25 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้มอบให้องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท.เดินหน้าก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง และพร้อมจะอนุมัติเงินกว่า 1,000 ล้านบาท สร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึงซึ่งคาดว่าจะสร้างเสร็จและเปิดให้บริการช่วงเดือนพฤศจิกายน 2570 ทำให้เกิดกระแสสนับสนุนและกระแสการต่อต้านขึ้นมาอีกครั้ง
นางกัลยรักษ์ อัครเลิศศักดิ์ นักท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ในความคิดเห็นส่วนตัวตนไม่เห็นด้วยกับการสร้าง เพราะมนต์เสน่ห์ของภูกระดึงมันจะหายไปเพราะการเดินขึ้นภูกระดึง มันมีเสน่ห์ของมันอยู่แล้วหากสร้างกระเช้าขึ้นมา กลัวจะไปทำลายระบบนิเวศน์ต่างๆข้างบนเพราะส่วนมากนักท่องเที่ยวที่จะไปเที่ยวภูกระดึงเลือกที่จะมาเดินขึ้นเพราะอะไรก็เพราะอยากไปสัมผัสบรรยากาศข้างบนยอดภูกระดึง
'ตนจึงคิดว่าหากมีกระเช้า ความดึงดูดนักท่องเที่ยวหน้าจะลดลงไปเยอะเลยหากมีกระเช้านักท่องเที่ยวอาจจะไปเที่ยวเยอะขึ้นแต่เสน่ห์อาจจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด สักพักก็เบื่อและจะขาดมนต์เสน่ห์ที่เคยมีอยู่จะหายไปพร้อมกับการสูญเสียระบบนิเวศของธรรมชาติและสัตว์ป่า'
นางสาวสุมันตา ยอดพยุง เจ้าร้านพริกศรีโตเกียวในตัวเมืองเลย เปิดเผยว่า ตนเห็นด้วยกับการสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึงคนอยากจะขึ้นกระเช้าก็ขึ้น คนอยากเดินก็เดิน มีให้เลือกถึง 2 ตัวเลือก
'แต่หากทำก็อยากจะให้ทำดีๆ มีมาตรฐาน ปลอดภัยกับนักท่องเที่ยวและเป็น อีกหนึ่งทางเลือกของกลุ่มนักท่องเที่ยว ที่เดินขึ้นไม่ไหว ไม่มีแรงอยากขึ้นกระเช้า หากสร้างได้ ตนในฐานะที่ยังไม่เคยขึ้นภูกระดึงตนก็เลือกที่จะเดินขึ้นลองดูก่อน'
ด้าน นางสาวแสงระวี ดาปะ ผู้ประสานงานสมัชชาสุขภาพจังหวัดเลย เผยว่าในฐานะตนเป็นคนอำเภอภูกระดึง ในเรื่องการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึงมีเรื่องราวสร้างหรือไม่สร้างมากว่า 40 ปีและทุกวันนี้ต้องยอมรับกับวิถีชีวิตหลายๆอย่างต้องเปลี่ยนไปกับการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้นการสร้างกระเช้าก็ง่ายขึ้นในการที่จะสร้างด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยผลกระทบการก่อสร้างก็อาจน้อยลงกว่าที่สร้างในยุคก่อนหน้านี้แต่ที่เป็นห่วงสร้างเสร็จแล้วอะไรที่จะเกิดบนภูกระดึงหากมองระบบธรรมชาติ ระบบนิเวศน์ ของภูกระดึง
'ทุกอย่างก็ต้องเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน เริ่มตั้งแต่การก่อสร้างการตั้งเสาของกระเช้า ธรรมชาติในจุดนั้นๆต้องแปลงแปลงไปอย่างถาวรและไม่อาจจะฟื้นฟูกลับมาได้อีก และความเสี่ยงทางด้านสิ่งแวดล้อมความเสี่ยงระบบของธรรมชาติ วันนี้เรามองแต่ระบบด้านเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว'
คาดว่าจะมีเม็ดเงินจำนวนมากซึ่งมาพร้อมกับนักท่องเที่ยวเมื่อคนมากขึ้นสรรถนะของธรรมชาติเกินที่จะรองรับได้รวมทั้งของเสียที่จะเกิดมากขึ้น และสิ่งที่ตามมาด้านบนภูก็จะเกิดก่อกิจกรรมของนักท่องเที่ยวมากขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะน้ำเสียสิ่งปฏิกูลต่างๆซึ่งบนภูกระดึงไม่เหมาะกับการบำบัดของเสียบนภูกระดึง ยังคงมีสัตว์ป่าตามธรรมชาติจำนวนมาก สิ่งเหล่านี้หากมีแล้วจะมีการจัดการยังไงและสัตว์ป่าหลากหลายชนิดที่เคยอยู่แล้วจะปรับตัวอย่างไร
'อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เคยให้ข่าวในส่วนเฟสที่2 เป็นเรื่องของการบริหารจัดการพื้นที่ด้านบนภูกระดึงโดยมีแนวคิดเพิ่มการให้บริการรถรางไฟฟ้าขนาดเล็กบนจุดท่องเที่ยวด้านบน โดยปรับเส้นทางด้วยคอนกรีตหรือดินเพื่อให้รถวิ่งได้ แต่ไม่ใช่ถนนถาวร เพื่อให้กลมกลืนธรรมชาติวันนี้เรามองแต่อำนวยความสะดวกสบายในยุคของเราและมองแต่หารายได้เพิ่มเศรษฐกิจดีขึ้น แต่ภายข้างหน้าระบบนิเวศจะลดลง สิ่งเหล่านี้เราต้องยอมรับพร้อมกับความเปลี่ยนแปลง ที่ไม่อาจหวกลับมาได้อีก หากมีการสร้างกระเช้าขึ้น' นางสาวแสงระวี กล่าว
.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี