‘พระพรหมเมธี’ เดินทางกลับไทย มอบตัวสู้คดี ‘เงินทอนวัด’ หลังจากหนีไปอาศัยที่เยอรมัน นาน 7 ปี พนักงานสอบสวน บก.ปปป.รุดสอบเข้ม
วันนี้ (5 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระพรหมเมธี วัดสัมพันธวงศ์ พร้อมคณะ ซึ่งเดินทางกลับสู่ประเทศไทย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ในช่วงเวลา 06.25 น.วันเดียวกัน หลังจากหลบหนีคดีเงินทอนวัด ไปอาศัยอยู่ในเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี นานถึง 7 ปี โดยภายหลังผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง เรียบร้อยแล้ว ได้มีคณะพระภิกษุสงฆ์ นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และลูกศิษย์ใกล้ชิด มาคอยรับ
มีรายงานข่าวว่า ภายหลังอดีตพระพรหมเมธี เสร็จสิ้นขั้นตอนตรวจคนเจ้าเมือง ทางตำรวจ บช.ก.ที่มารอรับตัว ได้นำอดีตพระพรหมเมธี เดินทางมาถึง บช.ก.เข้าพบคณะพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เพื่อสอบปากคำ รวมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับคดีเงินทอนวัด เป็นการเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยจะถูกดำเนินคดีใน 2 ข้อหา ประกอบด้วย เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต , สนับสนุนเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ และร่วมกันฟอกเงิน
อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะปล่อยตัวชั่วคราวพระพรหมเมธี หรือไม่ เนื่องจากพนักงานสอบสวน ไม่ได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นความประสงค์ในการติดต่อขอเข้ามอบตัวของผู้ต้องหาเอง และหากได้รับการประกันตัว คงไม่สามารถเข้าไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐานได้แล้ว เนื่องจากคดีผ่านมานานหลายปี
ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีที่ผ่านมานานหลายปี จะทำให้มีความยุ่งยากต่อการทำงานของพนักงานสอบสวนหรือไม่ ทางแหล่งข่าวที่เป็นพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว ยืนยันว่า ไม่ยุ่งยาก เนื่องจากคดีนี้มีพยานหลักฐานครบถ้วนแล้ว คงเหลือเพียงการติดตามผู้ต้องหามาสอบคำให้การ จากนั้นก็ขึ้นอยู่ที่ศาลจะพิจารณาคดี
ทั้งนี้ ในส่วนของคดีดังกล่าว มี พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก.เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน
สำหรับอดีตพระพรหมเมธี (จำนงค์ ธัมมจารี) ปัจจุบันอายุ 84 ปี นับเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ที่มีลูกศิษย์เลื่อมใสศรัทธาเป็นจำนวนมาก เคยดำรงตำแหน่งสำคัญในคณะสงฆ์ หลายตำแหน่ง เช่น กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เจ้าคณะภาค 4 , 5 , 6 และ 7 (ธรรมยุต) และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม
ส่วนลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ. 2509 เป็นพระครูสังฆบริหาร ฐานานุกรมในพระมหารัชชมังคลาจารย์ (เทศ นิทฺเทสโก) , พ.ศ. 2513 เป็นพระครูปลัด ฐานานุกรมในพระเทพปัญญามุนี (เฉย ยโส) , พ.ศ. 2519 เป็นพระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอกที่ พระครูวิบูลศีลวงศ์ , พ.ศ. 2524 เป็นพระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นพิเศษในราชทินนามเดิม , พ.ศ. 2528 รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระวิบูลธรรมาภรณ์ , พ.ศ. 2535 รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชธรรมาภรณ์ , พ.ศ. 2539 รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพรัชมงคลเวที , พ.ศ. 2544 รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมกิตติเมธี , พ.ศ. 2553 รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองที่ พระพรหมเมธี และ พ.ศ. 2561 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ถอดถอนออกจากสมณศักดิ์
015
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี