ลุ้นหมายจับ17ราย
เอี่ยวตึกสตง.ถล่ม
กมธ.เรียกบริษัทฯ
แจงแก้แบบก่อสร้าง

กมธ.ปปช.เชิญสรรพากร บริษัท ผู้ออกแบบ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชี้แจงเหตุตึก สตง.ถล่ม จ่อเชิญ อดีตผู้ว่าฯ สตง.แจงข้อสงสัยทำสัญญาตั้งแต่แรก ลุ้นศาลออกหมายจับ 17 ราย เกี่ยวพันคดี

เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่รัฐสภา นายฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม จากเหตุแผ่นดินไหว ว่าเป็นการประชุมต่อเนื่อง โดยเชิญกรมบัญชีกลาง ซึ่งมีหน้าที่ในการจัดซื้อจัดจ้าง ถูกต้องเป็นธรรมและเป็นไปตามข้อกฎหมายหรือไม่ หรือเป็นการฮั้วกัน และได้เชิญกรมสรรพากร มาชี้แจงเกี่ยวกับการต่อภาษีของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ว่าเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ รวมทั้งเชิญ นายพิมล เจริญยิ่ง ผู้รับรอง
แบบอาคาร สตง.ที่มีอายุ 85 ปี และวิศวกรผู้ควบคุมงาน

นายฉลาด กล่าวต่อว่า กมธ.จะหาข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร เพราะทราบจากเจ้าหน้าที่ สตง.ว่าบุคคลเหล่านี้ยังทำงานอยู่ที่บริษัทเดิมอยู่ซึ่งจะมาให้ข้อเท็จจริงกับกรรมการเพื่อประกอบการพิจารณา

สำหรับเรื่องเหล็ก เป็นเรื่องกระบวนการของกระทรวงอุตสาหกรรม เบื้องต้นการนำเหล็กและปูนไปทดสอบ ขณะทดสอบผ่านแน่นอน เพราะเอาวัสดุที่มีคุณภาพไปตรวจ แต่ขณะก่อสร้าง ไม่แน่ใจว่าเอาเหล็กกลุ่มที่ผ่านการทดสอบไปก่อสร้างหรือไม่ สิ่งเหล่านี้ส่อว่ามีการลดราคา 300 ล้านบาท มีการควบคุมงานและเอาจริงเอาจัง หรือไม่ มีการควบคุมคุณภาพหรือไม่ ซึ่งความเชื่อถือของบริษัทที่ก่อสร้าง มีข่าวจากต่างประเทศ ว่าการก่อสร้างไม่มั่นคง ไม่น่าเชื่อถือ ฉะนั้นคนไทยจะเชื่อถือได้อย่างไร เป็นสิ่งที่น่าห่วง

นายฉลาด กล่าวอีกว่า ผู้ว่าฯ สตง.คนปัจจุบัน บังเอิญเป็นผู้มารับช่วงต่อ หลังจากที่ประกวดราคาแล้ว แต่ผู้ว่าฯ สตง.ที่ประกวดราคา ยังไม่พูดเรื่องนี้สักคำ เพราะเป็นผู้มีหน้าที่บริหารสัญญาเป็นงวดๆ ให้เขา เบิกเงินไปได้อย่างไร มีการควบคุมเป็นไปตามหลักวิชาการหรือไม่ และมีการรับรองจากวิศวกรที่ควบคุมงานหรือไม่ สิ่งเหล่านี้ยังเป็นข้อสงสัย ทาง กมธ.กำลังติดต่อให้มาชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ

ด้านนายสุชาติ ชุติปภากร กรรมการผู้จัดการบริษัท ฟอ-รัม อาร์คิเทค จำกัด ชี้แจงว่า บริษัทฯ ได้ยื่นประมูลผ่านการเชิญของคณะกรรมการฯ จึงได้ใช้เวลาเตรียมข้อมูลประมาณ 1 เดือน พร้อมเชิญบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) มาออกแบบร่วมกัน ในฐานะวิศวกรผู้ออกแบบโครงสร้าง และหลังจากได้รับคัดเลือกแบบ ได้ใช้เวลาออกแบบอาคารประมาณ4 เดือน ไม่รวมระยะเวลาตรวจรับงาน ทำให้ระยะเวลาทั้งหมดในการออกแบบ ประมาณ 11 เดือน ใช้บุคลากรกว่า 100 คน ซึ่งไม่มีการขอแก้แบบแม้แต่ครั้งเดียว แต่ในระหว่างการก่อสร้างมีการทำหนังสือขอคำแนะนำจากผู้รับเหมาก่อสร้างและผู้ตรวจงาน ว่าในส่วนของ core wall ซึ่งเป็นแกนกลางต้องมีการตกแต่ง โดยจะมีการบุหินอ่อน แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่ดำเนินการ จึงทำหนังสือถึงไมนฮาร์ท เมื่อหารือกัน พบว่ามีแนวทางที่จะลดความหนาของผนังบางส่วน แต่ต้องเพิ่มโครงสร้างบางส่วน

ขณะที่นายธีระ วรรธนะทรัพย์ กรรมการบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) กล่าวว่า การให้ข้อมูลว่ามีการแก้แบบถึง 9 ครั้ง น่าจะเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน เพราะเป็นการแก้ไขสัญญา ระหว่าง ผู้รับเหมาก่อสร้างกับ สตง.9 ครั้ง ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ออกแบบ แต่เกี่ยวข้องกับการออกแบบโครงสร้าง 2 ครั้ง คือครั้งที่ 4 เรื่องปล่องลิฟต์ โดยเมื่อปี 2564 ทางบริษัทฟอ-รัม อาร์คิเทค ซึ่งเป็นสถาปนิก ได้ประสานว่ามีความขัดแย้ง ระหว่างแบบของการออกแบบภายในกับแบบของสถาปัตยกรรมและโครงสร้าง เพราะเมื่อตกแต่งไปแล้ว
จะทำให้ความกว้างของตัวลิฟต์ไม่ถึง 1.5 เมตร

นายธีระกล่าวต่อว่า ทางเราจึงให้คำแนะนำไปว่าให้ลดความหนาของผนังบางส่วน ของโครงสร้าง 5 เซนติเมตร พร้อมปรับแก้เหล็กในโครงสร้างเพื่อให้สอดคล้องกับการลดความหนาของผนังลิฟต์ จากนั้น
ไม่นานได้มีหนังสืออีกฉบับพร้อมแนบแบบที่มีการแก้ไข เพื่อถามว่าสอดคล้องกับสิ่งที่ให้คำแนะนำไปหรือไม่ซึ่งขณะนั้เป็นการขอคำแนะนำ เพื่อนำไปใช้ในการแก้ไขสัญญาก่อสร้างซึ่งทางบริษัทไม่ได้มีข้อโต้แย้ง อะไร โดยที่ทางบริษัท ไมนฮาร์ท ไม่ทราบว่าจะมีการดำเนินการตามคำแนะนำจริง หรือไม่ เพราะยังไม่มีคำสั่งว่าให้มีการแก้ไขแบบโครงสร้าง แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้มีอำนาจ ในการอนุมัติให้ก่อสร้างหรือการแก้ไขแบบ มารู้ข้อมูลอีกทีหลังจากเกิดเหตุตึกถล่มไปแล้ว โดยบทบาทของผู้ออกแบบ เมื่อส่งมอบงานถือว่างานสิ้นสุดลง แต่สามารถให้คำปรึกษาระหว่างก่อสร้างได้ คนที่จะสั่งให้แก้ไขแบบได้ มีแค่ สตง. ซึ่งต้องแจ้งอย่างเป็นทางการ คนอื่นสั่งไม่ได้

ทั้งนี้ นายจำนงค์ ไชยมงคล ในฐานะที่ปรึกษาประธาน กมธ.สอบถามว่า หากการก่อสร้างไม่เป็นไปตามแบบจะส่งผลกระทบต่อความแข็งแรงของโครงสร้างหรือไม่ นายธีระ ชี้แจงว่า เรื่องนี้ยังไม่สามารถตอบได้ แต่เรามีความมั่นใจ ว่าโครงสร้างที่เราออกแบบไป มีความ
แข็งแรง 100% ไม่มีปัญหา