7 พ.ค. 68 ที่มหาวิทยาลัยสวนดุสิต จัดงานเปิดสถาบันศิโรจน์ผลพันธิน มีการปาฐกถาพิเศษศิโรจน์ผลพันธิน (ครั้งที่ 1) : โดยมีศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ ประธานกรรมการกิตติมศักดิ์ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน), อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตเลขาธิการ WTO, อดีตเลขาธิการ UNCTAD (อังค์ถัด) ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานที่ปรึกษาสถาบันศิโรจน์ผลพันธิน และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ดร.ถนอม อินทรกำเนิด นายกสภามหาวิทยาลัยสวนดุสิต และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิทักษ์ จันทร์เจริญ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต รวมถึงผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษาเข้าร่วม
โดย ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานที่ปรึกษาสถาบันศิโรจน์ผลพันธิน กล่าวถึง การจัดตั้งสถาบันศิโรจน์ผลพันธินในครั้งนี้ ว่า การปฏิรูปอุดมศึกษาไทย เราต้องยอมรับว่าความท้าทายของโลกยุคใหม่มิใช่เรื่องเล็ก ตลอดระยะเวลาที่ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ได้เห็นถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบและการพัฒนาภาวะผู้นำที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล สิ่งนี้คือ หัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่อนาคต
“สถาบันศิโรจน์ผลพันธิน” ไม่ใช่เพียงการเปิดสถาบันใหม่ แต่เป็นการเปิดศักราชใหม่แห่งการพัฒนารูปแบบการบริหารอุดมศึกษาไทยที่มีรากฐานจากประสบการณ์จริงและปรัชญาการบริหารที่ได้รับการพิสูจน์ว่า Sirote's Model for University Quality Integration ที่ รศ.ดร.ศิโรจน์ ผลพันธิน ได้พัฒนาขึ้นจากประสบการณ์บริหารกว่า 30 ปี เป็นต้นแบบสำคัญที่ชี้ให้เห็นถึงสถาบันอุดมศึกษาไทยสามารถสร้างอัตลักษณ์และความเป็นเลิศได้โดยการบูรณาการนวัตกรรมการบริหารเข้ากับบริบทของสังคมไทย โดยไม่จำเป็นต้องลอกเลียนโมเดลจากต่างประเทศทั้งหมด
"Small but Smart" หรือ "จิ๋วแต่แจ๋ว" คือ แนวคิดเชิงกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาอุดมศึกษาที่ได้ผลักดันมาโดยตลอด นั่นคือการมุ่งเน้นความเป็นเลิศตามความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง การสร้างจุดแข็ง ที่โดดเด่น และการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งมหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้นำแนวคิดนี้ไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนและการสร้างชื่อเสียงในระดับนานาชาติได้ จึงได้จัดตั้งสถาบันศิโรจน์ผลพันธิน เพื่อเป็นศูนย์กลางในการถ่ายทอดและต่อยอดองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการสถาบันการศึกษา พร้อมทั้งพัฒนาผู้นำรุ่นใหม่ให้มีศักยภาพในการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความเป็นเลิศและความยั่งยืนในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง
โดยมีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของผู้บริหารทางการศึกษาระดับสูงทั้งภาครัฐและเอกชน ให้มีความรู้ ความสามารถ และวิสัยทัศน์ในการบริหารจัดการองค์กรอย่างมีออาชีพ จัดสัมมนา ปาฐกถา เสวนา อันจะนำไปสู่การพัฒนาและต่อยอดองค์ความรู้ พัฒนางานวิจัยทางด้านการศึกษาที่มีคุณภาพระดับชาติและนานาชาติ พัฒนาเครือข่ายความร่วมมือ และการจัดทำฐานข้อมูลด้านการบริหารระดับสูงที่เป็นประโยชน์ต่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการพัฒนาองค์กรสืบไป
ด้าน ผศ.ดร.พิทักษ์ จันทร์เจริญ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้กล่าวเพิ่มเติม ว่า ในนามของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ต้องขอขอบคุณอย่างสูงต่อท่าน ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ นักการทูตและผู้นำระดับโลก ผู้เคยดำรงตำแหน่งสำคัญมากมาย ทั้งประธานกรรมการกิตติมศักดิ์ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตเลขาธิการ WTO และอดีตเลขาธิการ UNCTAD (อังค์ถัด) ที่ได้กรุณามาเป็นองค์ปาฐกในการแสดงปาฐกถาพิเศษศิโรจน์ผลพันธิน ครั้งที่ 1 เรื่อง “บทบาทอุดมศึกษาไทยกับการพัฒนาประเทศ” ในวันนี้ และ การเปิดสถาบันศิโรจน์ผลพันธิน ถือเป็นก้าวสำคัญของมหาวิทยาลัยสวนดุสิตและวงการอุดมศึกษาไทย ในการสร้างพื้นที่แห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนาองค์ความรู้ด้านการบริหารสถาบันอุดมศึกษา โดยมีรากฐานสำคัญจาก Sirote's Model for University Quality Integration ซึ่งเป็นแนวคิด ที่พัฒนาขึ้นจากประสบการณ์จริงในบริบทของสังคมไทย
มหาวิทยาลัยสวนดุสิตมีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการดำเนินงานของสถาบันศิโรจน์ผลพันธินให้บรรลุตามวิสัยทัศน์และพันธกิจ ผ่านการพัฒนาผู้นำ การสร้างองค์ความรู้ด้านการบริหาร การวิจัย และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้สถาบันแห่งนี้เป็นศูนย์กลางในการยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยสู่มาตรฐานสากล ผมเชื่อมั่นว่า ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน สถาบันศิโรจน์ผลพันธินจะเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาอุดมศึกษาไทย และเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพของประเทศให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีโลกอย่างยั่งยืน ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมเป็นสักขีพยานในวันประวัติศาสตร์ของวงการอุดมศึกษาไทยในวันนี้
.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี