เหตุการณ์สะเทือนขวัญเกิดขึ้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อหนุ่มวัย 41 ปี ก่อเหตุใช้มีดอีโต้กระหน่ำฟันรุ่นน้องวัย 37 ปี จนเสียชีวิตขณะกำลังนอนอยู่ในเปลยวน ผู้ก่อเหตุสารภาพว่าบันดาลโทสะจากคำด่าทอที่สะสมมานาน โดยเฉพาะเหตุการณ์ล่าสุดที่ถูกด่าอย่างรุนแรงเพียงแค่ขี่จักรยานไปเหยียบลูกหมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
วันที่ 4 มิถุนายน 2568 พ.ต.อ. จำรัส ศิริเลี้ยง ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้นำกำลังเข้าควบคุมตัว นายคมสันต์ หรือบอย อายุ 41 ปี เพื่อสอบสวน หลังก่อเหตุใช้มีดอีโต้ฟัน นายวีระพล หรือเอ็ม อายุ 37 ปี จนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 3 มิถุนายน ที่ผ่านมา ขณะที่นายวีระพลนอนอยู่ในเปลยวนในกระท่อมของเพื่อน ที่บ้านโพธิ์ไทย ต.กระสัง อ.เมืองบุรีรัมย์
จากการสอบสวน นายคมสันต์ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือฟันนายวีระพลจริง สาเหตุมาจากการที่นายวีระพลชอบดุด่าตนเองเป็นประจำ แม้จะไม่เคยยุ่งเกี่ยวหรือทำงานร่วมกันมาก่อน โดยเฉพาะการด่าแบบยั่วยุ นายคมสันต์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนขี่จักรยานมาหากับเจ้าของกระท่อม ซึ่งรู้จักกันดีและมักจะมานั่งดื่มสุราด้วยกันที่กระท่อมแห่งนี้ แต่เมื่อมาถึงหน้ากระท่อม เห็นนายวีระพลนอนอยู่ในเปลยวนของเจ้าของกระท่อม และตนเองก็บังเอิญขี่จักรยานไปเหยียบลูกสุนัขของเจ้าของกระท่อมเข้า
แม้นายคมสันต์จะบอกเจ้าของสุนัขว่า "ขอโทษเด้อ" และลูกสุนัขก็ไม่เป็นอะไร แต่กลับถูกนายวีระพลที่นอนอยู่ในเปลด่ากลับมาว่า ".....ไม่มีตาหรือไง!" นายคมสันต์ยอมรับว่ารู้สึกเจ็บใจอย่างมาก เพราะเจ้าของสุนัขยังไม่ว่าอะไรตนเลย แต่กลับถูกนายวีระพลด่าอย่างรุนแรง ประกอบกับที่ผ่านมาตนเองถูกนายวีระพลด่าเป็นประจำโดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้ความอดทนถึงที่สุด
หลังจากถูกด่า นายคมสันต์ได้ขี่จักรยานกลับไปที่บ้าน เพื่อไปเอามีดอีโต้ แล้วย้อนกลับมาที่กระท่อมอีกครั้ง จากนั้นได้ใช้มีดอีโต้ฟันนายวีระพลที่นอนอยู่ในเปลยวน 2 ครั้ง โดยในขณะนั้นยังไม่ทราบว่าเสียชีวิตหรือไม่ จนกระทั่งวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามมาถึงบ้านและควบคุมตัวไว้ได้
ด้าน นายสันธยา อายุ 46 ปี เจ้าของหมาและเจ้าของกระท่อม เล่าว่า ก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิตนอนอยู่ในเปลยวนและบอกว่าง่วง จากนั้นก็มีปากเสียงกันเล็กน้อยหลังจากที่นายคมสันต์ขี่จักรยานมาเหยียบลูกสุนัขของตน ตนจึงห้ามปรามและให้แยกย้ายกันไป ไม่คาดคิดว่านายคมสันต์จะย้อนกลับมาลงมือก่อเหตุเช่นนี้
ขณะที่ นางนภาพร อายุ 54 ปี น้าสาวของผู้เสียชีวิต กล่าวด้วยความเจ็บปวดว่า การกระทำนี้โหดเหี้ยมเกินกว่าจะรับได้ ไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ต่อสู้ เหมือนจงใจจะฆ่าให้ตาย และทางญาติจะไม่ให้อภัย ไม่ต้องมาขอขมาศพ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหา "ฆ่าคนตายโดยเจตนา" และส่งตัวผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี