ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบ 4 ผู้ต้องหา ก่อเหตุร่วมกันพยายามฆ่า ในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ พบอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และยุทธภัณฑ์ผิดกฎหมาย จำนวนมาก
วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ผกก.4 บก.ป. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. ร่วมกันจับกุม 4 ผู้ต้องหา ดังนี้
นายวัชรพงศ์ หรือโป้งฯ อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2601/2568 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป,ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้นและได้กระทำโดยมีอาวุธ และร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร”
นายศรุต หรือท๊อปฯ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2602/2568 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น,ร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป,ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้นและได้กระทำโดยมีอาวุธ และร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร”
นายศราวุธ หรือตุ๊กฯ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2603/2568 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น,ร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป,ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้นและได้กระทำโดยมีอาวุธ และร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร”
นายภูมินทร์ หรือปองฯ อายุ 56 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2604/2568 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น,ร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป,ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของ ผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้นและได้กระทำโดยมีอาวุธ และร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร”
โดยนำกำลังเข้าตรวจค้นจับกุมในพื้นที่ จ.นครปฐม, จ.สมุทรปราการ และ กทม. รวม 5 จุด
พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2567 กลุ่มผู้ก่อเหตุจำนวน 4 คน ประกอบด้วยนายวัชรพงศ์ หรือโป้ง, นายศรุต หรือท๊อป, นายศราวุธ หรือตุ๊ก และ นายภูมินทร์ หรือปอง ได้ใช้รถยนต์เดินทางมุ่งหน้าสู่ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ เพื่อเดินทางไปบ้านผู้เสียหาย ต่อมาเมื่อกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้ง 4 คน เดินทางมาถึงกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ร่วมกันบุกรุกเข้าไปในบริเวณบ้านของผู้เสียหาย จากนั้นได้ข่มขู่บังคับให้ผู้เสียหายส่งมอบทรัพย์สินให้ ซึ่งนายวัชรพงศ์ หรือโป้งฯ ได้ใช้อาวุธปืนพกสั้น ขึ้นลำอาวุธปืน ลักษณะพร้อมที่จะยิง จ่อไปที่บริเวณลำคอใกล้กับศีรษะของผู้เสียหาย ต่อหน้าภรรยาและบุตรชายของผู้เสียหาย และภายหลังจากก่อเหตุ กลุ่มผู้ก่อเหตุจึงได้นำรถยนต์ที่จอดอยู่ในบริเวณบ้านผู้เสียหายขับขี่หลบหนีไปพร้อมกับรถยนต์ที่ใช้เดินทางมาก่อเหตุ
หลังจากเกิดเหตุ ผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุในความผิดที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย โดยต่อมาศาลอาญาได้ออกหมายจับ ผู้ต้องหาจำนวน 4 คนข้างต้น
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม จึงได้ดำเนินการติดตามจับกุม ผู้ต้องหาตามหมายจับทั้ง 4 คน โดยทำการตรวจค้นและจับกุมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นครปฐม และ สมุทรปราการ พร้อมได้ทำการตรวจค้นบ้านพักและสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายค้นศาลอาญา ทำการตรวจค้นบริเวณบ้านพักและอู่ซ่อมรถของนายวัชรพงศ์ฯ หรือ โป้ง ผลการตรวจค้นพบวัตถุคล้ายเครื่องยิงระเบิกต่อสู้รถถัง, อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้, อาวุธปืนไม่มีทะเบียน และอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนผิดกฎหมาย ซึ่งตรวจยึดอาวุธปืนรวมจำนวน 20 กระบอก ตรวจยึดเครื่องกระสุนปืน รวมจำนวน 4,155 นัด พร้อมกับยุทธภัณฑ์และชิ้นส่วนอาวุธปืนจำนวนมาก ตลอดจนตรวจยึดพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดี จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาและสิ่งของที่ได้ทำการตรวจยึดส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี