อาวัย 65 ปี ชักปืนลูกโม่ .38 ยิงดับ หลานวัย 51 ปี ปมเหตุเบี้ยวหนี้หลักแสนเป็นทุนเดิน ฉุนขาดปมใหม่ระอุเพิ่ม วันเกิดเหตุหลานชายคนดังกล่าว ขับรถตามมาดุด่าหลานชายอีกคนถึงหน้าบ้าน หลังไปเบิ้ลรถเสียงดังใส่ ก่อนซุกตัวหนีรีสอร์ท ตำรวจตามแกะรอยรวบตัวทันควัน
6 พฤษภาคม 2568 เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ต.ต.สถาพร จ้องโก้ สว. (สอบสวน) สภ.สิเกา จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุว่า มีบุคคลถูกยิงในพื้นที่หมู่ 6 บ้านทับมะขาม ต.นาเมืองเพชร ถูกส่งตัวไปรักษายัง รพ.ตรัง และได้เสียชีวิตเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังรับแจ้งเหตุจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธีรภัทร ปิยะถาวร ผกก. พ.ต.ท.ฉันทรักษ์ จันวดี รอง ผกก. (สอบสวน) กำลัง ตร.ชุดสืบสวน สภ.สิเกา ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ตรัง ก่อนแจ้งประสานไปยังเจ้าหน้าที่ ตร.พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง (บ้วนเต็กเซี่ยงตึ๊ง) รุดไปตรวจสอบ
ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือนายศักดิ์ศรี อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 6 ต.นาเมืองเพชร อ.สิเกา จ.ตรัง จากการชันสูตรพลิกศพพบถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดลูกโม่ ขนาด.38 เข้าบริเวณราวนมด้านซ้าย กระสุนฝังใน ก่อนจะทำการประสานส่งศพผู้ตายไปตรวจชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ต่อมาจึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ บนถนนในหมู่บ้าน บ้านทับมะขาม หน้าบ้านเลขที่ 96/3 หมู่ 6 ต.นาเมืองเพชร พบเพียงรอยเลือดลิ่มเลือด จำนวน 3 จุด ที่อยู่บนพื้นถนน ที่ผ่านการล้างด้วยน้ำแล้ว ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายเสงี่ยม อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96 หมู่ 6 ต.นาเมืองเพชร อ.สิเกา จ.ตรัง ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องของพ่อผู้เสียชีวิต หรืออาผู้เสียชีวิต หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป
ขณะที่แนวทางการสอบสวนในเบื้องต้น ทราบว่า ทั้งหมดเป็นเครือญาติใกล้ชิดกัน ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาระหว่างผู้ตายและผู้ก่อเหตุมีเรื่องระหองระแหงสะสมกันมาเป็นระยะเวลาแรมปีในหลากหลายเรื่อง รวมทั้งจากมูลเหตุที่คนตายได้ไปหยิบยืมเงินจากผู้ก่อเหตุจำนวนหนึ่งหลักแสนบาท แต่ปรากฏว่าผู้ตายไม่ได้คืนกลับให้ ซึ่งทางผู้ก่อเหตุก็มีการทวงอยู่เป็นเนืองๆ จนทำให้ทั้งคู่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด
จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายอยู่ที่บ้านของตัวเอง จังหวะนั้นได้มีหลานชายของตนเอง ขับรถ จยย.มาเบิ้ลท่อเสียงดังอยู่บริเวณหน้าบ้าน ทันไดนั้นผู้ตายได้ดุด่าต่อว่า ต่อมาหลานชายคนดังกล่าวได้ขับรถ จยย.กลับไปที่บ้านพัก ซึ่งอยู่ห่างกันเพียง 300 เมตร ก่อนจะบอกเรื่องราวที่ถูกคนตายดุด่าให้กับผู้เป็นพ่อของตนเองและผู้เป็นปู่ (ผู้ก่อเหตุ) ซึ่งอยู่ภายในบ้าน จังหวะเดียวกันนั้นผู้ตายได้ขับรถ จยย.ตามมาดุด่าต่อเป็นครั้งที่ 2 ที่บริเวณหน้าบ้านของหลาน โดยที่มีผู้เป็นปู่และพ่อของหลานคนดังกล่าวนั่งอยู่ด้วย ทำให้ผู้เป็นปู่ของหลานคนดังกล่าว และมีศักดิ์เป็นอาของผู้ตาย ได้ใช้อาวุธปืนชักออกมายิงผู้ตายซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานชายเช่นเดียวกันจนเสียชีวิต
ต่อมาทางผู้ก่อเหตุ ผู้เป็นพ่อของหลานที่ไปเบิ้ลรถ รวมทั้งตัวของหลานเอง รวมจำนวน 3 คน ได้นำร่างผู้ตายขึ้นรถยนต์กระบะออกจากจุดเกิดเหตุ และในระหว่างทางได้จอดรถให้กับผู้ก่อเหตุลงข้างทาง เพื่อไปหลบหนีและซ่อนตัวอยู่ภายในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ก่อนที่ทั้ง 2 คนจะขับรถต่อ มาส่งผู้ตายที่ รพ.ศูนย์ตรัง จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเข้าไปตรวจสอบที่ รพ. พบหลานชายซึ่งเป็นคนเบิ้ลรถนั่งร้องโศกเศร้าเสียใจอยู่ จึงได้เข้าพูดคุย แต่เจ้าหน้าที่สามารถจับพิรุธได้ จึงทำการเค้นสอบสวนจนหลานชายเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน ภ.จว.ตรัง ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.สิเกา ได้จับกุมตัว นายเสงี่ยม ผู้ต้องหารายนี้ได้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง พื้นที่ ม.4 ต.นาเมืองเพชร อ.สิเกา จ.ตรัง ในช่วงเวลาประมาณ 01.26 น. คืนวันเดียวกัน ภายหลังจากจับกุมผู้ต้องหารายนี้ให้การวกวน จนสุดท้ายเบื้องต้นในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ใช้อาวุธปืนยิงนายศักดิ์ศรี ในที่เกิดเหตุจริง หลังก่อเหตุได้มอบอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เป็นอาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อสมิทแฮนด์แวทสัน สีดำ ขนาด .38 สเปเชี่ยล ความยาวลำกล้อง 3 นิ้ว โดยมีปลอกกระสุนปืน ขนาด .38 ที่ผ่านการยิง จำนวน 1 ปลอก ยังบรรจุอยู่ในรังเพลิง ให้ลูกสาวไปเก็บไว้ที่ขนำในสวนยางพาราหลังบ้าน เจ้าหน้าที่ ตร.จึงได้ตรวจยึดอาวุธปืนไว้เป็นของกลาง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่น , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน, พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยมิได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว โดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์, ยิงปืนในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชนโดยใช่เหตุ” ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.สิเกา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี