วันพฤหัสบดี ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ปรับโฉม‘อุตสาหกรรมกุ้งไทย’สู่ความยั่งยืน เส้นทางคืนสู่แชมป์โลก

ปรับโฉม‘อุตสาหกรรมกุ้งไทย’สู่ความยั่งยืน เส้นทางคืนสู่แชมป์โลก

วันอังคาร ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2568, 18.13 น.
Tag : กุ้งไทย อุตสาหกรรมกุ้งไทย
  •  

ปรับโฉม‘อุตสาหกรรมกุ้งไทย’สู่ความยั่งยืน เส้นทางคืนสู่แชมป์โลก

ในวงการอาหารทะเล อุตสาหกรรมกุ้งไทยเคยเป็นดาวรุ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ โดยเฉพาะในด้านการส่งออก ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่าแสนล้านบาทต่อปี และเมื่อย้อนกลับไปในปี 2552 ผลผลิตกุ้งของไทยสูงสุดถึง 600,000 ตัน แต่กลับปรากฏว่าหลังจากนั้น อุตสาหกรรมนี้กลับเริ่มเผชิญวิกฤติอย่างหนักหน่วงเนื่องจากการระบาดของโรคตายด่วน (Early Mortality Syndrome : EMS) ในช่วงปี 2555-2557 ส่งผลให้ผลผลิตลดลงอย่างรุนแรงเหลือเพียง 300,000 ตัน ปัญหานี้ไม่เพียงแต่ทำให้ไทยสูญเสียตำแหน่งในตลาดโลก แต่ยังส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศในหลายด้าน


เมื่อปัญหาโรคระบาดเป็นปัญหาเรื้อรัง การเลี้ยงกุ้งในระบบดั้งเดิม เน้นการเปิดน้ำจากแหล่งธรรมชาติและไม่ควบคุมคุณภาพน้ำจึงไม่ตอบโจทย์  เมื่อน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อแพร่กระจายในบ่อ หรือปล่อยให้มีสัตว์พาหะปะปนเข้าบ่อทำให้อัตราการตายของกุ้งเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกษตรกรขาดทุนหนักเป็นสาเหตุหลักให้หลายคนเลิกอาชีพ และปล่อยฟาร์มให้รกร้าง เกิดปัญหาทั้งด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมตามมา

ตามรายงานของ SCB EIC ในปี 2024 พบว่าการส่งออกกุ้งของไทยมีมูลค่าเพียง 1,134.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งลดลงถึง 7.4% โดยมีปัจจัยหลักมาจากการแข่งขันด้านราคาในตลาดโลกและอัตราการรอดของกุ้งที่ต่ำลง เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม คาดการณ์ว่ามูลค่าการส่งออกกุ้งไทยจะมีแนวโน้มลดลงต่อไปในปี 2025 อีก 2.3% อย่างต่อเนื่อง

หากต้องการพลิกฟื้นอุตสาหกรรมกุ้งไทยให้กลับมายั่งยืน จำเป็นต้องเปลี่ยนแนวทางการเลี้ยงไปสู่ระบบที่มีความรับผิดชอบและประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยมุ่งเน้นไปที่ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) ซึ่งตอบโจทย์การป้องกันโรคตั้งแต่ต้นทาง การติดตั้งมาตรการป้องกันเช่น ตาข่ายป้องกันนก การจัดการพื้นที่ฟาร์มให้มีความปลอดภัย และระบบกรองน้ำที่มีประสิทธิภาพ จะทำให้เกษตรกรสามารถลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและการขาดทุนได้อย่างมาก

ในด้านการใช้เทคโนโลยี การมีระบบการเลี้ยงแบบปิดหรือกึ่งปิด สามารถควบคุมปัจจัยภายนอกได้ดีจะช่วยให้การเลี้ยงกุ้งมีเสถียรภาพมากขึ้น ระบบน้ำหมุนเวียนที่ผ่านการกรองและฆ่าเชื้อก่อนปล่อยเข้าบ่อ จะมีส่วนช่วยลดโอกาสการติดเชื้อจากภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ การปรับปรุงบ่อร้างและการเลี้ยงด้วยมาตรฐานใหม่ที่คำนึงถึงความปลอดภัยทางชีวภาพ จะช่วยให้เกษตรกรสามารถกลับมาเลี้ยงกุ้งได้อีกครั้ง โดยมีความเสี่ยงต่ำกว่าเดิม

ภาครัฐมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและจูงใจให้เกษตรกรเปลี่ยนแปลงระบบการเลี้ยงอย่างจริงจัง โดยรัฐบาลได้ประกาศแผนปฏิบัติการยกระดับอุตสาหกรรมกุ้งเป็นวาระแห่งชาติในปี 2568-2572 ด้วยงบประมาณกว่า 5,178 ล้านบาท ผ่านการกำหนด 11 มาตรการสำคัญ เช่น การพัฒนาพ่อแม่พันธุ์ การส่งเสริมระบบการจัดการฟาร์มที่ยั่งยืน การจัดการโรคกุ้ง การสร้างแบรนด์และขยายช่องทางการตลาดไปยังต่างประเทศ ตลอดจนการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งและโลจิสติกส์

การพัฒนาศักยภาพด้านการตลาดจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมการส่งออกของกุ้งไทย โดยการสร้างแบรนด์และการตระหนักถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์จะช่วยให้สามารถสร้างความมั่นใจในกลุ่มลูกค้า ในขณะเดียวกัน การทำงานร่วมกันกับองค์กรและหน่วยงานที่สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีการเลี้ยงและการจัดการฟาร์ม จะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก

ในระยะยาว ประเทศไทยต้องเตรียมตัวในการแข่งขันกับผู้ผลิตกุ้งรายใหญ่ เช่น เอกวาดอร์ อินเดีย และอินโดนีเซียซึ่งมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า กุ้งไทยจึงจำเป็นต้องเร่งปรับตัวให้ทันกับแนวโน้มการผลิตสมัยใหม่ที่ให้ความสำคัญกับมาตรฐานคุณภาพ ความปลอดภัยทางชีวภาพ พร้อมกับความยั่งยืนในการผลิต

ท้ายที่สุด การเปลี่ยนแปลงแนวทางการเลี้ยงกุ้งอย่างจริงจัง ประกอบกับการสนับสนุนจากภาครัฐและการปรับตัวของเกษตรกร จะทำให้อุตสาหกรรมกุ้งไทยมีโอกาสกลับมาเป็นผู้นำในตลาดโลกอีกครั้ง การทวงคืนแชมป์การส่งออกกุ้งไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม หากทุกฝ่ายรวมแรงร่วมใจผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ยั่งยืน ระหว่างการทำงานร่วมกันของคนในวงการ อุตสาหกรรมกุ้งไทยจึงมีความหวังฟื้นฟูและสร้างคุณค่าใหม่ต่อประเทศและต่อสังคมในอนาคต

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘19 องค์กรกุ้ง’ยื่นหนังสือถึง‘นายกฯ’ เสนอต่อรองกลุ่มสินค้าเกษตรไทย-สหรัฐ ‘19 องค์กรกุ้ง’ยื่นหนังสือถึง‘นายกฯ’ เสนอต่อรองกลุ่มสินค้าเกษตรไทย-สหรัฐ
  •  

Breaking News

'ม็อบภูเก็ต'มาแล้ว! นัด 19 มิ.ย.รวมตัวไล่'คนขายชาติ'

พปชร.สวดยับ! ‘เทคนิคการเจรจา’หรือว่า‘ขายชาติ’ ประชาชนเป็นคนตัดสินเอง

‘กลุ่มราษฎรรักชาติ’ไม่ทน! นัดรวมพล 20 มิ.ย.ไล่‘อิ๊งค์’พ้นนายกฯ-จี้พรรคร่วมฯถอนตัว

หนุน‘รทสช.’ถอนตัวรัฐบาล ‘น้าเดช’ย้ำเคารพการตัดสินใจ‘พีระพันธุ์-เอกนัฏ’

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved