ร้างมา 7 ปี ศูนย์เด็กเล็ก ต.ในเตา งบ 2.9 ล้าน สร้างเสร็จแต่ไร้รั้ว-ไร้มาตรฐานความปลอดภัย ซ้ำร้ายพบสร้างทับที่ดิน ส.ป.ก. หลังเข้าใจผิดว่าเป็นที่ดินของโรงเรียนที่อยู่ติดกัน ด้าน รักษาราชการ ผอ.กองช่าง ระบุ ขณะนี้ขออนุญาตใช้ที่ดินถูกต้องแล้ว รอตั้งงบก่อสร้างรั้ว คาดเปิดใช้ได้กลางปีหน้า ป.ป.ช.ลุยสอบ ชี้ใส่กระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรก ทำเด็กเสียสิทธิเสียโอกาสได้ใช้ที่ใหม่นาน 7 ปี เร่งตรวจสอบต้นตอจากกรมส่งเสริมฯ ยันถึง อบต.ในพื้นที่ พร้อมส่งเรื่องถึง สตง.
15 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ จ.ตรัง มอบหมายให้ นายยุทธนา วิมลเมือง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ จ.ตรัง พร้อมด้วยนักสืบสวนคดีทุจริต และเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ อาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลในเตา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จมา 7 ปี แต่กลับถูกทิ้งร้างและยังไม่ได้มีการเปิดใช้ให้ทางคณะครูและนักเรียนได้เข้าไปใช้งานตามวัตถุประสงค์ของงบประมาณแผ่นดิน
โดยเรื่องนี้ เพจเฟสบุ๊ก ‘คิด ทำ ทิ้ง’ และเพจเฟสบุ๊ก ‘ชมรมตรังต้านโกง’ มีการเปิดเผยภาพและข้อมูลภายหลังจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนและเครือข่าย จนทำให้ผู้คนในโลกโซเซียลต่างเข้าไปวิพากษ์วิจารณ์ และแชร์เรื่องราวดังกล่าวนี้ออกไปเป็นจำนวนมาก
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ได้ประชุม พร้อมขอข้อมูลและเอกสารหลักฐานต่างๆในการดำเนินการก่อสร้าง โดยมี นายบุญธรรม กี่สุ้น นายก อบต.ในเตา นายศรชัย ชีช้าง นักจัดการงานช่างชำนาญการ รักษาราชการแทน ผอ.กองช่าง และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องร่วมกันพูดคุยและให้ข้อมูล ก่อนลงพื้นที่ตรวจสอบ
สำหรับรายละเอียด อาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลในเตา (บ้านหน้าวัดเดิม) ริเริ่มประกวดราคาจ้างก่อสร้างอาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก (สถ.ศพด.3) แบบตอกเสาเข็ม โดยองค์การบริหารส่วนตำบลในเตา ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) เลขที่โครงการ 60127083086 สัญญาเลขที่ 05/2561 วงเงินงบประมาณ 2,995,000 บาท วันที่เกิดรายการ 15 ก.พ. 61 วันที่สิ้นสุดสัญญา 15 มิ.ย. 61 ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จมาแล้วตั้งแต่ปี 2561 หรือกว่า 7 ปีที่ผ่านมา
จากการลงตรวจสอบสภาพพื้นที่ พบเห็นว่าอาคารดังกล่าว ถูกสร้างโดดเด่นอยู่กลางที่ดิน ทางเข้าเป็นหลุมเป็นโคลนและมีน้ำขัง ฝั่งซ้ายตั้งอยู่ติดกับสนามหญ้าโรงเรียนในเตาพิทยาคม ฝั่งขวาและด้านหลังติดกับลำห้วย ไม่มีกำแพงหรือรั้วรอบขอบชิด แต่อาคารทั้งภายนอกและภายในยังสมบูรณ์ ไม่มีการทรุดโทรมหรือพังเสียหายใดๆ ส่วนศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลในเตา ที่ใช้งานอยู่ในขณะนี้ เป็นอาคารเก่า สร้างติดอยู่กับที่ทำการ อบต.ในเตา ซึ่งอยู่ภายในที่ดินวัด มีนักเรียนอยู่ในความดูแลประมาณ 50 กว่าคน
นายศรชัย ชีช้าง นักจัดการงานช่างชำนาญการ รักษาราชการแทน ผอ.กองช่าง กล่าวว่า ได้ของบประมาณไปยังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ตั้งแต่ปี 2560 ก่อนจะได้รับงบประมาณก่อสร้างเฉพาะตัวอาคาร จำนวน 2,995,000 บาทมา ในปี 2561 ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ ซึ่งตามมาตรฐานของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จะต้องมีรั้วรอบขอบชิด เพื่อจะต้องให้เด็กมีความปลอดภัย แต่ได้มาติดปัญหาในพื้นที่ก่อสร้าง ด้านข้างและด้านหลังมีสายน้ำหรือลำห้วย จึงยังไม่สามารถเปิดใช้ได้ ต่อมาในปี 2562 ทาง อบต.ในเตา ได้ตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพื่อจะก่อสร้างรั้วรอบตัวอาคาร แต่ปรากฏว่าในช่วงนั้นเป็นช่วงคาบเกี่ยวที่ ผอ.กองช่าง และปลัด อบต.เกษียณอายุราชการพอดี ทำให้ไม่มีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถที่จะดำเนินการ ทำให้ในปีนั้นไม่ได้ดำเนินการใดๆ
ต่อมาในปี 2563 ทาง อบต. ได้ตั้งงบประมาณใหม่เพื่อก่อสร้างรั้ว จนมาถึงขั้นตอนจัดซื้อจัดจ้าง แต่ปรากฏว่าไม่มีผู้รับจ้างมายื่นซองประมูล จนถัดมาได้สืบทราบว่าที่ดินที่ทาง อบต.ก่อสร้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็กนั้น ไม่ได้เป็นที่ดินของโรงเรียนในเตาพิทยาคม ตามที่อนุญาตให้ทาง อบต.ใช้ที่ดินก่อสร้างตั้งแต่ต้น โดยที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดิน ส.ป.ก. จนตั้งแต่ปี 2564 ตนได้ดำเนินการขออนุญาตใช้ที่ดินเพื่อให้ถูกต้องตามระเบียบ ซึ่งใช้ระยะเวลาอยู่ประมาณ 2 ปี จนกระทั่งทาง ส.ป.ก. อนุญาตให้ใช้พื้นที่จำนวน 3 ไร่ ได้ในปี 2567 จนปัจจุบันนี้ 2568 ทาง อบต.ก็ได้ตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี จำนวน 1,500,000 บาท เพื่อก่อสร้างรั้ว ซึ่งในปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของการกำหนดราคากลาง คาดว่าจะแล้วเสร็จในต้นปีหน้า 2569 และคาดว่าจะได้เปิดใช้งานในช่วงกลางปี 2569 ต่อไป
“ย้อนกลับไปขณะดำเนินการขอใช้ที่ดินเพื่อสร้างอาคารนี้ ทาง อบต.ในเตา เข้าใจว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของโรงเรียนในเตาพิทยาคม ซึ่งตั้งอยู่ติดกัน ทาง อบต.จึงได้ขอดำเนินการอนุญาตไปกับทางโรงเรียนเพื่อให้ถูกต้อง ซึ่งทางโรงเรียนก็ได้อนุญาตให้ทางอบต.ดำเนินการก่อสร้างได้ ซึ่งโรงเรียนก็เข้าใจว่าที่ดังกล่าวเป็นของโรงเรียนเช่นกัน”
ระยะเวลาล่วงเลยมากว่า 7 ปี แต่มีทางคุณครูศูนย์เด็กฯ เข้ามาดูแลอาคารอยู่ตลอดไม่ได้ปล่อยให้ทิ้งร้าง ยอมรับว่าเด็กก็อาจจะเสียสิทธิเสียโอกาสไปบ้าง แต่ในเรื่องของความปลอดภัยก็ถือว่าเป็นหลัก ทาง อบต.ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อยากทำให้ถูกต้อง ซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นการใส่กระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรกหรือไม่นั้น ตนก็ไม่แน่ใจเพราะตอนนั้นตนก็ไม่ได้หาข้อมูล แต่เข้าใจว่าทางเขาก็เข้าใจว่าเราขออนุญาตถูกต้อง มีหลักฐานมาตั้งแต่ต้นแล้ว จนมาสืบทราบภายหลังว่าไม่ใช่ที่ของโรงเรียนในเตาพิทยาคม ซึ่งตอนที่ของบประมาณไปนั้น ทางกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เจ้าของงบประมาณ ก็ไม่ได้มีการโต้แย้งอะไรกลับมา นายศรชัย กล่าว
ทางด้าน นายยุทธนา วิมลเมือง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต กล่าวว่า ได้รับแจ้งข้อมูลจากเครือข่ายภาคประชาชน จึงเดินทางมาตรวจสอบในวันนี้ จึงเป็นที่สังเกตว่าการอนุมัติงบประมาณมาจากรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นมานั้น อย่างน้อยต้องมีการตรวจสอบจากปลัด อบต. จากนายก อบต. และจากท้องถิ่นจังหวัด หรือจากกรมส่งเสริมฯเอง ในการติดกระดุมเม็ดแรกว่าที่ดินที่ถูกต้องหรือไม่ในการใช้ก่อสร้างดังกล่าว จนต้องทำให้เด็กสูญเสียโอกาส เสียระยะเวลาในการเข้ามาใช้ประโยชน์ในพื้นที่ ซึ่งการลงมาวันนี้ก็รับทราบปัญหาว่าทาง อบต.ก็มีปัญหาในเรื่องของบุคลากรที่ไม่มีปลัด อบต. และไม่มีแม้กระทั่ง ผอ.กอง ในทุกกองของอบต.เลย ซึ่งก็เป็นข้อจำกันของเจ้าหน้าที่ในการปฎิบัติราชการได้อย่างดีได้
ก็อยากให้ทางกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เข้ามาดูแลทาง อบต.ในเตา เพื่อให้มีบุคลากรตามอัตรากำลัง เพื่อที่สามารถปฎิบัติราชการได้อย่างถูก้อง ส่วนเรื่องการดำเนินการก่อสร้างอาคารศูนย์เด็กฯ ทาง ป.ป.ช.ก็จะตรวจสอบขั้นตอนการดำเนินการตามระเบียบในการพิจารณาของบและให้ประมาณมาตั้งแต่ต้น พร้อมจะประสานข้อมูลไปยัง สตง. ให้ตรวจสอบต่อไปว่าเป็นการใช้งบประมาณที่ถูกต้องหรือไม่ เกิดความเสียหายกับการใช้จ่ายงบประมาณไปแล้วหรือไม่ นายยุทธนา กล่าวทิ้งท้าย.
012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี