4 พ.ค. 2568 ประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตด้านความปลอดภัยทางถนนอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชนที่ตกเป็นเหยื่อของอุบัติเหตุทางถนนในอัตราที่น่าตกใจ แม้จะมีความพยายามในการลดอุบัติเหตุมาอย่างต่อเนื่อง แต่ “ต้นตอของความสูญเสียอนาคตของชาติ” ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นระบบและจริงจัง ถึงเวลาแล้วที่ประเทศต้องให้ความสำคัญกับชีวิตของเด็กและเยาวชน โดยการประกาศ “ปีแห่งความปลอดภัยทางถนนสำหรับเด็กและเยาวชน” เพื่อผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างและวัฒนธรรมด้านความปลอดภัยทางถนนอย่างเป็นรูปธรรม
- วิกฤตที่ต้องไม่มองข้าม : ข้อมูลจากรายงานวิจัยโดยสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ระบุว่า เด็กและเยาวชนไทยเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะในช่วงวัยมัธยมที่มีการใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะหลัก การเสียชีวิตจำนวนมากเกิดขึ้นจากปัจจัยซ้ำซาก เช่น ไม่สวมหมวกนิรภัย ขับรถเร็ว หรือไม่มีใบขับขี่ที่ถูกต้อง ทั้งที่ปัจจัยเหล่านี้สามารถป้องกันได้ด้วยการบังคับใช้กฎหมายและสร้างวินัยจราจรตั้งแต่ในครอบครัวและโรงเรียน
- ช่องว่างของระบบที่ต้องเร่งอุด : หนึ่งในประเด็นที่รายงานเน้นย้ำคือ “ช่องว่างของระบบ” ซึ่งหมายถึงความล้มเหลวของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบูรณาการข้อมูล การป้องกัน และการเยียวยาอย่างเป็นระบบ มีตัวอย่างของเด็กและเยาวชนที่บาดเจ็บหรือพิการถาวรจากอุบัติเหตุโดยไม่มีระบบรองรับที่ชัดเจน ทั้งในด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพ การศึกษาต่อ หรือการเข้าถึงสิทธิด้านสุขภาพและสวัสดิการ ช่องว่างเหล่านี้เป็นอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้ปัญหาเรื้อรังและบั่นทอนอนาคตของประเทศ
- ประกาศปีแห่งความปลอดภัย: จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง การประกาศ “ปีแห่งความปลอดภัยทางถนนสำหรับเด็กและเยาวชน” ควรเป็นนโยบายระดับชาติที่มีเป้าหมายชัดเจนและวัดผลได้ เช่น
1.ลดอัตราการเสียชีวิตของเด็กและเยาวชนจากอุบัติเหตุทางถนนอย่างน้อย 50% ภายในปีถัดไป
2.ส่งเสริมการใช้หมวกกันน็อก 100% ในโรงเรียนมัธยม
3.ปรับปรุงการเข้าถึงใบขับขี่อย่างมีมาตรฐานสำหรับเยาวชน
4.บูรณาการการเรียนรู้เรื่องความปลอดภัยทางถนนในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
- ข้อเสนอเชิงนโยบาย
1.สร้างระบบข้อมูลระดับชาติ เพื่อเก็บข้อมูลผู้ประสบอุบัติเหตุทางถนนอย่างละเอียด จำแนกตามช่วงวัย และใช้เพื่อออกแบบมาตรการที่เหมาะสม
2.ส่งเสริมโรงเรียนต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนน โดยสนับสนุนงบประมาณและให้รางวัลแก่โรงเรียนที่มีมาตรการลดอุบัติเหตุอย่างได้ผล
3.บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดควบคู่กับการสื่อสารสาธารณะ โดยเฉพาะในช่วงเปิดเทอมที่มีความเสี่ยงสูง
4.สร้างระบบการเยียวยาและฟื้นฟูแบบองค์รวม สำหรับผู้ประสบเหตุและครอบครัว โดยเชื่อมโยงระหว่างกระทรวงสาธารณสุข การศึกษา และการพัฒนาสังคม
บทสรุป : ชีวิตของเด็กและเยาวชนไม่ควรถูกปล่อยให้ฝากไว้กับ “โชคชะตา” บนท้องถนน ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะต้องหันมาให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของพลเมืองรุ่นใหม่อย่างจริงจัง การประกาศ “ปีแห่งความปลอดภัยทางถนนสำหรับเด็กและเยาวชน” ไม่ใช่เพียงแค่สัญลักษณ์ แต่ต้องเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูประบบ เพื่อปกป้องอนาคตของชาติอย่างยั่งยืน
043...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี