นายกสมาคมการค้าชายแดนฯไทย-กัมพุชาจันทบุรี เผยสาเหตุด่านกัมพูชาฝั่งบ้านแหลม ยังปิดเพราะฝ่ายกัมพูชามองว่าเป็นจุดผ่านแดนสำคัญของพื้นที่ภาคตะวันออกในการขนส่งสินค้าและผลไม้ข้ามประเทศ

วันนี้ (13 มิ.ย.68) เมื่อเวลา 14.00 น. ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย - กัมพูชา จันทบุรี เปิดเผยภึงกรณีที่ทางกัมพูชาปิดด่านบ้านแหลมผ่านทาง สวท.จันทบุรี FM 90.25 MHz ว่า ทีแรกรู้สึกแปลกใจว่าหลังจากที่ด่านอื่นๆ ปิดเป็นการชั่วคราวและเปิดให้ชาวกัมพูชา รวมไปถึงรถขนส่งสินค้า ผ่านข้ามไปยังประเทศกัมพูชาได้ แต่ประตูด่านกัมพูชา ฝั่งด่านถาวรบ้านแหลม จังหวัดจันทบุรี ไม่มีทีท่าว่าจะเปิด

ทั้งนี้ ทางประเทศกัมพูชา มีการแจ้งว่าสาเหตุที่ยังคงปิดด่านตรงข้ามด่านถาวรบ้านแหลม จังหวัดจันทบุรี เนื่องมาจากทางกัมพูชามองว่า จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม เป็นด่านใหญ่ เป็นจุดสำคัญในการขนถ่ายสินค้าและผลไม้ของประเทศ  หากปิดด่านไม่ให้มีการขนส่งสินค้าผ่านไปยังประเทศกัมพูชา จะทำให้ชาวไทย พี่น้องเกษตรกร ได้รับความเดือดร้อน ในเรื่องของการขนส่งผลไม้  และระบายผลผลิตภายในประเทศ  รวมไปถึงทำให้ราคาผลไม้ตกต่ำลงด้วย

ดร.รัฐวิทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเจรจาเป็นเรื่องระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องของการค้าหรือนักธุรกิจโดยตรง การจะเจรจาต้องให้รัฐบาลเป็นผู้เจรจาเท่านั้น ในส่วนของการบริหารจัดการเรื่องรถที่ยังคงตกค้างที่บริเวณหน้าด่านบ้านแหลม ได้มีการบริหารจัดการ จัดระเบียบการจอด เพื่อให้การค้าขายภายในตลาดยังคงคล่องตัวและสามารถดำเนินต่อไปได้ ยืนยันว่าทางฝั่งไทยไม่ได้ปิดด่าน แต่ว่าเป็นทางฝั่งกัมพูชา ที่ปิดด่านของตนเอง  

ส่วนเรื่องของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่า มีความกังวลใจว่าจะลุกลามไปถึงเรื่องของแรงงานต่างด้าว ที่เข้ามาทำงานในประเทศประเทศไทย เช่น แรงงานในล้งผลไม้ แต่หากด่านอื่นๆ ยังคงเปิดอยู่ตามปกติ คิดว่าคงไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากนัก

ทั้งนี้ ในส่วนของรถขนส่งสินค้าจากฝั่งไทยที่เดินทางข้ามไปส่งสินค้ายังประเทศกัมพูชา ตั้งแต่ช่วงเช้าก่อนปิดด่าน มีประมาณ 90 เทรลเลอร์ ซึ่งยังไม่สามารถข้ามกลับมาได้ ต้องรอการเจรจาของทางรัฐบาล ให้มีการเปิดด่าน แต่เบื้องต้นคาดว่าอาจจะมีการเปิดด่านช่วงก่อนเวลา 16.00 น.เพื่อให้รถสามารถข้ามไปได้และไม่ติดค้างที่หน้าด่าน

ขอบคุณข้อมูลภาพ สวท.จันทบุรี FM 90.25 MHz