วันพฤหัสบดี ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ทบ. โต้ กมธ.ทหาร ปม กอ.รมน.ภาค3 แจ้งจับ 'พอล แชมเบอร์ส' คดี ม.112

ทบ. โต้ กมธ.ทหาร ปม กอ.รมน.ภาค3 แจ้งจับ 'พอล แชมเบอร์ส' คดี ม.112

วันจันทร์ ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2568, 19.32 น.
Tag : กองบัญชาการกองทัพบก กองทัพบก มาตรา112 พอลแชมเบอร์ส การประชุมคณะกรรมาธิการการทหาร
  •  

ทบ. โต้ กมธ.ทหาร ยัน กอ.รมน.ภาค3 แจ้งจับ พอล แชมเบอร์ส  คดี ม.112 ได้ ลั่น แม้เป็นต่างชาติ ต้องอยู่ใต้กฎหมายไทย ขอสังคมพิจารณาองค์กรถูกด้อยค่า ประณาม

วันที่ 28 เมษายน2568 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษก ทบ. กล่าวถึง กรณีการประชุมคณะกรรมาธิการการทหาร เมื่อ 24 เมษายน 68 วาระพิจารณาศึกษา เรื่อง กอ.รมน.ภาค 3 แจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี Dr. Paul Chambers ลูกจ้างมหาวิทยาลัยนเรศวร ในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่ สภ.เมือง พิษณุโลก เมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2568 โดยจากที่ได้ติดตามผลของการประชุมพบว่า อาจมีรายละเอียดบางอย่างที่ผู้แทนหน่วยที่เข้าร่วมประชุมอาจนำเสนอไม่ครบ จึงขอเรียนเพิ่มเติมให้ดังนี้


1. เรื่องข้อสงสัยว่า กอ.รมน.ภาค 3 ใช้อำนาจอะไรไปแจ้งความ เรียนว่าการไปแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง เมื่อพบเห็นว่าอาจมีการกระทำเข้าข่ายผิดกฎหมายบ้านเมืองเป็นเรื่องปกติ ที่ทุกคนทั่วไปสามารถทำได้ ต่างจากการไปขอจับกุมผู้กระทำความผิดที่จำเป็นต้องอ้างใช้อำนาจตามกฎหมายในกรณีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เป็นความผิดต่อแผ่นดิน ใครที่พบเห็นข้อความที่มีลักษณะเข้าข่ายทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิดในลักษณะดูหมิ่นสถาบันฯ ก็สามารถแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้นำเข้าสู่กระบวนการทางศาลเพื่อพิจารณาได้ โดยผู้ถูกกล่าวหาจะสามารถพิสูจน์ตัวเอง แก้ต่างข้อกล่าวหาได้ตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม

2. การดำเนินการต่อกรณีนี้ เริ่มจากได้รับแจ้งจาก ประชาชน กอ.รมน.ภาค 3 จึงได้มีการติดตามตรวจสอบ และนำเข้ากระบวนการพิจารณาของหน่วย พบว่ามีพฤติกรรมใช้ความรู้สึกส่วนตัวตีความและกระจายไปยังบุคคลภายนอก อันมีผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงได้ทำหนังสือร้องทุกข์ดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยต่อไป ซึ่งปัจจุบันอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน

3. สำหรับข้อกังวลเนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นชาวต่างประเทศนั้น กฎหมายของประเทศนั้นย่อมสามารถใช้บังคับได้กับทุกคนที่อยู่ในประเทศนั้นตามหลักสากล ไม่มีประเทศไหนในโลกจะมีข้อยกเว้นการบังคับใช้กฎหมายให้กับคนสัญชาติอื่นที่ไม่ใช่สัญชาติตัวเอง ซึ่งหากผู้ถูกแจ้งความคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็สามารถใช้ช่องทางของกฎหมายมาดำเนินการผู้แจ้งความได้

4. ในที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ วันดังกล่าวพบว่า มีภาพบรรยากาศที่อาจดูน่ากังวลเนื่องด้วยมีบางคนมีการใช้คำพูดในลักษณะดูหมิ่น เสียดสี ผู้เข้าร่วมประชุม เช่น “โง่แต่ขยัน ลุแก่อำนาจ ไร้สติปัญญา และขาดทักษะ ภาษา อังกฤษ”

จึงขอเรียนว่าเนื่องจากรายละเอียดประกอบข้อมูลการฟ้องอยู่ในระบบของกระบวนการยุติธรรมไปแล้ว ซึ่งการจะเปิดเผยคงทำได้แบบจำกัด ส่วนการโต้แย้งผ่านการประชุมในวันดังกล่าว ไม่น่าส่งผลต่อรูปคดีจริง เนื้อหาที่นำมายกตัวอย่างมาพูดโต้แย้งกันในที่ประชุม ก็อาจไม่อยู่ในประเด็นหลักการฟ้องในครั้งนี้ แต่กลับพบว่าถูกนำมาเป็นประเด็นเพื่อใช้เหยียดหยาม ประจานด้อยค่าบุคคลและองค์กร อยู่หลายคำหลายประโยค เช่น โง่แต่ขยัน ลุแก่อำนาจ ไร้สติปัญญา หรือเป็นหน่วยงานดักดาน ทั้งหมดเหล่านี้ขอให้ทางองค์กรที่รับผิดชอบ หรือสังคมเป็นผู้พิจารณา

5. มีหลายความเห็นกล่าวถึงการใช้เวทีกลไกสภาฯ  เพื่อพยายามปกป้องช่วยเหลือผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดหรือไม่ เช่น ชี้แจงว่าข้อความที่เป็นประเด็นนั้น ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้เขียนเอง พร้อมได้ยกตัวอย่างว่า เพราะเขาใช้คำสรรพนามภาษาอังกฤษว่า he ไม่ได้ใช้คำว่า I ซึ่งกรณีนี้ คณะ กมธ.ทหาร อาจเข้าใจว่าประเด็นปัญหาที่ถูกนำไปแจ้งความคือตรงนี้ จึงมุ่งมาช่วยเหลือพยายามแก้ต่างให้ผ่านเวทีประชุมฯ  ซึ่งอาจจะไม่ใช่ เพราะข้อมูลที่เป็นประเด็นปัญหานำไปสู่การฟ้องร้องทางคดีนั้นอยู่ในขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมไปแล้ว ทำให้ประเด็นที่นำเอาไปถกเถียงในวันนั้น อาจไม่ใช่ประเด็นหลักที่ใช้ประกอบการฟ้องร้องครั้งนี้ก็ได้ ซึ่งจากการที่ประธานฯ ได้ไปพูดฟันธงต่อสาธารณะในทำนองประจานให้มีผลต่อภาพลักษณ์บุคคลและหน่วยงานนั้น เป็นเรื่องที่สังคมต้องเป็นผู้พิจารณา ซึ่งอาจต้องไปดูในระเบียบ และมารยาทวิธีการปฏิบัติในการประชุมฯ

6. กรณีมาตรา 7 พ.ร.บ. ความมั่นคงฯขอเรียนว่าปกติกลไกนี้มีไว้สำหรับการเสนอจัดทำแผนงานเพื่อใช้บริหารจัดการแก้ไขปัญหาความมั่นคง โดยเฉพาะปัญหาฯ มีความยุ่งยากและซับซ้อน และอาจต้องอาศัยหลายหน่วยงานมาร่วมแก้ จึงมีขั้นตอนต่างๆ ไปให้ฝ่ายบริหารอนุมัติ เพื่อนำไปประกอบกับกลไกของกฎหมายตาม ม.15 เพื่อใช้แก้ไขปัญหาความมั่นคงนั้นๆ ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่นปัญหา จชต. ซึ่งกรณีคดีของนาย Paul Chambers เป็นคดีอาญาปกติ ไม่ใช่การเสนอแผนฯ เพื่อจะขออนุมัตินำไปใช้แก้ปัญหาความมั่นคง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ทบ. ย้ำ ชายแดนไทย-กัมพูชา สถานการณ์ยังปกติ ไร้การเผชิญหน้า ทบ. ย้ำ ชายแดนไทย-กัมพูชา สถานการณ์ยังปกติ ไร้การเผชิญหน้า
  • มหา\'ลัยเลิกจ้าง\'พอล แชมเบอร์ส\' โดนตม.ยึดพาสปอร์ต หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดี ม.112 มหา'ลัยเลิกจ้าง'พอล แชมเบอร์ส' โดนตม.ยึดพาสปอร์ต หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดี ม.112
  • อัยการสั่งไม่ฟ้อง \'พอล แชมเบอร์ส\' คดี ม.112-พรบ.คอมฯ อัยการสั่งไม่ฟ้อง 'พอล แชมเบอร์ส' คดี ม.112-พรบ.คอมฯ
  • ศาลอุทธรณ์ภาค 6 อนุญาตให้\'พอล แชมเบอร์ส\' ถอดกำไลอีเอ็ม ศาลอุทธรณ์ภาค 6 อนุญาตให้'พอล แชมเบอร์ส' ถอดกำไลอีเอ็ม
  • ‘พัน.สห.11’ปัดรับงานอีเว้นท์จีน ไล่เช็คจนท.แต่งชุดคล้าย‘สารวัตรทหาร’ใช่กำลังพลหรือไม่ ‘พัน.สห.11’ปัดรับงานอีเว้นท์จีน ไล่เช็คจนท.แต่งชุดคล้าย‘สารวัตรทหาร’ใช่กำลังพลหรือไม่
  • คุก\'ตี้ พะเยา-เบนจา-บิ๊ก\' คดี ม.112 3-4 ปี ปราศรัยม็อบ ราษฎรยืนยันดันเพดาน ให้รอลงโทษ 5 ปี คุก'ตี้ พะเยา-เบนจา-บิ๊ก' คดี ม.112 3-4 ปี ปราศรัยม็อบ ราษฎรยืนยันดันเพดาน ให้รอลงโทษ 5 ปี
  •  

Breaking News

บุรีรัมย์โกงตาย! แม่นโทษโค่นเวียดนามคว้าแขมป์อาเซียน

'เพิ่มพูน'ดันนำ'ดิจิทัล-AI'พัฒนาคุณภาพการศึกษาไทย

เข้าถึงยากขึ้น! 'สมศักดิ์'เล็งใช้ใบรับรองแพทย์ก่อนใช้'กัญชา'

'DSI'จับกุมตัวผู้ต้องหาฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved