เปิด 5 ข้อหา 5 ฆาตกรโหด! “สมุนไอ้มุ้ย” อุ้มสังหาร "ดีเจเตเต้" หมกป่า โทษสูงสุดประหารชีวิต ตำรวจเร่งล่า ขัดขืนโดนวิสามัญ
จากกรณีสุดสะเทือนขวัญที่ นายวราพงษ์ ขุนศรีจตุรงค์ หรือดีเจเตเต้ วัย 33 ปี ถูกคนร้ายอุ้มหายไปเมื่อคืนวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 และพบศพถูกยิง 2 นัดที่ศีรษะ มือถูกมัดไขว้หลังทิ้งในป่าละเมาะ บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2568 ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับ 5 ผู้ต้องหาใน 5 ข้อหาหนัก โดยมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต ขณะที่ชุดสืบสวนระดมกำลังไล่ล่าอย่างไม่ลดละ พร้อมคำสั่งเด็ดขาดหากขัดขืนจะถูกวิสามัญ
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี และ พ.ต.อ.สุรยุทธ เมฆมังกร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้สั่งการระดมกำลังชุดสืบสวนเข้าคลี่คลายคดีอย่างเร่งด่วน โดย พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภาค 7 ได้ลงพื้นที่บัญชาการคดีด้วยตัวเอง และเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ได้ประกาศ ตั้งรางวัลนำจับ 4 ผู้ต้องหาเป็นเงิน 1 แสนบาท พร้อมย้ำคำสั่งในที่ประชุมว่า หากพบตัวคนร้ายแล้วมีการขัดขืนด้วยการยิงต่อสู้ เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการตามยุทธวิธีหรือ วิสามัญคนร้ายได้ทันที
ตลอดหลายวันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภาค 7 และชุดสืบสวนจากจังหวัดกาญจนบุรี ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ฝีมือดีพร้อมอาวุธครบมือ ออกหาข่าวและแกะรอยติดตามจับกุมผู้ต้องหาอย่างต่อเนื่องทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อกดดันให้คนร้ายยอมมอบตัว
การสืบสวนมุ่งเน้นไปที่เครือข่ายยาเสพติดกลุ่มลูกสมุนของ นายสุทัศน์ เดชคำ หรือ “มุ้ย” พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่เชื่อว่าเป็นผู้สั่งการให้กำจัดดีเจเตเต้ ซึ่งนายมุ้ยเป็นแฟนหนุ่มของ "น้ำ ลัดดา" ผู้หญิงที่คาดว่าเป็นสาเหตุของความขัดแย้ง โดยปัจจุบันนายมุ้ยกำลังหลบหนีหมายจับคดียาเสพติดหลายหมาย และเชื่อว่าไปอาศัยอยู่กับเจ้าพ่อยาเสพติดฝั่งประเทศเมียนมา ตรงข้ามบ้านพระเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
แม้แนวทางการแกะรอยคนร้ายทั้ง 4 รายยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่คาดว่าทั้งหมดกำลังหลบหนีอยู่ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีหรือจังหวัดใกล้เคียง
สำหรับผู้ต้องหาในคดีนี้มีทั้งหมด 5 ราย โดยนายธนเดช เชื้อทอง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้แล้วตั้งแต่วันหลังเกิดเหตุ แต่ยังให้การไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
ส่วนผู้ต้องหาที่กำลังหลบหนีอีก 4 ราย ได้แก่ นายนพพิจิตร เดือนฉาย, นายธราเทพ ใบบัว, นายภัคนัท แจ่มน้อย และนายณรงค์เดช อ่อนละมุน
ผู้ต้องหาทั้ง 5 รายนี้ถูกศาลจังหวัดกาญจนบุรีอนุมัติหมายจับใน 5 ข้อหา ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุดคือ ประหารชีวิต ได้แก่
1.ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดฯ โดยกระทำตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป และอ้างอำนาจอั้งยี่หรือซ่องโจร โทษจำคุก 5-20 ปี และปรับ 1 แสน-4 แสนบาท (ตามมาตรา 309 วรรคสอง, มาตรา 83, มาตรา 210, มาตรา 213)
2.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย: โทษสูงสุดคือ ประหารชีวิต (ตามมาตรา 288 ประกอบมาตรา 289 (4), มาตรา 199 วรรคหนึ่ง)
3.ร่วมกันกระทำใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมก่อนชันสูตรพลิกศพ: โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (ตามมาตรา 150 ประมวลกฎหมายอาญา)
4.ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ และร่วมกันช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษหรือให้รับโทษน้อยลง โดยทำลาย ซ่อนเร้น หรือทำให้พยานหลักฐานสูญหาย โทษจำคุก 1-5 ปี และปรับ 2 หมื่น-1 แสนบาท สำหรับฐานลักทรัพย์ และจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับการช่วยเหลือให้พ้นผิดและทำลายพยานหลักฐาน (ตามมาตรา 335 (5), มาตรา 184 วรรคหนึ่ง และมาตรา 189)
5.ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ และร่วมกันกระทำความผิดฐานซ่องโจร โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 2 แสนบาท สำหรับการมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับการพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และโทษจำคุก 3-10 ปี และปรับ 6 หมื่น - 2 แสนบาท สำหรับการร่วมกันซ่องโจร (ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 7, มาตรา 72, มาตรา 8 ทวิ วรรคสอง และมาตรา 210)
การจับกุมผู้ต้องหาที่เหลืออยู่เป็นภารกิจสำคัญของเจ้าหน้าที่ เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด - 001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี