"โฆษก DSI"เผยชุดสืบสวนสะกดรอยฯ เร่งล่าตัว"บินลิง วู"นายทุนชาวจีน ส่อเชื่อมโยง"ไชน่าเรลเวย์" หลังศาลอาญาอนุมัติหมายจับความผิดนอมินี แย้มยังไม่ปรากฏข้อมูลเดินทางออกนอกไทย ระบุคณะพนักงานสอบสวนเตรียมนัดประชุมสรุปสำนวนคดีนอมินีตึก สตง.ภายในสัปดาห์นี้ ก่อนครบกำหนดฝากขังผัด 4 ก๊วนผู้ต้องหา
เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า คดีพิเศษที่ 32/2568 ความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 หรือคดีนอมินี บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ขณะนี้คณะพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างกระบวนการเร่งสรุปสำนวนการสอบสวน พนักงานสอบสวนที่ได้รับมอบหมายจึงกำลังทำร่างรายงานการสอบสวน ซึ่งร่างรายงานการสอบสวนมาจาก 2 ส่วน คือ 1.ส่วนที่ใช้สำหรับการแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งพนักงานสอบสวนเล็งเห็นถึงการกระทำความผิด และ 2.ส่วนสำหรับผู้ต้องหาที่จะชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ดังนั้น หากผู้ต้องหามีการส่งเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเข้ามา พนักงานสอบสวนก็จะต้องมีการนำการชี้แจงข้อกล่าวหาดังกล่าวเข้าประกอบในสำนวนคดีด้วย เพื่อชั่งน้ำหนักประกอบการสั่งคดีตามพยานหลักฐาน จากนั้นจึงจะได้มีการนัดหมายประชุมคณะพนักงานสอบสวนอย่างเป็นทางการ คาดว่าอย่างเร็วที่สุดจะอยู่ภายในสัปดาห์นี้ หรือต้นสัปดาห์หน้า เนื่องจากใกล้จะครบกำหนดฝากขังศาลอาญาผัดที่ 1 สำหรับ 4 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ (3 นอมินีไทย และนายชวนหลิง จาง กรรมการชาวจีน ของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ) อย่างไรก็ดี ได้รับรายงานล่าสุดว่าผู้ต้องหายังไม่ได้มีการส่งเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเข้ามา
พ.ต.ต.วรณัน เผยอีกว่า ส่วนกรณีผู้ต้องหารายสำคัญ "นายบินลิง วู" ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลอาญารัชดาภิ เษกได้อนุมัติหมายจับ ลงวันที่ 15 พ.ค.68 ในความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 หรือนอมินี มาตรา 36 (ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว อันเป็นธุรกิจที่กำหนดไว้ในบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้ โดยคนต่างด้าวนั้นมิได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าว หรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวโดยแสดงออกว่าเป็นธุรกิจของตนแต่ผู้เดียวหรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทจำกัด หรือนิติบุคคลใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญ ญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ รวมทั้งคนต่างด้าวซึ่งยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้กระทำการดังกล่าว ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 - 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งให้เลิกการให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุน หรือสั่งให้เลิกการร่วมประกอบธุรกิจ หรือสั่งให้เลิกการถือหุ้น หรือการเป็นหุ้นส่วนนั้นเสีย แล้วแต่กรณี หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล ต้องระวางโทษปรับวันละ 10,000 - 50,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่) ขณะนี้ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว เร่งติดตามจับกุมตัว รวมถึงได้จัดทำหนังสือประสานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ว่า นายบินลิง วู ถือเป็นบุคคลที่มีหมายจับแล้ว หากมีการเดินทางเข้า - ออกราชอาณาจักร ให้ทำการจับกุมตัวนำส่งตามหมายจับศาลได้ทันที ทั้งนี้ ยังไม่ปรากฏข้อมูลว่า นายบินลิง วู มีการเดินทางออกนอกประเทศแต่อย่างใด
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี