โจรฉายเดี่ยวฉก จยย.ช่างภาพวัดดังนครพนมถึงหน้าบ้านกลางวันแสกๆ ซวยรถเครื่องดับกลางทางนำเข้าอู่ให้ช่างซ่อม นั่งกินเหนียวปิ้งไก่รอซ่อมอย่างใจเย็นเป็นหลักฐานให้ตำรวจตามล่า

เมื่อวันที่ 2 พ.ค.68 ที่ผ่านมา นายไชยยุทธ สายธาร อายุ 36 ปี และนางสาวอรกนก ภูมี อายุ 35 ปี สองสามีภรรยาอาชีพช่างภาพในวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ธนพงษ์ ชาวเชียงตุง รองสารวัตรสอบสวน สภ.ธาตุพนม จ.นครพนมว่า รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนได้หายไปจากบริเวณหน้าบ้านในชุมชนหลังวัดพระธาตุพนมฯ เมื่อเวลาประมาณ 15.10 น.วันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา

หลังสอบสวนปากคำผู้เสียหาย จนได้ข้อมูลแน่ชัดแล้ว พ.ต.อ.แสวง คนคล่อง ผกก.สภ.ธาตุพนม สั่งชุดสืบสวนเร่งหาข่าว พร้อมประสานโรงพักใกล้เคียง ในขณะเดียวกันสื่อสังคมออนไลน์ ก็ช่วยโพสต์ติดตามตัวคนร้ายอีกช่องทางหนึ่ง กระทั่งได้เบาะแสจากพลเมืองดีว่าเห็นบุคคลต้องสงสัยจูงรถจักรยานยนต์ลักษณะตรงกับที่ผู้เสียหายแจ้งไว้ อยู่บนถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (ชยางกูร) ฝั่งขาเข้าเมืองนครพนม บริเวณปากทางเข้าบ้านดอนนางหงส์ ต.ดอนนางหงส์ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 15 กิโลเมตร ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ธาตุพนม ได้ประสานงานกับชุดสืบสวน สภ.หลักศิลา เนื่องจากจุดที่พบอยู่ในเขตรับผิดชอบของ สภ.หลักศิลา และนำผู้เสียหายร่วมตรวจสอบ และพบรถจักรยานยนต์จอดอยู่ในอู่แห่งหนึ่งใน ต.ดอนนางหงส์ ผู้เสียหายดีใจสุดขีดถึงกับโดดตัวลอย แม้จะพบรถในสภาพเครื่องยนต์จะเสียหายก็ตาม ก็ถือเป็นรถค้ำรถคูนที่ใช้ในการทำมาหากิน โดยชุดสืบสวน สภ.ธาตุพนม ได้ขอภาพจากกล้องวงจรปิดของอู่ซ่อมรถดังกล่าว เพื่อใช้เป็นเบาะแสในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายศุภเรศเจ้าของอู่ซ่อมรถ เล่าว่าเมื่อช่วงเวลาประมาณ 16:00 น. วันที่ 30 เมษายนมีคนโทรศัพท์บอกว่า มีรถจักรยานยนต์เสียอยู่ที่ปากทางเข้าบ้านดอนนางหงส์ ขอให้ไปรับมาซ่อมหน่อย ตนจึงส่งลูกน้องขับรถจักรยานยนต์อีกคัน ใช้เท้ายันที่พักเท้ารถคันที่เสียกลับมาที่อู่ โดยมีชายอายุประมาณ 40-50 ปี อ้างเป็นเจ้าของรถจะเดินทางไปตัวเมืองนครพนม แต่รถดันมาเสียระหว่างทาง หลังกลับจากไปไหว้องค์พระธาตุพนม ตนจึงตรวจเช็ค และขอให้ประเมินราคาซ่อมพบว่าน้ำมันเครื่องแห้ง ลูกสูบติดมีค่าซ่อมสูง ชายคนดังกล่าวจึงขอฝากรถไว้ก่อนแล้วเดินออกไป กระทั่งผู้เสียหายและเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาที่ร้าน และแจ้งว่าเป็นรถที่ถูกขโมยมา ตนจึงได้คืนรถคันดังกล่าวให้กับเจ้าของไป ซึ่งในกล้องวงจรปิดระหว่างรอช่างประเมินราคาค่าซ่อม ชายดังกล่าวยังใจเย็นเอาข้าวเหนียวปิ้งไก่มานั่งกินอย่างสบายใจ

ด้านนางสาวอรกนกเล่าว่าในวันเกิดเหตุคือวันที่ 30 เมษายน ตนและสามีนั่งกินข้าวเที่ยงกัน โดยจอดรถจักรยานยนต์คู่ชีพไว้ที่หน้าบ้าน และไม่ได้ถอดกุญแจออก จากนั้นตนได้ออกไปทำงานก่อน ส่วนสามีเตรียมจะขับรถตามออกไป แต่แวะไปคุยกับเพื่อนบ้านประมาณ 5 นาที ก็พบว่ารถได้หายไปแล้ว ตนและสามีจึงรีบเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.ธาตุพนม เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นได้ระดมคนรู้จักช่วยกันตามหา พร้อมทั้งขอดูกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียง กระทั่งมีตำรวจโทรศัพท์มาแจ้งว่า พบรถอยู่ในอู่ซ่อมรถพื้นที่ ต.ดอนนางหงส์ จึงรีบเดินทางไปดูซึ่งเป็นรถของตนจริงๆ แม้จะอยู่ในสภาพเครื่องยนต์เสียหายก็ตาม

นางสาวกรกนก ฝากเตือนเจ้าของรถจักรยานยนต์ทุกคันว่า อย่าประมาทเผลอเรอเสียบกุญแจค้างทิ้งไว้เด็ดขาด เพราะมิจฉาชีพแฝงตัวอยู่ทุกที่ และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับใคร ตนถือว่าโชคยังดีที่ได้รถคืน พร้อมทั้งขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เป็นภัยต่อสังคมต่อไป

ทั้งนี้ จากภาพในวงจรปิดลักษณะของโจรรายนี้ ถือว่าเป็นมืออาชีพที่มีการเตรียมตัวมาลักรถจักรยานยนต์โดยเฉพาะ เพื่อส่งข้ามโขงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ปกติคนร้ายจะมาด้วยกัน 2 คนเลาะตระเวนหาในย่านชุมชนหรือตลาดนัด เมื่อเจอรถที่ต้องการคนหนึ่งจะลงไปขโมย โดยรถที่มีออเดอร์ต้องการสูงคือยี่ห้อฮอนด้า เวฟ หากไม่มีจริงๆยี่ห้ออื่นก็พอได้