รองผู้ว่าฯ ทวิดา กมลเวชช รับผิดชอบงานในส่วนของการเข้าถึงระบบสุขภาพและทำให้เมืองเข้มแข็งขึ้น ขอส่งการบ้านประชาชน แถลงผลงานในโอกาสการทำงานครบรอบ 3 ปี ภายใต้แนวคิด “ก้าวสู่ปีที่ 4 ขับเคลื่อนกรุงเทพฯ สู่เมืองแห่งโอกาสและความหวัง”
นางสาวทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า จากโครงการตรวจสุขภาพ 1 ล้านคน พบว่าคนกรุงเทพฯ อ้วน ทั้งในผู้ใหญ่และเด็ก จึงเชื่อมโยงกับสิ่งที่กทม.ทำ เช่น ‘สวน 15 นาที’ ‘Bike Sharing’ หรือทำทางเดินที่เดินได้มากขึ้น เป็นการช่วยส่งเสริมให้คนได้ออกกำลังกาย และทำให้ภาวะน้ำหนักเกินหายไปด้วย จากการออกหน่วยตรวจสุขภาพ พบว่า สิ่งหนึ่งที่โรงพยาบาลในสังกัด กทม. หรือ โรงพยาบาลรัฐฯ ไม่เคยทำ คือการเปิด ‘Wellness Clinic’ ตอนนี้ทุกคนสามารถเข้าไปใช้บริการตรวจสุขภาพได้แล้วทั้ง 11 โรงพยาบาลสังกัด กทม. และเปิดบริการนอกเวลาราชการด้วย
ทั้งนี้ กทม. เน้นเรื่องความหลากหลาย รวมถึงสุขภาพของคนทุกกลุ่ม มี Pride Clinic 31 แห่ง ทั่วกรุงเทพฯ อยู่ในทุกโรงพยาบาลสังกัด กทม. ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. และเปิดบริการนอกเวลาราชการ ส่งเสริมให้มีชมรมผู้สูงอายุ ในทุกชุมชน คนพิการไม่ต้องออกจากบ้านแล้ว มีหมอเข้าไประบุความพิการได้ถึงบ้าน ส่งข้อมูลผ่านระบบ จดทะเบียนกลับมาที่โรงพยาบาล ที่มีหมอคอยดูแล และสามารถขึ้นทะเบียนบน BMA OSS เพื่อขอรับเบี้ย รวมถึงมีรถรับ - ส่ง บริการผู้พิการที่จะมาโรงพยาบาล
“เรื่องหนึ่งที่เป็นปัญหาของกรุงเทพฯ มานานมาก คือ เรื่องสัตว์จรและสัตว์เลี้ยง ตอนนี้ กทม. ประกาศใช้ข้อบัญญัติฯ ซึ่งจะมีผลในวันที่ 10 ม.ค. 69 แต่ในระหว่างนี้ เราพยายามเร่งทำหมัน และฉีดวัคซีน ในปีหน้าจะมีการจดทะเบียนสัตว์ด้วย ทำให้สามารถควบคุมเรื่องของสัตว์จรและสัตว์เลี้ยงได้ดีขึ้น” รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าวและว่า เทคโนโลยีสุขภาพ ทำให้หมออยู่ใกล้บ้านและใกล้ตัวที่สุด ผ่านแอปฯ หมอ กทม. ที่มีสมุดสุขภาพเก็บข้อมูลสุขภาพของเราไว้ สามารถจองคิวพบแพทย์ล่วงหน้าได้ และบริการเรียกรถ EMS ได้ ในขณะเดียวกัน กทม. ทำ UMSC หรือ โรงพยาบาลออนไลน์ ให้ประชาชนสามารถปรึกษาหาหมอ หรือสอบถามข้อมูลการใช้สิทธิได้ Health Tech เป็นการนำเอาโรงพยาบาลหรือสาธารณสุขขนาดย่อม กระจายอยู่ตามจุดศูนย์การค้า Office Building และบริเวณของโรงพยาบาล เพื่อให้บริการประชาชนในการพบแพทย์ออนไลน์ และตรวจสุขภาพเบื้องต้น เช่น วัดความดัน เจาะเลือดล่วงหน้าได้ นอกจากนี้ยังยกเลิกการใช้ใบส่งตัว โดยใช้งานระบบ e-Referral จากศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง ไปยังโรงพยาบาลในสังกัดจำนวน 6 แห่ง มากกว่า 5,000 เคส ใช้งานจริงแล้วที่ดุสิตโมเดลและราชพิพัฒน์โมเดล โดยในเดือนมกราคม 2566 ระบบ e-Referral พร้อมใช้งานเต็มรูปแบบ ทุกโรงพยาบาลและศูนย์บริการสาธารณสุขในสังกัด กทม. หวังว่า 3 ปี ที่กทม. ทำมา และอีก 1 ปี ถัดไป จะทำให้สุขภาพในภาวะปกติ สุขภาพในภาวะฉุกเฉิน และเรื่องที่จะเกิดขึ้นที่เป็นอันตราย ปลอดภัยขึ้น
รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวต่อว่า “กทม. เริ่มออกแบบศูนย์ฝึกอบรมดับเพลิงและกู้ภัย รวมถึงมีอบรม USAR มีศูนย์ฝึกกู้ภัยอาคารถล่ม และการกู้ภัยภายในอาคารสูง ซึ่งจะทำให้ศักยภาพของกรุงเทพฯ ในการดำเนินงานด้านนี้สูงขึ้น”
กทม.อยากชวนทุกคนมา 'ตรวจการบ้าน’ กันต่อในงาน “BKK EXPO 2025” ระหว่างวันที่ 15 – 18 พ.ค. 68 ณ อาคารพิพิธภัณฑ์สวนป่าเบญจกิติ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/bmabettercity
036
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี