ฟ้าผ่าอดีต ผญบ.คนขยัน ขณะเตรียมคร่อมจยย.ดับคาทุ่งนา คาดเคียวที่เหน็บหลังเป็นสื่อนำ
13 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 340 หมู่ 14 ซึ่งเป็นบ้านของนายสมนึก วังกะธาตุ อายุ 69 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 บ้านเรณู ต.เรณู อ.เรณูนคร จ.นครพนม ซึ่งเสียชีวิตจากการถูกฟ้าผ่า บริเวณทุ่งนาบ้านหนองลาดควาย หมู่ 7 ต.โพนทอง อ.เรณูนคร เมื่อวานนี้ (12 มิย.) โดยญาติได้นำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้าน อยู่คุ้มหลังวัดพระธาตุเรณู เขตพื้นที่เทศบาลตำบลเรณูนคร จัดการตัดหญ้าปรับพื้นที่ทางเข้าบ้าน และตั้งเต็นท์เพื่อรองรับแขกที่มาร่วมในพิธีศพบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า เนื่องจากนายสมนึกเสียชีวิตโดยกะทันหัน
สอบถาม นายรังสรรค์ บัวสาย อายุ 64 ปี สท.เขต 2 ต.เรณู เปิดเผยว่านายสมนึกเป็นเพื่อนรุ่นพี่ ได้รับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้านมาพร้อมๆกัน หลังตนเกษียณออกจากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน ก็หันไปทำงานการเมืองท้องถิ่น ก็เพิ่งได้รับเลือกตั้งมาหมาดๆ ส่วนนายสมนึกเคยเป็นที่ปรึกษาอดีตนายกเทศบาล ต.เรณู เป็นคนที่มีความขยันขันแข็ง โดยปัจจุบันผู้ตายเลี้ยงวัวไว้ 7 ตัว จึงต้องหาหญ้าให้กินทุกวัน วันที่เสียชีวิตก็ออกไปเกี่ยวหญ้าให้วัว โดยมีอุปกรณ์ประจำกาย เช่น จอบ เสียบ และเคียว
ด้าน นายราชชะวัลลพ ยุวรัตแก่นพระจันทร์ อายุ 53 ปี มีศักดิ์เป็นน้องชายของนายสมนึก เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุพี่ชายก็ขับรถจักรยานยนต์ออกไปนา ซึ่งอยู่ห่างออกไปคนละหมู่บ้านประมาณ 7 กิโลเมตร ถือเป็นเรื่องปกติที่พี่จะพกเสียบ จอบ เคียวติดรถไปด้วยเสมอ เพื่อใช้สำหรับขุดดิน ถอนหญ้า และเกี่ยวหญ้าในนา มาเป็นอาหารให้วัวที่เลี้ยง
วันเกิดเหตุช่วงบ่ายสี่โมงเย็นมีฝนฟ้าคะนอง ไปทั่วบริเวณพื้นที่ อ.เรณูนคร พี่ชายได้ขนหญ้าใส่ท้ายรถจักรยานยนต์ เพื่อรีบกลับบ้านระหว่างยกขาเตรียมขึ้นคร่อม เกิดฟ้าผ่าลงมาตรงนั้นพอดี จึงเป็นเหตุให้เสียชีวิต อีกทั้งบริเวณนั้นมีต้นไม้ ที่อาจเป็นสื่อนำกระแสไฟก็ได้
ขณะเดียวกัน นายวีระศักดิ์ โสภา อายุ 38 ปี ลูกชายกำนัน ต.โพนทอง อ.เรณูนคร อ นางประนอม ครโสภา อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นคนที่พบร่างนายสมนึกคนแรก เล่าเหตุการณ์ในขณะนั้นให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนพร้อมน้องชายได้พากันไปพ่นยาฆ่าหญ้าในนา ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับนาของนายสมนึก ขณะนั้นมีฝนตกฟ้าคะนองรุนแรง พร้อมกับมีเสียงฟ้าผ่าลงมาดังเปรี้ยง ตอนนั้นตนไม่เอะใจสงสัย เพราะแถวนี้มักมีฟ้าผ่าประจำ แต่หลังจากฝนซาเม็ดก็จะกลับเข้าบ้าน มองเห็นนายสมนึกนอนอยู่กลางทางจึงเดินไปดู เชื่อว่าคงถูกฟ้าผ่าเสียชีวิต จึงไปแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเรณูนคร ประสานตำรวจเข้าตรวจสอบ ส่วนที่บอกว่าฟ้าผ่าต้นไม้นั้น คงไม่น่าใช่เพราะถ้าผ่าต้นไม้ต้องมีรอยไหม้ หรือต้นไม้ฉีกขาด แต่ฟ้าน่าจะผ่าตรงที่นายสมนึกกำลังขับรถจักรยานยนต์มาพอดี
จากการสอบถาม นายชัยยา มิสงอน อายุ 23 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยเรณูนคร ซึ่งเป็นคนที่เข้าไปดูร่างนายสมนึก เล่าว่าหลังรับแจ้งก็รีบออกไปดูที่เกิดเหตุ พบร่างนายสมนึก สวมเสื้อแขนยาวสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำ นอนแน่นิ่งอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ จับชีพจรยังเต้นอ่อนๆอยู่ จึงทำการ CPR ปั๊มหัวใจแต่สัญญาณชีพได้ค่อยๆหมดไป โดยแพทย์ชันสูตรพลิกศพมีแผลคล้ายรอยถลอกที่หลัง ค่อนมาทางด้านขวาประมาณ 2 เซนติเมตร ในที่เกิดเหตุมีเคียวเหน็บอยู่ที่เอว ไม่มีโทรศัพท์มือมือ คาดเคียวอาจจะเป็นสื่อทำให้ฟ้าผ่าดังกล่าว
ด้าน นางหอมพิศ ศรีปทุมวงศ์ อายุ 71 ปี พี่สาวของนายสมนึก เปิดเผยว่าเป็นคนขยัน สมัยเป็นผู้ใหญ่บ้านก็มีแต่คนรัก เพราะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ หลังเกษียณก็ไปเป็นที่ปรึกษาอดีตนายกเทศบาล ต.เรณู รวมทั้งทำนา เลี้ยงวัว ปกติเขาจะไปนาแทบทุกวัน สื่อนำกระแสไฟน่าจะเป็นเคียวที่เหน็บหลังเขา วันเกิดเหตุเมียไม่อยู่ ไปเยี่ยมลูกที่กรุงเทพฯ ขณะนี้กำลังเดินทางกลับ ส่วนศพคาดจะฌาปนกิจในวันอังคารที่ 17 มิถุนายนที่จะถึงนี้
.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี