โฆษก DSI เผยนอมินีคนไทย ทั้ง 3 คนรู้จักกัน แต่อยู่ระหว่างขยายผลรู้จักคนจีนหรือไม่ ส่วนปมเงินในบริษัทไชน่าเรลเวย์ กว่า 2,800 ล้าน เป็นเงินที่กู้ยืมจากบริษัทในเครือรัฐวิสาหกิจจีนเพื่อลงทุน
เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 ที่ห้องสำนักงานรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ชั้น 8 ศูนย์ราชการฯ อาคารบี ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะรองหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เปิดเผยถึงกรณีที่ 3 กรรมการคนไทยของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ประกอบด้วย นายประจวบ ศิริเขตร , นายมานัส ศรีอนันท์ และนายโสภณ มีชัย ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ว่า เบื้องต้นคนไทยทั้งหมดให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยบอกว่าไม่ได้เป็นนอมินีถือหุ้นแทน แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำ ส่วนก่อนหน้านี้เหตุใดทั้งหมดจึงไม่เดินทางเข้ามอบตัวนั้น ตนยังไม่มีข้อมูล เพราะเพิ่งแจ้งข้อกล่าวหา แต่มีความเป็นไปได้ว่าทั้ง 3 ราย น่าจะเห็นข่าวเรื่องหมายจับศาลอาญา วานนี้ (20 เม.ย.) จึงเข้ามาพร้อมกับทนายความ โดยที่เห็นในตอนนี้ พบว่าผู้ต้องหา 1 ราย จะมีทนายความประกบ 1 รายเช่นกัน
ส่วนทั้งหมดจะชี้แจงหักล้างข้อมูลการสอบสวนของดีเอสไออย่างไรในเรื่องคดีนอมินี ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำ โดยผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้ แต่สิ่งสำคัญคือสามารถหักล้างข้อกล่าวหาได้หรือไม่ หากหักล้างได้ ก็จะเป็นประเด็นเฉพาะของแต่ละราย แต่หากหักล้างข้อกล่าวหาไม่ได้ ก็ต้องสั่งฟ้อง นอกจากนี้ ต้องมีการสอบสวนประเด็นความเกี่ยวข้องระหว่าง นายชวนหลิง จาง กับ 3 กรรมการชาวไทยด้วยว่าจะให้การสอดคล้องกันมากน้อยเพียงใด ซึ่งตอนนี้ทั้ง 3 คนไทย ยอมรับว่ามีบางคนรู้จักกันมาก่อน คือ นายประจวบ และนายโสภณ ขณะที่พบว่าบางรายในนี้มีการประกอบธุรกิจส่วนตัวพบว่าเดิมทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องแก้ว
ส่วนประเด็นที่ต้องสอบสวนปากคำ 3 กรรมการชาวไทย บริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ นั้น พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า ยึดตามองค์ประกอบของความผิด พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ตั้งแต่เรื่องทุน การดำเนินกิจการ อำนาจในการดำเนินกิจการ ผู้ชักชวนเข้ามาในบริษัท เพราะจากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าทั้ง 3 คน เป็นเพียงพนักงานภายในบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ โดยจะต้องมีการขยายผลต่อ
พ.ต.ต.วรณัน ยังบอกด้วยว่า ส่วนของ นายชวนหลิง จาง ที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจของประเทศจีน เราได้รับการยืนยันแล้วว่านายจาง เป็นเจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจตามที่แจ้งจริง
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานเพิ่มเติมว่า 3 กรรมการคนไทยของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ ก่อนจะเดินทางเข้ามอบตัวกับคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ทั้งหมดได้กบดานอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และเชื่อได้ว่ามีการอาศัยอยู่ด้วยกันในพื้นที่ ก่อนตัดสินใจเข้ามอบตัวตามหมายจับศาลอาญา ส่วนจะได้รับการประกันตัวชั่วคราวหรือไม่ ตามหลักแล้วต้องดูหลังสอบปากคำว่าผู้ต้องหามีการยื่นขอประกันตัวชั่วคราวหรือไม่ แล้วจึงจะพิจารณาได้ว่าจะอนุญาตประกันตัวหรือไม่ อย่างไร
ส่วนกรณีที่ตรวจพบเงินหมุนเวียนของบริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 2,800 ล้านบาท นั้น พ.ต.ต.วรณัน ระบุว่า เงินจำนวนดังกล่าวมาจากงบดุลที่ตรวจสอบระหว่างปี 61 - 68 โดยทางบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ได้กู้ยืมระยะยาวมาจากบริษัทในเครือรัฐวิสาหกิจของประเทศจีน ผ่านธนาคารของต่างประเทศ โดยโอนเงินตรงเข้ามายังบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อนำมาใช้ลงทุนและดำเนินกิจการในไทย
ส่วนหุ้นชาวจีน 49% ในบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด จากเงินเริ่มต้น 22 ล้านบาท แล้วเพิ่มเป็น 47 ล้านบาท นั้น จะต้องไปทำการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ว่าเป็นเงินที่มาจากผู้ถือหุ้นในบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป คัมปะนีลิมิเต็ด จำกัด หรือไม่ หรือมีที่มาที่ไปของเงินจากที่ใด
ส่วน 3 นอมินีคนไทยที่ถือหุ้นในบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์10 (ประเทศไทย) จำกัด 51% แล้วมีการชำระค่าหุ้น 25% รวมกว่า 20 ล้านบาท นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างไล่ตรวจสอบเส้นทางการเงินเช่นกัน
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี