ค้าน”นฤมล”เดินหน้าโครงการผันน้ำยวม ชาวบ้านหวั่นเชื่อข้อมูลกรมชลประทานฝ่ายเดียว ชวนรัฐมนตรีลงพื้นที่พิสูจน์ข้อเท็จจริง “หาญณรงค์”ชี้ได้ไม่คุ้มเสียแทนที่รัฐมนตรีจะทบทวนกลับผลักดัน
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 นายสะท้าน ชีววิชัยพงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำยวม เงา เมย สาละวิน เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวบ้าน ที่จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งจะได้รับผลกระทบจากโครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพล หรือโครงการผันน้ำยวม ต่างมีความวิตกกังวลหลังจากทราบข่าวว่านางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการ (รมว.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) ได้ขับเคลื่อนโครงการบริหารจัดการน้ำแก้ปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม ซึ่งกรมชลประทาน มีประมาณ 16 โครงการ หนึ่งในนั้นได้แก่โครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพล ซึ่งเป็นการสร้างอุโมงค์ผันน้ำจากแม่น้ำยวม มาเติมน้ำให้เขื่อนภูมิพลประมาณปีละ 1,800 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งข่าวระบุว่าปัจจุบันอยู่ระหว่างการชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการ รวมถึงพิจารณารูปแบบ แนวทางการดำเนินโครงการให้มีความเหมาะสมและมีผลกระทบน้อยที่สุด
นายสะท้าน กล่าวว่า โครงการผันน้ำยวม มีความพยายามผลักดันอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลว่าเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งตนเห็นว่าแก้ปัญหาไม่ตรงจุด เพราะแม่น้ำยวมอยู่ที่ จ.แม่ฮ่องสอน แต่แผนในโครงการที่จะผันน้ำไปลงลุ่มเจ้าพระยากลับเป็นช่วงฤดูฝน ซึ่งจะยิ่งทำให้น้ำในภาคกลางเยอะไปกันใหญ่ จะเป็นการซ้ำเติมประชาชนภาคกลางที่ประสบภัยน้ำท่วม แนวคิดแบบนี้ไม่สมเหตุสมผล นอกจากนี้การผันน้ำข้ามลุ่ม ต้องขุดระเบิดอุโมงค์ยาวถึง 62 กม.ใต้ภูเขาผ่านป่ารอยต่อ 3จังหวัดภาคเหนือ คือแม่ฮ่องสอน ตาก เชียงใหม่ ซึ่งจะกระทบต่อพื้นที่ต้นน้ำลำธาร และชุมชนอีกกว่า 36 หมู่บ้านที่ไม่ได้นับรวมอยู่ในเอกสารของทางการ
“ประชาชนในพื้นที่ซึ่งจะได้รับผลกระทบ มีจุดยืนไม่เห็นด้วยกับโครงการผันน้ำยวมมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่กระบวนการทำรายงานการศึกษาผลกระบสิ่งแวดล้อม (EIA) ที่ไม่มีส่วนร่วมของประชาชน ไม่ครอบคลุมเนื้อหาอย่างเพียงพอ อีกทั้งมีการใช้ข้อมูลและรูปภาพที่ไม่ถูกต้อง จนได้มีการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเชียงใหม่ขอให้ยกเลิกรายงาน EIA ดังกล่าว และศาลอยู่ระหว่างการพิจารณา จริงๆหากรัฐมนตรีกระทรวงเกษตร มาคุยกับชาวบ้านโดยตรง จะได้ข้อมูลอีกชุดหนึ่ง ไม่เหมือนกับที่กรมชลฯรายงาน จึงอยากชวนท่านมาลงพื้นที่ และพบกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อหารือและร่วมพิสูจน์ข้อเท็จจริง” นายสะท้านกล่าว
นายหาญรงค์ เยาวเลิศ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการน้ำ และรองประธานมูลนิธิแม่น้ำนานาชาติ International Rivers กล่าวว่า ความเข้าใจที่ รมว.กษ. ผลักดันเป็นนโยบาย น่าจะเป็นการเข้าใจผิดคือ 1. บอกว่าพร้อมผลักดันและอยู่ระหว่างทำความเข้าใจกับผู้ได้รับผลกระทบ แต่จริงๆ แล้วคือรายงาน EIA ผ่านการเห็นชอบ (โดยคณะกรรมการสางแวดล้อมแห่งชาติ) ไปแล้ว การหาทางเลือกต่างๆ มันได้ผ่านขั้นตอนนั้นไปแล้ว ตรงนี้ไม่ใช่ข้อเท็จจริง การทำความเข้าใจที่พบเป็นเรื่องอื่นๆ ไม่ใช่การทำความเข้าใจโครงการผันน้ำยวม
“ชาวบ้านที่ลุ่มน้ำยวม ต่างกังวลว่าน้ำจะไม่พอให้ผันออกไป นี่เป็นโครงการใหญ่ มูลค่าสูง ซึ่งกรมชลประทานจะเชิญชวนเอกชนและต่างชาติมาร่วมลงทุน การได้น้ำเพียงเท่านี้ ลงทุนสูงถึงแสนล้าน ซึ่งโดยหลักการแล้วการจัดหาน้ำ 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร งบประมาณไม่ควรเกิน 15,000 ล้านบาท แต่การศึกษาของโครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน เมื่อปี 2565 งบประมาณการลงทุนร่วมระหว่างรัฐและเอกชน กว่า 2.4 แสนล้าน ไม่คุ้มแน่นอน รัฐมนตรีควรทบทวน ไม่ใช่เร่งผลักดัน นี่เป็นปัญหาของการวางนโยบายที่ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง และอาจะมีปัญหาการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน ซึ่งหลายฝ่ายต่างมองว่าโครงการนี้ใช่ภารกิจของกรมชลประทานหรือไม่ หากจะให้คุ้มทุน คือต้องนำมาขายน้ำประปา แต่การลงทุนนี้ของกรมชลประทานเพื่อคืนทุนให้ได้จะเป็นได้อย่างไร” นายหาญณรงค์ กล่าว
นายหาญณรงค์ กล่าวว่า นอกจากนี้ขณะนี้การฟ้องต่อศาลปกครองให้ยกเลิกรายงาน EIA ซึ่งผ่านการเห็นชอบมาแล้ว 4 ปี และรายงานนี้จัดทำมาแล้ว 6 ปี ข้อมูลที่ชาวบ้านโต้แย้งก็ไม่ตรงกับความเป็นจริงแล้ว หากจะเดินหน้าจริงจำเป็นต้องการคำนวณงบประมาณการลงทุนใหม่ เพราะตัวเลขเปลี่ยนไปแล้ว ไทยมีภาวะเศรษฐกิจแบบนี้จะเท่าเดิมได้อย่างไร
“สุดท้ายโครงการผันน้ำยวม จะกลายเป็นภาระของประเทศไทยไปอีกหลายสิบปี รมว.ควรกลับมาทบทวนเป็นอย่างยิ่ง เพื่อประโยชน์ของประชาชนและทรัพยากรลุ่มน้ำ” นายหาญณรงค์กล่าว
ทั้งนี้นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า กำลังขับเคลื่อนโครงการบริหารจัดการน้ำแก้ปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมอย่างยั่งยืน กำชับกรมชลประทานขับเคลื่อนโครงการต่างๆ เพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการน้ำ ปัจจุบันโครงการขนาดใหญ่ ที่อยู่ในมือกรมชลประทาน มีประมาณ 16 โครงการ โดย1 ในนั้นคือโครงการผันน้ำยวม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี