สุรินทร์- ผบ.ทบ แม่ทัพภาคที่ 2 บินด่วนชายแดนสุรินทร์ คำสั่งด่วนสั่งถอนกำลังจากแนวชายแดน 200 เมตร
วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 เวลา 14.25 น.พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วย พล.โท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และคณะ เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 2 ลำ มาจอดยังลานจอดเฮลิคอปเตอร์ภายในศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนสุรินทร์ ต.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อประชุมกับหน่วยทหารในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง จากนั้นเมื่อประชุมแล้วเสร็จ จะเดินทางด้วยรถยนต์ไปยังบริเวณประตูด่าน จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง เพื่อ พบกับ พล.อ.เมา โซะพัน ผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา ในเวลา 15.00 น. เพื่อพูดคุยแก้ไขปัญหา หลังเกิด ทหารไทย-กัมพูชา ปะทะกันที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี เมื่อเวลา 05.45 น. วานนี้ (28 พ.ค.) ที่ผ่านมา
โดยเจ้าหน้าที่ ทหารไม่อนุญาติให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพการประชุมที่ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนสุรินทร์ ดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้การประชุมกับหน่วยทหารของไทยที่ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนสุรินทร์ ยังไม่แล้วเสร็จ ส่วนผลการประชุมกับ พล.อ.เมา โซะพัน ผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา ต่อจากนี้ จะเป็นอย่างไรนั้น ผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบอีกครั้ง
ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนด้าน จ.สุรินทร์ ทหารไทยและกัมพูชา ยังคงตรึงกำลังเฝ้าคุมเชิงกันนอกแนวปะทะ ซึ่งจะมีการเจรจา ระหว่างทั้ง 2 ประเทศ ด้วยการนำภาพถ่ายทางอากาศ มาเปิดชี้แจงรายละเอียดเพื่อชี้ให้เห็นชัดว่า พื้นที่ที่ทางทหารกัมพูชา มาขุดคูเลตนั้นเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อน ที่เลยมาใกล้เขตแดนไทย หรือไม่ เพราะนั่น จะหมายถึงการละเมิด MOU 2543
จากนั้น พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า การเจรจาวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งทางผู้บัญชาการทหารบกทั้งสองประเทศ และนายทหารระดับสูงได้มาพูดคุยร่วมกัน เพื่อแก้ไขปัญหาในเรื่องเขตแดนที่มีปัญหา โดยเฉพาะพื้นที่ช่องบก ซึ่งพวกเราก็เข้าใจกันดี เป็นห่วงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป็นห่วงเศรษฐกิจของพี่น้องทั้งสองประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศก็มีข้อห่วงใยจึงได้รีบเร่งให้ผู้บัญชาการทหารบกทั้งสองประเทศได้มาพูดคุย เพื่อหาแนวทางออกร่วมกัน
จากผลการพูดคุยทราบว่าทั้งสองฝ่ายให้ถอนกำลังไปถอยออกไปฝ่ายละ 200 เมตร จึงได้รีบเร่งให้ผู้บัญชาการทหารบกทั้งสองประเทศได้มาพูดคุย เพื่อหาแนวทางออกร่วมกัน จากผลการพูดคุยทราบว่าทั้งสองฝ่ายให้ถอนกำลังไปอยู่ในจุดที่เหมาะสมเพื่อที่จะรอคณะกรรมการปักปันเขตแดน โดยกระทรวงต่างประเทศ ซึ่งจะมีการประชุมในช่วงเร็วๆ นี้ คาดว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์ก็จะมาทำหน้าที่ปักปันเขตแดนร่วมกัน เพื่อตัดปัญหาในพื้นที่ในการถือแผนที่ที่ไม่ตรงกัน
ซึ่งในปัจจุบันนี้เราเข้าใจกันดี กำลังพลทหารของทั้งสองประเทศก็จะต้องหาเวลาในการพูดคุยกัน และยุติข้อขัดแย้งที่จะนำมาซึ่งการใช้อาวุธซึ่งกันและกัน
สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ขณะนี้ยืนยันว่าไม่มีความตึงเครียดแล้ว เราได้พูดคุยร่วมกันแล้วเป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ตกลงกันแล้ว ต้องถอยไปอย่างน้อยจากจุดขัดแย้งคนละ 200 เมตร
เมื่อถามว่า นอกจากเงื่อนไขถอย 200 เมตร ยังมีเงื่อนไขอื่นๆอีกหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ให้ผู้บังคับหน่วยพบปะพูดคุยกันเป็นประจำ เพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน เมื่อถามว่า นอกจากพื้นที่ช่องบกแล้ว ยังมีพื้นที่อื่นที่จะต้องให้ความระมัดระวังหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า มีบ้างนิดหน่อย แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเราอยู่ประจำจุดใครจุดมัน
อย่างไรก็ตามขอฝากพี่น้องประชาชนทั้งสองประเทศขอให้ความมั่นใจว่าจะไม่มีการนำไปสู่การใช้กำลังและการใช้อาวุธที่จะทำให้พี่น้องทั้งสองประเทศเดือดร้อน ยืนยันว่าจะไม่มีการปะทะกันและใช้อาวุธอย่างเด็ดขาดขอให้ประชาชนมั่นใจและสบายใจเชื่อมั่นว่าจะได้รับความปลอดภัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี