภาพของสุกรอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่านี่จะเป็นอุปสรรคและภาระเพิ่มเติมให้กับผู้เลี้ยง แต่การลงทุนในมาตรการเหล่านี้จะช่วยปกป้องฟาร์มและเป็นการลงทุนในความปลอดภัยในระยะยาว

การเตรียมความพร้อมและการตอบสนองต่อโรค ASF ไม่ใช่เพียงแค่หน้าที่ของหน่วยงานรัฐหรือเกษตรกรเพียงอย่างเดียว แต่ทุกคนในสังคมมีบทบาทในการป้องกันและเฝ้าระวัง เชื่อมโยงการดำเนินการระหว่างเกษตรกร นักวิชาการ และหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยเกี่ยวกับการป้องกันและช่องทางการแพร่ระบาดของโรค

ทุกภาคส่วนควรตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันโรค ASF และร่วมมือกันในการสร้างสังคมที่มีความปลอดภัย เมื่อโรคนี้เคาะประตูบ้านเรา ต้องไม่รอช้าและยกระดับการป้องกันสูงสุด เพื่อปกป้องสุกรและความยั่งยืนของอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรในประเทศไทย ไม่ให้เชื้อโรคนี้กลายเป็นภัยร้ายส่งผลต่อความมั่นคงทางอาหารและเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต

สมคิด เรืองณรงค์  นักวิชาการอิสระ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

'นายกฯ'คิดให้ดีๆ !! ก่อนตั้ง'สุชาติ'นั่ง'รมว.แรงงาน'เหมือนเอาเท้าลูบหน้าผู้ประกันตนทั้งประเทศ

‘นันทนา’เหน็บโผครม.จัดสรรต่างตอบแทน ลั่นปชช.อยากได้ผู้นำพาพ้นวิกฤต

'Boys Vibe The Project'อัปเลเวลความฟิน ถึงเวลาสารภาพรัก จุดกำเนิดคู่จริงหรือแค่จิ้น!

'สนธิ'ลั่น!รอฟังทีเด็ด ยันเสาร์นี้เจอกันแน่บนเวทีไล่'นายกฯอิ๊งค์'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved