วันเสาร์ ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
เปิดคำร้อง! พนักงานสอบสวนขอฝากขัง ‘เปรมชัย-พวก’ คดีตึก สตง. ค้านประกันกลัวหนี

เปิดคำร้อง! พนักงานสอบสวนขอฝากขัง ‘เปรมชัย-พวก’ คดีตึก สตง. ค้านประกันกลัวหนี

วันศุกร์ ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 19.31 น.
Tag : ตึกสตง.ถล่ม ตึกสตง. ตึกถล่ม เปรมชัย ค้านประกัน เจ้าสัวเปรมชัย
  •  

รอผลประกัน! พนักงานสอบสวน ฝากขัง เจ้าสัว เปรมชัย กับพวก คดีตึกสตง.ถล่ม พบปลอมลายเซ็นวิศวกร การควบคุมงาน การก่อสร้างต่ำกว่ามาตรฐาน ค้านประกันเหตุโทษสูง กลัวหลบหนี และไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนสน.บางซื่อ โดยพ.ต.ท.อำนาจ นาควิจิตร  ได้นำตัวนายสุชาติ ชุติปภากร อายุ 64 ปี  นายพิมล เจริญยิ่ง อายุ 85 ปี นายธีระ วรรธนะทรัพย์ อายุ 59 ปี นายสุพล อัครอารีสุข อายุ 51 ปี  นายชัยณรงค์ เสียงไพรพันธ์ อายุ 43 ปี  นายอภิชาต รักษา อายุ 38 ปี  7.นายเปรมชัย กรรณสูต  อายุ 71 ปี กรรมการผู้มีอำนาจบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลล็อบเม้นต์ จำกัด(มหาชน)  8.นายเกรียงศักดิ์ กอวัฒนา อายุ 65 ปี 9.นายชวน หลิงจาง  กรรมการบริษัท ไชน่า เรลเวย์ ฯอายุ 42 ปี  นายอนุวัต คันสร อายุ 53 ปี  นายธิปัตย์ รัตนวงศา  อายุ 42 ปี นายปฏิวัติ ศิริไทย  อายุ 53 ปี และนายกฤตภัฏ ปล่องกระโทก อายุ 51 ปี  ผู้ต้องหาคดีอาคาร สตง. พังถล่มเมื่อบ่ายวันที่ 28 มีนาคม 68 มายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน


โดยพนักงานสอบสวนระบุพฤติการณ์แห่งคดีสรุปว่า  สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 28  มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 13.20 น.ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวโดย มีจุดศูนย์กลางที่ประเทศเมียนมา แรงสั่นสะเทือนถึงประเทศไทยและในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ส่งผลทำให้อาคารก่อสร้าง สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.แห่งใหม่)บริเวณถนนกำแพงเพชร2 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ความสูง 31  ชั้นทรุดตัวถล่มลงมา เป็นเหตุให้มีเสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวนมาก กองบัญชาการตำรวจนครบาล  (บช.น.) ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน  ทำการสืบสวนสอบสวน เมื่อพิจารณาแล้วในคดีนี้ มีกลุ่มผู้ต้องหาที่แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ซึ่งเป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบควบคุมหรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแชมหรือรื้อถอน อาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือ วิธีการอันพึงกระทำ มีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องและเป็นผู้กระทำความผิด ดังนี้

กลุ่มบริษัทผู้ออกแบบ

กลุ่มที่ 1 บริษัท ฟอรัม อาร์คิเทค จำกัด โดย นายสุชาติ  ผู้ต้องหาที่ 1 เป็นผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคล ปรากฏตามหนังสือรับรองของสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร เป็น กลุ่มร่วมค้า บริษัท ฟอรัม.อาร์คิเทค จำกัด และบริษัท ไมน์ฮาร์ท (ประเทศไทย) เป็นผู้ลงนามในสัญญาจ้างออกแบบ. ตามสัญญาที่ ในฐานะผู้ให้บริการ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม2562  จึงเป็นการกระทำความผิดทั้งในฐานะนิติบุคคล และ ในฐานะส่วนตัว

2 .บริษัท ไมน์ฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัดกลุ่มผู้ลงนามใบแบบแปลน ซึ่งเป็นวิศวกรโครงสร้าง มีรายชื่อดังนี้

นายพิมล ผู้ต้องหาที่ 2 ที่ปรึกษาบริษัท ไมน์ฮาร์ท ระดับวุฒิวิศวกรไม่ได้มีส่วนร่วมในการออกแบบโดยตรง แต่ได้ตรวจสอบแบบวิศวกรรมโครงสร้างที่ทีมงานทำเสร็จแล้วเห็นว่าถูกต้องตามหลักวิศวกรรมจึงได้ลงลายมือชื่อในแบบด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์  และลงลายมือชื่อจริงในรายการคำนวณร่วมกับทีมงานการออกแบบวิศวกรรมโครงสร้างโครงการนี้ทำขึ้นระหว่างเดือน ตุลาคม 2561 ถึง กันยายน2562 ที่บริษัท ไมน์ฮาร์ท ได้รับค่าตอบแทนจากการเป็นที่ปรึกษาประมาณ 150,000 บาท.จากบริษัทไมน์ฮาร์ท 

นายธีระ ผู้ต้องหาที่ 3 เป็นผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคลปรากฏตามหนังสือรับรองของสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร บริษัท ไมน์ฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด เป็นวิศวกรโครงสร้างผู้ดำเนินการเขียนแบบแปลนฉบับสมบูรณ์ ตามสัญญาจ้างออกแบบ จึงเป็นการกระทำความผิดทั้งในฐานะนิติบุคคลและในฐานะส่วนตัว

นายสุพล ผู้ต้องหาที่ 4 เป็นวิศวกรโครงสร้างผู้ดำเนินการเขียนแบบแปลนฉบับสมบูรณ์ ตามสัญญาจ้างออกแบบ

นายชัยณรงค์ ผู้ต้องหาที่ 5 เป็นวิศวกรโครงสร้างผู้ดำเนินการเขียนแบบแปลนฉบับสมบูรณ์ ตามสัญญาจ้างออกแบบ

นายอภิชาติ ผู้ต้องหาที่ 6 เป็นวิศวกรโครงสร้างผู้ดำเนินการเขียนแบบแปลนฉบับสมบูรณ์ตามสัญญาจ้างออกแบบ มีพฤติการณ์กล่าวคือ บริษัทผู้ออกแบบต้องปฏิบัติตามสัญญาหรือข้อตกลงในการควบคุมงานโดยมีลำดับขั้นตอน ซึ่งขั้นตอนที่ระบุไว้ในสัญญาจะต้องปฏิบัติตาม TOR, ต้องตรวจเงื่อนไขการออกแบบ เช่น ใช้น้ำหนักที่กระทำ กับตัวอาคารที่จะใช้ในการออกแบบถูกต้องหรือไม่ เช่นการคิดแรงลมที่กระทำกับตัวอาคารถูกต้องหรือไม่ การคิดแรงแผ่นดินไหวที่กระทำกับตัวอาคารถูกต้องหรือไม่ ซึ่งอาจใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ รายการคำนวณถูกต้องหรือไม่ และเป็นไปตามกฎกระทรวงหรือไม่ ซึ่งถ้าดูใน TOR และข้อกำหนดจะต้องระบุการออกแบบอาคารให้สามารถรับแรง แผ่นดินไหวและแรงลมที่จะมากระทำต่อตัวอาคารได้ปริมาณเท่าใด แต่ปรากฏว่าผลการตรวจแบบจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ตรวจสอบ เบื้องต้นปรากฏว่ามีการคำนวณต่ำกว่ามาตรฐาน ดังนั้นการออกแบบจึงไม่ได้มาตรฐาน

กลุ่มที่ 3 กลุ่มบริษัทผู้รับจ้างควบคุมการก่อสร้าง บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด โดย

นายปฏิวัติ ผู้ต้องหาที่ 12 เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลำดับที่ 1 ทำหน้าที่เป็นผู้นำกลุ่มนิติบุคคลร่วมค้าเป็นผู้รับผิดชอบหลัก นิติบุคคลร่วมค้า PKW ทั้ง 3 บริษัท ตกลงรับผิดชอบร่วมกันต่อผู้ว่าจ้างทุกกรณีได้มอบอำนาจให้ นายปฏิวัติ ศิริไทย เป็นผู้ลงนามแทน ในสัญญาจ้างควบคุมงานก่อสร้าง ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการโครงการ และ ผู้รับมอบอำนาจ จึงเป็นการกระทำความผิดทั้งในฐานะนิติบุคคลและในฐานะส่วนตัว

2.บริษัท เคพี.คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด โดย นายกฤตภัฏ ผู้ต้องหาที่ 13 เป็นกรรมการผู้มีอำนาจผูกพัน มอบอำนาจให้นายปฏิวัติ เป็นผู้ลงนามแทนในสัญญาจ้างควบคุมงานก่อสร้าง พบรายชื่อผู้มีอำนาจแทน กลุ่มนิติบุคคลร่วมค้า จำนวน 3 ราย คือ 1 นายปฏิวัติ 2 นายพลเดช  3 นายกฤตภัฏ ทำหน้าที่เป็น ผู้ประสานงานโครงการ ออกให้เมื่อวันที่ 3 ฤษจิกายน 2563 และผู้รับมอบอำนาจฯ จึงเป็นการกระทำความผิดในฐานะนิติบุคคล และความผิดส่วนตัว 

บริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนซ์ จำกัด โดยนายพลเดช และนางประณีต กรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพัน บริษัท ว.และสหายได้ร่วมกันมอบอำนาจให้นายปฏิวัติเป็นผู้ลงนามแทนในสัญญาจ้างควบคุมงานก่อสร้าง โดยพบหนังสือข้อตกลงนิติบุคคลร่วมค้า มีรายชื่อผู้มีอำนาจแทน 3 ราย คือ  นายปฏิวัติ นายพลเดช  แลั นายกฤตภัฏ ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการโครงสร้างและผู้รับมอบอำนาจ จึงเป็นการกระทำผิดในฐานะนิติบุคคลและส่วนตัว และได้ลงชื่อในฐานะนิติบุคคลของบริษัท ว. และสหาย ในหนังสือข้อตกลงกลุ่มนิติบุคคลการค้า ให้นายพลเดชมีชื่อเป็นผู้มีอำนาจแทนกลุ่มนิติบุคคลร่วมค้า PKW จึงเป็นการกระทำผิดในฐานะนิติบุคคล และกิจการร่วมค้า PKW นายสมชายเป็นผู้จัดการโครงการในฐานะส่วนตัว ก่อนเกิดเหตุนายกฤตภัฏ จึงเป็นหนึ่งในกิจการร่วมค้า pkw ได้ชวนนายสมเกียรติ ชูแสงสุข วิศวกรผู้เสียหายเข้าร่วมเป็นทีมงานควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่เกิดเหตุ นายสมเกียรติจึงได้มอบเอกสารรับรองวุฒิวิศวกรของตนให้

นายกฤตภัฏ เพื่อนำเสนอรับงานในนามกิจการร่วมค้า PKW หลังจากได้รับคัดเลือก ให้เป็นผู้ควบคุมงานแล้ว กิจการร่วมค้า PKW ได้แจ้งชื่อนายสมเกียรติเป็นบุคลากรที่จะเข้าปฏิบัติงานควบคุมตามเงื่อนไขที่กำหนดในสัญญาว่าจ้าง แต่เมื่อเข้าปฏิบัติงานจริง นายสมเกียรติ ชูแสงสุข ไม่ได้เข้าควบคุมงานอย่างใด และระหว่างก่อสร้างเมื่อต้องปรับแบบ เพื่อการก่อสร้าง แล้วจำเป็นต้องมีวิศวกรทีมีวุฒิระดับวุฒิวิศวกร ลงนาม  ได้ใช้ชื่อของนายสมเกียรติ ชูแสงสุขโดยไม่ถูกต้อง การปลอมลายมือชื่อของกลุ่มวิศวกรควบคุมงานนั้นไม่เป็นการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือวิธีการอันพึงกระทำ เป็นความผิดตามกฎหมาย

กลุ่มบริษัทผู้รับจ้างก่อสร้าง 1 บริษัท อิตาเลียนไทยฯ โดยนายเปรมชัย กรรมการผู้มีอำนาจผูกพัน ได้ทำสัญญาจ้างก่อสร้าง ระหว่างสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สจง.) โดยนายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินในขณะนั้น เป็นผู้ว่าจ้างกับกิจการร่วมค้า Itd-crec ซึ่งบริษัท อิตาเลียนไทยฯ และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ ได้ทำสัญญากิจการร่วมค้า ก่อสร้างอาคารสตง. และมอบหมายให้บริษัท อิตาเลียนไทย ฯเป็นบริษัทหลัก มีอำนาจกระทำการแทนกิจการร่วมค้า โดยมอบหมายให้นายเกรียงศักดิ์ เป็นผู้มีอำนาจแทนบริษัทหลัก นายเปรมชัย ตัวแทนผู้มีอำนาจ บริษัท อิตาเลียนไทยฯ และนาย ชวน หลิงจาง ตัวแทนบริษัท ไชน่าเรลเวย์ ฯได้มอบหมายให้นายเกรียงศักดิ์ ทำหน้าที่แทนกิจการร่วม Itd-crec เป็นการกระทำผิดในฐานะนิติบุคคล และความผิดส่วนตัว

บริษัท ไชน่า เรลเวย์ no. 10 โดยนายชวน หลิงจาง ผู้ต้องหาที่ 9 เป็นกรรมการผู้มีอำนาจผูกพันบริษัท ได้มอบอำนาจให้นายเกรียงศักดิ์กระทำการแทนในกิจการร่วมค้า จึงเป็นการกระทำผิดในฐานะนิติบุคคล และความผิดส่วนตัว 

กิจการร่วมค้า Itd-crec โดยนายเกรียงศักดิ์ ผู้ต้องหาที่ 8 เป็นผู้ได้รับมอบอำนาจจากบริษัท อิตาเลียนไทย ฯและ บริษัท ไชน่าเรลเวย์ฯ สำหรับการจ้างก่อสร้างสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน โดยนายเกรียงศักดิ์เป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทหลักจึงเป็นความผิดในฐานะนิติบุคคล และความผิดส่วนตัว

กลุ่มวิศวกรโครงสร้าง นายอนุวัติ ผู้ต้องหาที่ 10 เป็นวิศวกร  Structure Engineer ของบริษัท ไชน่าเรลเวย์ฯ เริ่มเป็นผู้จัดการโครงการเมื่อวันที่  13 พฤษภาคม 2564 มีหน้าที่ลงนามเอกสารต่าง ๆ รายงานความคืบหน้าและขออนุมัติวัสดุอุปกรณ์และงานธุรการที่เกี่ยวข้อง แต่นายอนุวัติได้ลาออกจากบริษัทไชน่าเรลเวย์ สิ้นสุดการเป็นผู้จัดการเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน2567 เนื่องจากมีอาการป่วย ปวดหลังขณะที่การก่อสร้างถึงชั้นดาดฟ้าแล้ว แต่พบปัญหาระหว่างก่อสร้างคืออาคารรับน้ำหนักดินไม่เพียงพอ เปลี่ยนขนาดปล่องลิฟต์ และยกระดับคานดังกล่าวให้สูงจากพื้น ซึ่งได้ทำการทักท้วง แต่ก็ดำเนินการก่อสร้างต่อไปทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามีปัญหาเกิดขึ้น 

นายธิปัตย์ผู้ต้องหาที่ 11 เป็นวิศวกร ตำแหน่ง Structure engineerทำงานที่ บริษัท ไซน่าฯ ได้ลงชื่อในแบบการที่ บริษัทผู้รับจ้างก่อสร้าง ได้พบความผิดปกติในการก่อสร้าง แต่ก็ยังคงทำการถ่อสร้างต่อไปโดยไม่ได้ทักท้วง ตามวิชาชีพประกอบกับการก่อสร้างได้ใช้วัสดุ เช่น ปูนซีเมนต์ เหล็กเส้น ที่มีค่าต่ำกว่ามาตรฐาน จนเป็นเหตุให้อาคารสตง.พังถล่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจำนวนมากซึ่งผู้ควบคุมงานและผู้ก่อสร้าง ต้องรับผิดร่วมกัน ตาม.พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ฯ หมายถึงผู้ใดก็ตามที่จัดให้มีการก่อสร้าง ดัดแปลงรื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคารผิดไปจากแผนผัง บริเวณแบบแปลน ผู้นั้นเป็นผู้กระทำผิดตามมาตรานี้ด้วยส่วนตามบทบัญญัติของวรรคสอง มาตราเดียวกันนี้หมายถึงว่า ผู้ควบคุมงานก็มีความผิดด้วยและเป็นตัวการ ร่วมกันกับผู้จัดให้มีการก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคาร ผู้กระทำความผิดตามมาตรา นี้เพียงแต่กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งที่ระบุไว้เพียงประการเดียวก็เป็นความผิดแล้ว คือกระทำการดังกล่าวให้ผิดไปจากแผนผังบริเวณ ผิดไปจากแบบแปลน ผิดไปจากรายงานประกอบแปลนที่ได้รับอนุญาต ผิดไปจากวิธีการหรือเงื่อนไขที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำหนดไว้ในใบอนุญาต

จึงสรุปได้ว่ากลุ่มผู้ต้องหาทั้งฐานะนิติบุคคลและฐานะส่วนตัว ล้วนแล้วแต่เป็นผู้มีวิชาชีพมีความรู้ความชำนาญด้านการก่อสร้างมาอย่างดี ย่อมรู้ดีว่าในการก่อสร้างอาคารโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาคารที่เกิดเหตุ, ซึ่งเป็นอาคารขนาดใหญ่พิเศษ เพื่อให้มีความมั่นคงแข็งแรงและเกิดความปลอดภัยแก่ผู้ที่จะต้องมาใช้สอยอาคารที่ก่อสร้างนั้นอาคารจะต้องสร้างจากแบบแปลนที่ถูกต้องมีการคำนวณการรับน้ำหนัก ความต้านทาน ความคงทนตลอดจนลักษณะและคุณสมบัติของวัสดุที่ใช้ ให้เป็นไปตามมาตรฐานตามหลักวิศวกรรม และกฎหมายที่กำหนดไว้ และเมื่อถึงขั้นตอนการก่อสร้าง ผู้ดำเนินการ ก่อสร้างต้องดำเนินการก่อสร้างให้เป็นไปตามแบบแปลนอย่างเคร่งครัด ซึ่งหากไม่ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด อาคารก็จะเกิดความไม่มั่นคงแข็งแรงเนื่องจากไม่ได้มาตรฐานตามแบบแปลน ขั้นตอนการดำเนินการจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง 

ดังนั้นพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522จึงกำหนดไว้ว่าในการก่อสร้างจะต้องมีผู้ควบคุมงานมาเป็นผู้รับผิดชอบในการอำนวยการหรือควบคุมดูแลการก่อสร้างเพื่อให้เป็นไปตามแบบแปลน ซึ่งหากการก่อสร้างไม่เป็นไปตามแบบแปลนให้ถือว่าเป็นการกระทำของผู้ควบคุมงานด้วยตามมาตรฐาน

จากการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานของคณะพนักงานสอบสวน แล้วพบว่า การออกแบบ แปลนอาคารที่เกิดเหตุ ไม่เป็นไปตามหลักมาตรฐาน ปรากฏตามผลการตรวจของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง การดำเนินการก่อสร้างก็พบว่ามีการใช้วัสดุที่ต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ในแบบแปลน  ซึ่งการดำเนินการที่ต่ำกว่ามาตรฐานของผู้ดำเนินการก่อสร้างได้นั้นต้องเกิดจากการทำหน้าที่ของผู้ควบคุมงานที่ไม่ควบคุมดูแลการก่อสร้างให้เป็นไปตามแบบแปลน โดยพบว่ามีการแอบอ้างชื่อบุคคลากรผู้ควบคุมงานที่เป็นวิศวกร มาเป็นผู้ควบคุมงานโดยผู้นั้นมิได้มาทำหน้าที่ควบคุมงานจริง แม้ว่าเหตุปัจจัยเพียงเหตุเดียวอาจไม่เป็นเหตุให้อาคารที่เกิดเหตุพังถล่มได้ แต่เมื่อเหตุปัจจัยทั้งสามเหตุมารวมอยู่ในสถานการณ์เดียวกันในวันเกิดเหตุ จึงเป็นสาเหตุให้อาคารที่เกิดเหตุพังกล่มจนเป็นเหตุให้มีผู้ถึงแก่ความตาย รับ อันตรายสาหัส.และสูญหาย จำนวนมาก

การกระทำของกลุ่มผู้ต้องหา จึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นๆ ในวิชาชีพของตนในเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ค้นพบแล้ว จำนวน89 ศพ ได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน1ราย ได้รับบาดเจ็บ8ราย สูญหาย 11ราย ผู้กล่าวหา จึงได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับ ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมดนี้ให้ได้รับโทษจนถึงที่สุดตามกฎหมายต่อไป การกระทำของผู้ต้องหาที่ 1-11 เป็นเป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแชมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นๆ โดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย" อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 227/23 ส่วนผู้ต้องหาที่ 12-13 เป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบควบคุมหรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแชมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นๆ โดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย และร่วมกันปลอมเอกสารและใช้เอกสาร ราชการปลอม" อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 227 238  และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 24, 286 83 ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 13 ราย ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา 

ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนค้านประกันตัวเนื่องจากกอัตราโทษสูง และเกรงว่าหากได้รับการประกันตัว ผู้ต้องหาจะหลบหนี หรือไปยุ่งกับพยานหลักฐาน

ทั้งนี้พนักงานสอบสวนได้ยื่นฝากขังนายสมชาย ทรัพย์เย็น  วิศกรผู้ควบคุมงานอีก 1 ราย และเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวอีก 1 สำนวน โดยเป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบควบคุมหรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแชมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นๆ โดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย และร่วมกันปลอมเอกสารและใช้เอกสาร ราชการปลอม" อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 227 238  และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 24, 286 83 โดยชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธและพนักงานสอบสวนค้านประกันตัวเช่นเดียวกับ ผู้ต้องหา 13 ราย

ทั้งนี้ผู้ร้อง ยังต้องสอบปากคำพยานอีก 15 ปากรอผลการตรวจพิสูจน์ ต่างๆ จึงขอฝากขังผู้ต้องหาไว้เป็นเวลา 12 วันตั้งแต่วันที่ 16-27 พฤษภาคมนี้

ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง เป็นที่สนใจของประชาชน หากปล่อยชั่วคราวเกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี เข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและยากแก่การติดตามตัว

ศาลพิจารณาคำร้องฝากขังแล้ว อนุญาตให้ฝากขังได้

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ด่วน! ‘เปรมชัย-พวก’นอนคุก! ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว ด่วน! ‘เปรมชัย-พวก’นอนคุก! ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว
  • ฝากขัง 15 ผู้ต้องหาเอี่ยวตึก สตง. ถล่ม ผลัดแรก คัดค้านประกันตัว \'เปรมชัย\'ปัดตอบสื่อ ฝากขัง 15 ผู้ต้องหาเอี่ยวตึก สตง. ถล่ม ผลัดแรก คัดค้านประกันตัว 'เปรมชัย'ปัดตอบสื่อ
  • ผู้ต้องหาเอี่ยวตึก สตง.ถล่ม ให้การปฏิเสธ ตร.เตรียมนำตัวไปฝากขัง-ค้านประกัน ผู้ต้องหาเอี่ยวตึก สตง.ถล่ม ให้การปฏิเสธ ตร.เตรียมนำตัวไปฝากขัง-ค้านประกัน
  • ‘เปรมชัย’นั่งวีลแชร์เข้ามอบตัวคดี‘ตึก สตง.’ถล่ม พร้อมกลุ่มวิศวกรอีก 13 ราย ‘เปรมชัย’นั่งวีลแชร์เข้ามอบตัวคดี‘ตึก สตง.’ถล่ม พร้อมกลุ่มวิศวกรอีก 13 ราย
  • ออกหมายจับ‘เปรมชัย’  พร้อมผู้ต้องหา16ราย  ผู้ออกแบบ/คุมงาน  เอี่ยวตึกสตง.ถล่ม ออกหมายจับ‘เปรมชัย’ พร้อมผู้ต้องหา16ราย ผู้ออกแบบ/คุมงาน เอี่ยวตึกสตง.ถล่ม
  • ออกหมายจับ\'เปรมชัย กรรณสูต\'กับพวกรวม 17 ราย เอี่ยวคดี ตึกสตง.ถล่ม ออกหมายจับ'เปรมชัย กรรณสูต'กับพวกรวม 17 ราย เอี่ยวคดี ตึกสตง.ถล่ม
  •  

Breaking News

สื่อเวียดนามจับตา‘ทุเรียนไทย’ ชี้ปัจจัยทำไม‘จีน’ให้การยอมรับ?

'เบสท์ ชนิดภา'เปิดโปงกลลวงมิจฉาชีพ ปั่นหัวหลอกโอนเงินกว่า 1.2 ล้าน ช้ำถูกบูลลี่ สมน้ำหน้า สวยแต่ไม่ฉลาด

กลัวโดนวิสามัญ! 'ไอ้แจ็ก-เถือก'เดินชูมือมอบตัว คดีสังหารเผานั่งยาง 3 ศพ

'ธรรมนัส'รับคุยทักษิณ ก่อนดึง'อนุดิษฐ์-การุณ' เปรยเตรียมเปิด'บิ๊กเนม-สส.'อีกเพียบ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved