ตำรวจพังงาบุกจับ 4 ผู้ต้องหาเดินทางจากชายแดนใต้ มุ่งหน้าเข้าภูเก็ต ซุกอาวุธสงครามเต็มรถ ปืนอาก้าพร้อมกระสุนเพียบ
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2568ภายใต้การอำนวยการของนายไพรัตน์เพชรยวน ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา, พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.พังงา สั่งการให้ พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.พังงา , พ.ต.อ.วีระพงศ์ รักขิโต ผกก.สภ.เมืองพังงา , พ.ต.ท.มธกร ฤทธิ์เนื่อง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองพังงา , ร.ต.ท.หญิง เชษฐ์สุดา รสมาลี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพังงา , ร.ต.อ.บุญเสริม เพ็งเกลี้ยง รอง สวป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง เข้มงวดการก่อเหตุอาชญากรรมและสิ่งผิดกฎหมาย ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมอาวุธปืนสงคราม พร้อมเครื่องกระสุนปืน บริเวณจุดตรวจวังหม้อแกง ริมถนนสายพังงา-ทับปุด ต.ท้ายช้าง อ.เมืองพังงา จ.พังงา พร้อมผู้ต้องหา 4ราย คือ นายซูลอัฟฟัล อายุ 28 ปี อยู่หมู่ 2 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส 2.นายเสาวรุส อายุ 27 ปี อยู่หมู่ 2 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี 3.นายอับดุลรอแม อายุ 49 ปี อยู่หมู่ 5 ต.ยะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี และ 4.นายไฟซ๊อล อายุ 28 ปี อยู่หมู่ 1 ต.สะเตงนอก อ.เมืองยะลา จ.ยะลา
การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพังงาและฝ่ายปกครอง ตั้งจุดสกัดบริเวณที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะ ทะเบียนปัตตานี มีนายอับดุลรอแม เป็นคนขับ และนายไฟซ๊อล นั่งข้างคนขับ และมีรถยนต์ ทะเบียนสงขลา พบนายซูลอัฟฟัล เป็นคนขับ และนายเสาวรุส นั่งข้างคนขับ เจ้าหน้าที่ตำรวจสังเกตเห็นท่าทางมีพิรุธ จึงขอตรวจค้นภายในรถยนต์ พบอาวุธปืนเล็กยาวจู่โจมAK-47 ความยาวลำกล้อง 369 มม.จำนวน 4กระบอก และเครื่องกระสุน AK-47 ขนาด 7.62 มม.จำนวน 9นัด บรรจุในซองกระสุน จำนวน 1อัน รวมเครื่องกระสุนปืนทั้งสิ้นจำนวน 54นัด ของกลางอยู่ในถุงกระสอบสีขาว ซุกซ่อนอยู่ด้านหลังเบาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังของรถยนต์กระบะ เบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 4คน ให้การรับสารภาพว่ามีจุดหมายปลายทางที่ จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพังงา ดำเนินคดีต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ให้ข้อมูลถึงการเพิ่มมาตรการตรวจสอบเพื่อป้องกันเหตุในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นจุดหมายของการลักบลอบนำเข้าอาวุธปืนในครั้งนี้ ว่า หลังทราบเรื่อง ตนพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจที่ด่านตรวจภูเก็ต (ท่าฉัตรไชย) อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นด่านตรวจด่านแรกก่อนจะเดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ต พบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ท่าฉัตรไชย มีการตรวจเข้มรถทุกคันที่เดินทางผ่านเข้ามาที่ด่าน ซึ่งตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เน้นตรวจค้นบุคคลเฝ้าระวัง ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด นอกจากนั้นยังสั่งการให้ชุดปฎิบัติพิเศษตำรวจภูเก็ตเข้ามาช่วยสนับนุน ในการตรวจค้นทุกวัน ส่วนด่านตรวจ จะมีการปรับปรุงนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ให้ทันสมัยเพิ่มขึ้น ตนยังสั่งการให้ ผกก.ทุกสถานี ในตั้งจุดตรวจพื้นที่เสี่ยง และ จุดที่จะเดินทางเข้าไปยังแต่ละแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นซอยบางลา ชายหาดป่าตอง หาดกะรน และ จุดอื่นๆ โดยให้สายตรวจเดินเท้าตรวจเข้ม เพื่อป้องกันผู้ไม่หวังดีเข้ามาก่อเหตุ อีกทั้งยังเน้นย้ำหาดมีเหตุเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวและประชาชนต้องให้สายตรวจเดินทางไปให้เร็วที่สุด
ส่วนกรณีการการสอบปากคำผู้ต้องหาและมีการระบุว่า อาวุธที่ลอบขนมาในครั้งนี้ จะนำมาส่งที่จังหวัดภูเก็ต เรื่องนี้ จะต้องให้ทางตำรวจพังงา สอบสวนขยายผลให้ชัดเจน ว่าจะนำไปส่งที่ใหนอย่างไร หลังจากนี้ในส่วนของภูเก็ตก็จะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว เพื่อหาความเชื่อมโยง ของคนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตกับกลุ่มผู้ต้องหาที่ลักลอบขนอาวุธเข้ามาในครั้งนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี