ตามที่นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้นโยบายเน้นย้ำมาตรการเชิงรุกในการแก้ไขปัญหาแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบ โดยการบูรณาการความร่วมมือระหว่างฝ่ายปกครอง ตำรวจ และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง เพื่อกวดขัน ตรวจสอบ และจับกุมกลุ่มบุคคลหรือเครือข่ายที่กระทำผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยมีข้อสั่งการให้จัดตั้ง “ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ” ทุกอำเภอ เพื่อรับเรื่องร้องทุกข์ร้องเรียนและ ให้การช่วยเหลือการาษฎรผู้ตกเป็นเหยื่อเจ้าหนี้นอกระบบ
ต่อมา เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 เวลา 13.45 น. นางณัชชา มีจันทร์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดลำปาง/ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดลำปาง พร้อมด้วยนางธัญญารัตน์ สายเทพ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดลำปาง นายธนารัฐ สายเทพ นายอำเภอเมืองลำปาง คณะกรรมการ/สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดลำปาง สมาชิกชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดลำปาง เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดลำปาง นักสังคมสงเคราะห์โรงพยาบาลลำปาง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ตามโครงการ “กาชาดลำปางห่วงใย ใส่ใจผู้ป่วยติดเตียง ผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการและผู้สูงอายุ ประจำปี 2568” ในพื้นที่อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง เพื่อเยี่ยมเยือนราษฎรรายนางสมจิต ชาวจ.ลำปาง ซึ่งพักอาศัยอยู่กับ นายเจษฎา อายุ 31 ปี บุตรชายซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงและพิการทางสมอง เนื่องจากประสบอุบัติเหตุขี่รถจักรยานยนต์ชนกับเสาไฟฟ้า และเกิดภาวะเลือดคั่งในสมอง เข้ารับการผ่าตัดถึง 2 ครั้ง จนกลายเป็นผู้พิการติดเตียง ซึ่งในครั้งดังกล่าวเหล่ากาชาดจังหวัดลำปาง ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดลำปาง อำเภอเมืองลำปาง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดลำปาง ได้มอบเงินช่วยเหลือ ถุงยังชีพ งบประมาณในการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยเพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และจากการที่นายกเหล่ากาชาดจังหวัดลำปาง ได้สอบถามข้อมูลจากราษฎรทราบว่า นางสมจิต เต็มสวัสดิ์ ได้มีการกู้เงินจากเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบเพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว และเมื่อไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามที่ถูกทวงถาม จึงถูกเจ้าหนี้ข่มขู่และคุกคามโดยการหยอดกาวรูกุญแจ ไม่ให้เปิดล็อกกุญแจให้เข้าบ้านได้ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดลำปางจึงประสานให้นายอำเภอเมืองลำปาง ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวและหาแนวทางช่วยเหลือ
เมื่อได้รับเรื่องดังกล่าว วันที่ 23 พฤษภาคม 2568 นายอำเภอเมืองลำปางได้มอบหมาย ปลัดอำเภอรับผิดชอบศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเมืองลำปาง ร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ ได้ขยายผลและวางแผนการตรวจสอบจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายหนี้นอกระบบดังกล่าว แต่ครั้งแรกผู้กระทำผิดไหวตัวทัน จึงไม่สามารถจับกุมได้ จนกระทั่ง ต่อมาเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 เวลา ประมาณ 10.00 น. ภายใต้การอำนวยการของ นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นายปกรณ์ กรรณวัลลี ปลัดจังหวัดลำปาง นายธนารัฐ สายเทพ นายอำเภอเมืองลำปาง พ.ต.อ.คมสันต์ บำรุงยศ ผกก.สภ.เมืองลำปาง นายสุทธิพันธ์ เครือสุข ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองลำปาง ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอเมืองลำปาง นำโดย นายพศุตม์ ณ ลำปาง ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองลำปาง พร้อมด้วย นายนราธิป เครือวิเสน ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดลำปาง สมาชิกกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอเมืองลำปางที่ 1 กำนันตำบลบ้านเป้า สารวัตรกำนันตำบลบ้านเป้า ผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 หมู่ 7 หมู่ 11 ตำบลบ้านเป้า ได้วางแผนกระจายกำลัง ซุ่มอยู่ตามถนนภายในหมู่บ้าน ในจุดทางเข้า - ออกซอยต่างๆ เพื่อเตรียมพร้อมเข้าจับกุมผู้ต้องสงสัย จากนั้นพบว่า นายอพิชาติ กระแหน่ (ผู้ต้องหาที่ 1) และ นายวิทยา น่วมอนงค์ (ผู้ต้องหาที่ 2 ) ขับรถมาจอดหน้าบ้านแห่งหนึ่ง อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง เพื่อมาหาลูกหนี้ ชื่อนางสมจิต เต็มสวัสดิ์ ที่อาศัยในบ้านนี้แต่ไม่อยู่บ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจ และสอบถามว่ามาทำอะไร นายอพิชาติฯ และนายวิทยาฯ อ้ำอึ้งพูดจาไม่ถูกดูมีพิรุธเจ้าหน้าที่จึงสอบถามเกี่ยวกับการเกี่ยวข้องกับเงินกู้นอกระบบได้ให้การยอมรับแต่โดยดีว่า
ตนเป็นลูกจ้างของเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ เจ้าหน้าที่จึงแสดงเจตนาขอทำการตรวจค้น นายอพิชาติฯ และนายวิทยาฯ ยินยอมให้ทำการตรวจค้น จากการตรวจค้นพบหลักฐานโพยเก็บเงินลูกหนี้แชทคุยกับลูกหนี้ และสลิปโอนเงินให้ลูกหนี้และนายจ้าง ในโทรศัพท์มือถือ อยู่ในกระเป้าคาดเอวสีเขียวลายหนังจระเข้ของ นายอพิชาติ (ของกลางรายการที่ 1) โทรศัพท์มือถือ อยู่ที่ช่องวางของตรงเกียร์ของรถเก๋ง (ของกลางรายการที่ 2) และ โทรศัพท์มือถือ อยู่ในกระเป้ากางเกงซ้ายของนายวิทยา (ของกลางรายการที่ 3 )
นายอพิชาติฯ และนายวิทยาฯ ให้การยอมรับแต่โดยดีว่าจากรายชื่อผู้กู้ในโพยเก็บเงินทั้งหมด คิดเป็นดอกเบี้ย ร้อยละ 20 ต่อเดือน ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งตรวจสอบแล้วพบว่ามีลูกค้าเกือบ 50 ราย กระจายตามเขตตำบลต่างๆ ของอำเภอเมืองลำปาง เจ้าหน้าที่ จึงควบคุมตัวนายอพิชาติฯและนายวิทยาฯ ไว้ และแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า "ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อ ส่วนบุคคลโดยได้รับอนุญาต" และ "ร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด" นายอพิชาติ (ผู้ต้องหาที่ 1) และนายวิทยา (ผู้ต้องหาที่ 2) ผู้ถูกจับกุมได้ให้การรับสารภาพข้อกล่าวหา ซึ่งในการควบคุมตัว นายอพิชาติ (ผู้ต้องหาที่ 1) และ นายวิทยา (ผู้ต้องหาที่ 2) ในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจชุดจับกุมได้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมาย พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พุทธศักราช 2565 ซึ่งได้แจ้งการควบคุมตัวกับ ฝ่ายปกครอง ตาม ม222 ปฏิบัติครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว จึงควบคุมตัว นายอพิชาติ ผู้ต้องหาที่ 1) และนายวิทยา (ผู้ต้องหาที่ 2) มาทำการสอบสอบปากคำ และขยายผล ณ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอเมืองลำปาง และต่อมาไดนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองลำปางดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี