วันที่ 19 พฤษภาคม 2568 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เผยความคืบหน้าการสืบสวนกรณีอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ว่า ขณะนี้ได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าให้ปากคำแล้ว 10 กว่าราย มีทั้งพระและฆราวาสที่มีหน้าที่ หรือมีความเกี่ยวข้องกับการเงินของวัด รวมถึง “หมอเตย” หญิงที่มีกระแสข่าวว่าเป็นผู้ควบคุมการเงิน ก็เรียกมาสอบสอบหมดแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าตรงตามที่ให้ปากคำไว้หรือไม่ เท่าที่ตรวจสอบทราบว่าบัญชีที่เกี่ยวข้องมีมากกว่า 10 บัญชี แต่ที่นำมาให้ตรวจสอบมีเพียง 4-5 บัญชี ก็ต้องตรวจสอบให้พบ ใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินก็จะดำเนินการตามหลักฐาน แต่เท่าที่นำตัวมาสอบสวนก็ยังให้ข้อมูลไม่ชัดเจนทุกประเด็น รับสารภาพแค่บางส่วนเท่านั้น ยังต้องสืบสวนต่อไปอีกเพราะยังมีที่ไม่ตรงกับหลักฐาน แต่ยืนยันว่าไม่นาน เพราะตำรวจก็มีเวลาจำกัดในการควบคุมตัว

การเข้ามามอบตัวไม่มีผลต่อการสืบสวน เชื่อว่าสามารถรื้อได้หมด ว่ากันไปตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เบื้องต้นเงินที่นำไปใช้มีทั้งเงินที่ถวายโดยตรงต่ออดีตเจ้าอาวาส ก็ถือเป็นเงินส่วนตัว และก็มีเงินที่ถวายวัดก็ถือเป็นเงินวัด ซึ่งทางตำรวจจะมุ่งไปที่เงินส่วนนี้ก่อน เดี๋ยวจะสรุปรายละเอียด แล้วเข้าไปรายงานต่อผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ทราบว่าจะทำอย่างไรต่อไปบ้าง และจะแก้ไขอย่างไรเพื่อให้ทางวัดสามารถดำเนินงานต่อไปตามปกติได้ด้วย

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังฝากถึงพุทธศาสนิกชนด้วยว่าวัดก็ส่วนของวัด หลวงพ่อวัดไร่ขิงก็ยังศักดิ์สิทธิ์ ส่วนบุคคลที่ทำผิดก็ว่าไปเป็นรายบุคคลไป อยากให้แยกแยะว่าเป็นคนละส่วนกัน