รศ.ดร.ศุภวัฒนากร วงศ์ธนวสุ คณบดีวิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า วิทยาลัยปกครองท้องถิ่น ได้ร่วมกับ ธนาคารพงสะหวัน สปป.ลาว ในการพัฒนาเมืองสังข์ทอง ซึ่งเป็นเมืองหนึ่งที่ตั้งอยู่ในเขตนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว โดย “สังข์ทองโมเดล” แห่งนี้จะได้รับการพัฒนาให้เป็นพื้นที่เมืองเศรษฐกิจการเกษตรที่สำคัญของ สปป.ลาว และก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ตามนโยบายของรัฐบาลลาว ในการแก้ไขปัญหาความยากจนในภาพรวมของประเทศ  โดยวิทยาลัยปกครองท้องถิ่นจะให้บริการทางวิชาการ ซึ่งจะจัดทำหลักสูตรหลังจากการลงพื้นที่เพื่อดูถึงทำเลที่ตั้งและพื้นที่ที่ได้รับการจัดสรร รวมไปถึงภาพรวมของเมืองและการจัดเก็บตัวอย่างดินมาเพื่อทำการตรวจคุณสมบัติทั้งหมดว่าเหมาะแก่สภาพการเพาะปลูกอย่างไร ทั้งนี้ในเบื้องต้นวิทยาลัยฯได้รับทราบถึงความต้องการของชุมชนเมือง ว่าต้องการให้วิทยาลัยฯจัดส่งนักวิชาการที่ประกอบด้วยการจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเบื้องต้นที่ชาวเมืองจะสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างง่ายเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เริ่มเดินทางเข้ามาเที่ยวชมเมืองอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดทำหลักสูตรการเพาะเห็ดสายพันธ์ต่างๆตามสภาพพื้นที่ การเลี้ยงไก่พื้นเมือง การปลูกกล้วยไม้ การปลูกพืชอาหารสัตว์ รวมทั้งการจัดตั้งโรงเรียนชุมชน และศูนย์การเรียนรู้ภาคการเกษตรแบบผสมสาน ที่ชาวเมืองจะต้องร่วมกันคิด ร่วมกันทำ ร่วมกันสร้างโดยเริ่มจากการลดรายจ่ายจากการเข้าร่วมโครงการและสามารถต่อยอดถึงการสร้างรายได้ในภาพรวมมากยิ่งขึ้นจนยกระดับไปสู่อุตสาหกรรมการเกษตรผสมผสานที่ส่งจำหน่ายทั้งในพื้นที่ ส่งจำหน่ายไปยังแขวงข้างเคียงหรือการส่งออกในภาพรวมต่อไป ทั้งนี้ขั้นตอนการดำเนินงานแบ่งเป็นการส่งเสริมความรู้และวิชาการแก่ชาวเมืองต้นแบบ โดยการคัดเลือกจากคณะกรรมการหมู่บ้านโครงการนำร่องรุ่นละ 30 คน มาทำการฝึกอบรมในด้านต่างๆที่เมืองสังข์ทองโดยทีมนักวาชาการจากมหาวิทยาลัยฯ จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนของการลงมือทำและปฏิบัติจริง ซึ่งเมื่อผลผลิตออกมาแล้วนั้นจะเข้าสู่การรับประทาในครัวเรือน ส่งจำหน่ายในชุมชน จากนั้นจัดระบบของการจัดส่งเข้าสู่เมืองและส่งต่อมายังนครหลวงเวียงจันทน์เพื่อจำหน่ายในภาคส่วนต่างๆ ขณะเดียวกันวิทยาลัยฯ จะร่วมดำเนินการในการจัดวางผังเมืองเพื่อร่วมระดมสมองในเรื่องของการออกแบบ การจัดส่งนักศึกษาออกค่ายอาสาร่วมพัฒนาพื้นที่ตามกรอบความร่วมมือของทั้ง 2 ฝ่าย อย่างไรก็ตามการดำเนินงานดังกล่าวถือเป็นการเตรียมความพร้อมต่อการก้าวเข้าสู่ประชาอาเซียนได้อย่างชัดเจนที่สุดอีกรูปแบบหนึ่งที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของหน่วยงานที่มีนโยบายที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันซึ่งผลประโยชน์ที่จะได้รับก็คือประชาชนของทั้ง 2 ประเทศเช่นเดียวกันด้วย