‘บอร์ดคุรุสภา’ ยกเลิกข้อบังคับเก่า 3 ฉบับ รวมเป็นฉบับใหม่พิจารณาประพฤติผิดจรรยาบรรณครูบุคลากร ‘อมลวรรณ’ เผย หากข้อบังคับใหม่ประกาศใช้จะสรางคดีค้างท้อ 759 คดีให้เสร็จภายใน 2 เดือน
วันที่ 30 พฤษภาคม 2568 ผศ.ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา ในฐานะกรรมการและเลขานุการการประชุมคณะกรรมการคุรุสภา ครั้งที่ 6/2568 โดยมี พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมวาระด่วน ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาวาระสำคัญและมีมติเห็นชอบ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. .... โดยได้ยกเลิกข้อบังคับเก่าทั้ง 3 ฉบับ และรวบเป็นฉบับใหม่ ซึ่งถือเป็นกฏหมายหลักที่สำคัญในการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณ ตามนโยบาย เรียนดีมีความสุข และรวดเร็ว ถูกต้อง ประโยชน์ ประหยัด ของ รมว.ศธ และทางคณะกรรมการคุรุสภา มองว่าเพื่อทำให้การลงโทษผู้ประพฤติผิดจรรยาบรรณเกิดความรวดเร็วเป็นธรรม ถูกต้อง ที่สำคัญทำให้เส้นทางของการพิจารณาทันเวลา ทันเหตุการณ์ เพราะโลกเปลี่ยนแปลงไป จึงได้มีการปรับให้มีความชัดเจนขึ้น
โดยสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง จัดทำข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2563 บังคับใช้มาเป็นระยะเวลานาน และเพื่อให้การดำเนินงานทางจรรยาบรรณของวิชาชีพมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น สอดรับกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน เห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับคุรุสภาดังกล่าว ตาม (ร่าง)ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. .... ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ และคณะอนุกรรมการกฎหมายและระเบียบแล้ว โดยมีสาระสำคัญของประเด็นการปรับปรุงข้อบังคับ ดังนี้
ผศ.ดร.อมลวรรณ กล่าวว่า สาระสำคัญของประเด็นการปรับปรุงข้อบังคับคุรุสภา ประกอบด้วย 1. ปรับปรุงข้อกำหนดเดิมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ประกอบด้วย 1.1 ทำให้ข้อกำหนดเดิมมีความชัดเจนมากขึ้น เช่น การพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพตามข้อบังคับคุรุสภา ในชั้นการสืบสวนเพื่อชี้มูลการประพฤติผิดจรรยาบรรณฯ ครอบคลุมบุคคลสองกลุ่ม ได้แก่ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา และผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาโดยไม่มีใบอนุญาตเป็นการชั่วคราว 1.2 ปรับกระบวนการพิจารณาการประพฤติผิดทางจรรยาบรรณของวิชาชีพ ให้มีความกระชับมากขึ้น แต่มีมาตรฐานไม่ต่ำกว่ากฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง และปรับปรุงเหตุการคัดค้านอนุกรรมการสอบสวนให้สอดคล้องกับกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง
1.3 ปรับเพิ่มกรณีความผิดที่ปรากฏชัดแจ้ง ให้ครอบคลุมการพิจารณาคดีแพ่ง และ การดำเนินการทางวินัยของหน่วยงานต้นสังกัดของผู้ประกอบวิชาชีพ ซึ่งเป็นที่สิ้นสุดแล้ว
1.4 ปรับเพิ่มกรณีการพักใช้ใบอนุญาตไว้ก่อน ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ครอบคลุม กรณีที่เห็นประจักษ์ชัดของสังคมและอาจส่งผลเสียหายต่อวิชาชีพอย่างร้ายแรง เช่น เรื่องที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนที่อาจส่งผลเสียหายต่อวิชาชีพอย่างร้ายแรง 1.5 ปรับกระบวนการพิจารณาให้รองรับกับนโยบายการกระจายภารกิจไปยังพื้นที่จังหวัด เพื่อให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยให้บุคลากรของหน่วยงานทางการศึกษา ตำแหน่งนิติกรที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัด และผู้ที่มีความรู้ทางกฎหมายไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรี ร่วมปฏิบัติงานในคณะอนุกรรมการสอบสวนการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพได้ ทั้งนี้ บุคคลดังกล่าวต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา 13 และมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 และไม่เคยประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพหรือกระทำผิดวินัย 1.6 กำหนดให้มีบุคคลผู้มีความรู้ในด้านจิตวิทยาหรือสังคมสงเคราะห์ เข้าร่วมในการสอบปากคำผู้เสียหายหรือพยานซึ่งเป็นเด็ก เพิ่มเติม 1.7 เพิ่มช่องทางการร้องเรียนกล่าวหา/กล่าวโทษ โดยกำหนดให้ร้องเรียนผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ได้
2. เพิ่มเติมข้อกำหนดใหม่ ประกอบด้วย
2.1 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ และคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพวินิจฉัยชี้ขาดว่าเป็นความผิด แต่ใบอนุญาตหมดอายุ เป็นผลให้การออกคำสั่งทางปกครองไม่มีผลในการบังคับใช้ จึงกำหนดให้บันทึกข้อเท็จจริงไว้ในฐานข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาลักษณะต้องห้ามของผู้ขอใบอนุญาตต่อไป 2.2 ในระหว่างการสืบสวนและสอบสวน หากผู้ถูกกล่าวหาหรือกล่าวโทษเสียชีวิต ให้เลขาธิการ
สั่งยุติเรื่อง และให้รายงานต่อคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพเพื่อทราบต่อไป 2.3 ข้อกำหนดเกี่ยวกับการดำเนินการพิจารณากรณี ดังนี้
1) กรณีการกระทำผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพในขณะที่ผู้กระทำผิดเป็นผู้มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และขณะที่อยู่ระหว่างการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของผู้กระทำผิดหมดอายุและมิได้ยื่นขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพที่หมดอายุแล้ว และไม่พบข้อมูลการต่ออายุใบอนุญาต
2) กรณีการกระทำผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพในขณะที่ผู้กระทำผิดเป็นผู้มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพที่หมดอายุแล้ว และไม่พบข้อมูลการต่ออายุใบอนุญาต
เลขาธิการคุรุสภา กล่าวเพิ่มเติมว่า ขบวนการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณ ทางคุรุสภาจะจัดทำ MOU กับ สำนักงานปลัดศธ. และทุกหน่วยงานต้นสังกัด ดังนั้น ต่อไปการสืบสวนสอบสวนส่วนหนึ่งคุรุสภาจะนำข้อมูลสำนวนมาจากต้นสังกัด เป็นการทำงานแบบบูรณาการร่วมกัน เพื่อให้การสอบสวนเกิดความรวดเร็วยิ่งขึ้น และผลที่ออกมาก็สอดคร้องกัน และได้มีการเพิ่มโทษ กรณีที่กระทำผิดชัดแจ้งจะครอบคลุมทั้งคดีแพ่งและการดำเนินการทางวินัยของต้นสังกัด และมีการปรับเพิ่มการของการพักใช้ใบอนุญาตให้สอดคร้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เรื่องที่ปรากฏเป็นข่าวก็สามารถดำเนินการพักใช้ใบอนุญาตได้เลย จึงจะทำให้คนที่ประพฤติผิดจรรยาบรรณได้รับโทษโดยเร็วที่สุด และจะมีบุคคลภายนอกที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาร่วมพิจารณาคดีความในขบวนการสืบสวนสอบสวนได้ด้วย
“ข้อบังคับใหม่ของขบวนการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณ ถ้าความผิดไม่รุนแรง คุรุสภาก็สามารถพักใช้ใบอนุญาตได้ทันทีตามความผิดที่ปรากฏชัดแจ้ง เหมือนกับวิชาชีพอื่นๆที่พักใช้ไว้ก่อน การดำเนินกานขึ้นอยู่กับระดับความผิด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในขบวนการจะดำเนินไปเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกคน ดังนั้น ระยะเวลา จึงขึ้นอยู่กับระดับของความผิด แต่การลดขั้นตอนต่างๆลงจะทำให้ระยะเวลาของการตรวจสอบสั้นลงมาก ซึ่งตั้งแต่ปี 2550 -2568 เราสามารถสะสร้างได้ 759 คดี จาก 2,000 กว่าคดี ดังนั้น หากข้อบังคับฉบับใหม่นี้ประกาศใช้ได้เร็ว คุรุสภาก็น่าจะพิจารณาคดีที่ค้างเหลือ เสร็จได้ภายใน 2 เดือนนี้ ต้องขอขอบคุณกรรมการคุรุสภา ที่มี พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ.เป็นประธาน ท่านได้เน้นย้ำในเรื่องนี้ เพื่อทำให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา คนที่จะทำให้วิชาชีพของเราถูกมองในทางที่ไม่ดี ถูกดำเนินการโดยเร็วที่สุด ซึ่งในวันนี้(30 พ.ค.) รมว.ศธ.ท่านก็จะลงนามในข้อบังคับฉบับใหม่นี้ จากนั้น คุรุสภาจะส่งให้กฤษฎีกาพิจารณาและประกาศในราชกิจจานุเบกษาเร็วที่สุด“ เลขาธิการ คุรุสภา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี