สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกลุ่มวิจัยนวัตกรรมเพื่อสังคมสมานฉันท์และเศรษฐกิจถ้วนถึงแห่งเอเชีย สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดตัวนวัตกรรมแพลตฟอร์ม “น้องเคยมาเท่าไหร่” และ “ตามสั่ง-ตามส่ง” ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจสังคมสมานฉันท์ (Social and Solidarity Economy) เพื่อสร้างเสริมสุขภาวะทางเศรษฐกิจ (Economic Well-being) เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2568 ที่ผ่านมา ณ อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. ย่านสาทร – งามดูพลี กรุงเทพฯ
นายอรรคณัฐ วันทนะสมบัติ นักวิจัยจากกลุ่มวิจัยนวัตกรรมเพื่อสังคมสมานฉันท์และเศรษฐกิจถ้วนถึงแห่งเอเชีย สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า นวัตกรรมแพลตฟอร์ม “ตามสั่ง–ตามส่ง” และ “น้องเคยมาเท่าไหร่” พัฒนาจากการออกแบบร่วมกับผู้ใช้งานจริง คือ กลุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ร้านค้า และร้านอาหารในชุมชน เน้นให้ระบบใช้งานง่าย ตรงไปตรงมา ผู้ใช้งานที่ไม่มีความเชี่ยวชาญในการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลมากนักสามารถเลือกว่าจะใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน หรือใช้งานผ่านระบบ Line Chat Bot
โดยผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างที่เข้าร่วมแพลตฟอร์มน้องเคยมาเท่าไหร่ ไม่ต้องเสียค่าคอมมิชชัน อัลกอรึทึมจับคู่งานตามเวลาและลำดับคิว เพื่อให้วินที่อยู่ใกล้ที่สุดและอยู่ในคิวแรกได้พิจารณารับงานก่อน ซึ่งเป็นระบบที่เป็นทั้งกฎหมายและระบบยุติธรรมของวิน ซึ่งโดยปกติแพลตฟอร์มทั่วไปมีหลักการจับคู่งานที่ทำให้วินฯ ต้องทำผิดกฎหมาย วินฯ จำนวนมากแม้อยากวิ่งบนแพลตฟอร์มก็วิ่งไม่ได้ เพราะจะต้องทำผิดกฎของวินฯ ไปโดยปริยาย
สำหรับร้านค้าและร้านอาหารที่เข้าร่วมใช้งานแพลตฟอร์มตามสั่ง–ตามส่ง จะช่วยลดภาระต้นทุนการขาย เพราะไม่ต้องเสียค่าตอบแทนที่ผู้ขายได้รับจากการขายสินค้า (Commission) ดังที่แพลตฟอร์มทั่วไปเรียกเก็บ แต่จะใช้ระบบ ร่วมจ่าย Co-Contribution คิดตัดสินใจร่วมกันว่า ร้านอาหาร ไรเดอร์ และผู้บริโภค ซึ่งได้ประโยชน์ร่วมกัน จะแบ่งสัดส่วนจ่ายตามต้นทุนจริงที่ครั้งละ 5-6 บาทต่อครั้ง
ซึ่งน้อยกว่าที่แพลตฟอร์มทั่วไปเรียกเก็บจากร้านอาหาร 35% ของยอดขาย โดยเมื่อมีผู้สั่งอาหารระบบจะส่งคำสั่งซื้อไปยังไรเดอร์ในชุมชนที่อยู่ใกล้ร้านที่สุด ต่างจากแพลตฟอร์มทั่วไปที่ส่งงานไปยังไรเดอร์ที่มีคะแนนสูงสุดซึ่งบางครั้งอยู่ไกลจากร้าน ทำให้ลดภาระค่าเชื้อเพลิง เพิ่มโอกาสทางอาชีพในชุมชน เป็นการกระจายรายได้ในท้องถิ่นที่ประชาชนทุกคนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง
นายเฉลิม ชั่งทองมะดัน นายกสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ช่วงโควิด-19 วินฯ ไม่สามารถรับและส่งผู้โดยสารได้ตามปกติ ประชาชนส่วนใหญ่จึงหันไปพึ่งแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อสั่งอาหารและใช้บริการเดินทาง ส่งผลให้วินฯ ที่ไม่เข้าร่วมแพลตฟอร์มมีรายได้ลดลง จากวันละ 700 - 800 บาท เหลือเพียงวันละ 400 - 500 บาท ทำให้เกิดความเครียดสะสม กระทบโดยตรงต่อสุขภาพจิต เพราะรายได้ไม่มีเพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ สมาคมฯ จึงร่วมกับ สสส. และภาคีเครือข่าย
ออกแบบแพลตฟอร์ม “ตามสั่ง-ตามส่ง” เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการส่งอาหารและสิ่งของภายในชุมชน และแพลตฟอร์ม “น้องเคยมาเท่าไหร่” เพื่ออำนวยความสะดวกคนในชุมชนด้านการเดินทาง ช่วยให้วินฯ นำร่องที่เข้าร่วมแพลตฟอร์มฯ ไม่ถูกเอาเปรียบจากการแย่งลูกค้า มีรายได้เพิ่มขึ้น เกิดมาตรฐานการให้บริการ และมีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ ขอเชิญชวนวินฯ ร้านค้า และประชาชน ร่วมใช้บริการ เพื่อสร้างโอกาสให้วินฯ ที่กระจายตัวอยู่ตามชุมชนได้รับและส่งผู้โดยสาร และประชาชนได้ใช้วินฯ ที่มีมาตรฐาน และขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
ดร.ณัฐพันธุ์ ศุภกา รักษาการผู้อำนวยการสำนักวิชาการและนวัตกรรม สสส. กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นในไทย ส่งผลกระทบให้ประชาชนต้องกักตัวอยู่ในบ้านเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดโรค แพลตฟอร์มออนไลน์ให้บริการส่งอาหารและการเดินทางได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน ส่งผลให้วินมอเตอร์ไซค์ที่ไม่ได้เข้าร่วมแพลตฟอร์มต้องประสบปัญหารายได้ลดลง ไม่พอเลี้ยงชีพ เผชิญกับภาวะความเครียดและความกดดันจากการหารายได้เพื่อดูแลตัวเองและครอบครัว
สอดคล้องกับผลสำรวจสภาพการทำงานและสถานะทางเศรษฐกิจ และสังคมของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะในกรุงเทพฯ 50 เขต จำนวน 400 คน ปี 2566 โดยกลุ่มวิจัยนวัตกรรมเพื่อสังคมสมานฉันท์และเศรษฐกิจถ้วนถึงแห่งเอเชีย สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า วินฯ 89.3% ไม่ให้บริการผ่านแอปพลิเคชันเรียกรถ สาเหตุจากการใช้งานที่ไม่สะดวก ขั้นตอนการสมัครแพลตฟอร์มมีความซับซ้อน หลายขั้นตอน
และถูกเรียกเก็บค่าใช้บริการทำให้มีภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น 46.5% ไม่มีเงินออม 11% เป็นหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบ จากสถานการณ์ดังกล่าว สสส. ในฐานะหน่วยงานที่ส่งเสริมสุขภาวะแบบองค์รวม ผ่านการสนับสนุนองค์ความรู้ เครื่องมือ และนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ เดินหน้าร่วมกับสถาบันเอเชียศึกษาฯ พัฒนานวัตกรรมแพลตฟอร์ม ‘น้องเคยมาเท่าไหร่’ และแพลตฟอร์ม ‘ตามสั่ง–ตามส่ง’
ด้วยแนวคิด Economic Well-being มุ่งสนับสนุนให้วินฯ ร้านอาหาร และร้านค้าในชุมชน เข้าถึงนวัตกรรม เพื่อใช้เป็นช่องทางหนึ่งในการเพิ่มรายได้ สร้างความมั่นคงด้านอาชีพ ส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่มีเครื่องมือในการสั่งอาหารและเรียกใช้บริการวินฯ ในชุมชนที่มีมาตรฐานและราคาที่เป็นธรรม เป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนแบบพึ่งพาตนเอง ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการมีสุขภาวะที่เข้มแข็งและยั่งยืน
โดยแพลตฟอร์มนำร่องใช้งานจริงแล้วใน 19 พื้นที่ทั่วประเทศ เช่น เขตชุมชนลาดพร้าว 101 เขตชุมชนสามย่าน กรุงเทพฯ, อ.บางกรวย จ.นนทบุรี, อ.เบตง จ.ยะลา ทั้งนี้ ตั้งเป้าขยายผล 10 พื้นที่ ภายในปี 2568 เพื่อพัฒนาโมเดลด้านความมั่นคงทางอาชีพ และมาตรฐานการให้บริการของวินฯ รวมทั้งระบบการจัดการขนส่งสาธารณะที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับประชาชน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี