นอภ.ทองผาภูมินำทีมไล่ล่ากระบะกลางดึกซุก 12 แรงงานเถื่อนซิ่งหลบหนีสุดท้ายไม่รอด

นอภ.ทองผาภูมินำทีมไล่ล่ากระบะกลางดึกซุก 12 แรงงานเถื่อนซิ่งหลบหนีสุดท้ายไม่รอด

วันเสาร์ ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 08.32 น.

นอภ.ทองผาภูมิ นำทีมไล่ล่ากระบะซุก 12 แรงงานเถื่อน ซิ่งหลบหนีสุดท้ายไม่รอด

เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.68 ที่ผ่านมา นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี นายวัลลภ จินดา ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีขบวนการขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายด้วยการใช้รถยนต์กระบะ 4 ประตูเป็นพาหนะขับมาจากทางด้าน อ.สังขละบุรี มุ่งหน้าเข้าเขต อ.ทองผาภูมิ หลังรับแจ้งนายชาคริต จึงรายงานให้นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีทราบ จากนั้นจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่สมาชิก อส.อ.ทองผาภูมิ ที่ 9 ออกลาดตระเวนเพื่อสกัดจับรถยนต์ต้องสงสัย


จนกระทั่งเวลา 20.30 น.พบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า 4 ประตู สีดำ ทะเบียน กาญจนบุรี ลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้งจากสายข่าว ขับมาจากทางด้านอำเภอสังขละบุรีมุ่งหน้าตัวอำเภอเมืองกาญจนบุรี เมื่อมาถึงจุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น แต่คนขับไม่ยอมและได้เร่งเครื่องหลบหนีไปตามถนนสาย 323 ทองผาภูมิ-ไทรโยค

เจ้าหน้าที่จึงติดตามไปอย่างกระชั้นชิด พร้อมประสานผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.หินดาด ร่วมกับสารวัตรกำนันตำบลหินดาด รวมถึงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน ต.หินดาด ตั้งจุดตรวจเพื่อช่วยสกัดจับ จนกระทั่งมาถึงบริเวณสะพานกุยมั่ง หมู่ 6 ต.หินดาด ระยะทางร่วม 25 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงสามารถสกัดรถยนต์คันดังกล่าวเอาไว้ได้ โดยคนขับได้พยายามอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีแต่เจ้าหน้าที่ชุดติดตามก็สามารถจับกุมตัวเอาไว้ได้ด้วยเช่นกัน ทราบชื่อคือนายชัยศิลป์ อายุ 44 ปี ชาว ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

จากการตรวจค้นพบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาทั้งชายหญิงนั่งแออัดกันอยู่ภายในห้องโดยสารจำนวน 10 คน ส่วนกระบะท้ายใช้เป็นที่เก็บกระเป๋าสัมภาระ โดยมีแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาเป็นชาย 2 คน นอนซุกซ่อนตัวปะปนมากับกระเป๋า รวมแรงงานที่จับกุมตัวได้ในครั้งนี้ จำนวน 12 คน

นายชัยศิลป์ ผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพในเบื้องต้นว่า ตนขับรถยนต์ไปรับแรงงานจำนวนดังกล่าวที่บริเวณชายป่าริมถนนสาย 323 ท้องที่ บ้านลิเจีย หมู่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี หลังจากแรงงานจำนวนดังกล่าวขึ้นรถแล้วเสร็จตนจึงขับรถยนต์ไปตามถนนสาย 323 มุ่งหน้าไปส่งแรงงานจำนวนดังกล่าวที่จุดนัดพบในพื้นที่บ้านพุเลียบ ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เมื่อไปถึงจะมีคนนำรถยนต์มารับอีกทอดหนุ่งเพื่อนำแรงงานจำนวนดังกล่าวไปทำงานพื้นที่จังหวัดชั้นใน ซึ่งครั้งนี้ตนทำเป็นครั้งที่ 2 แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน

ขณะที่กลุ่มแรงงานให้การผ่านล่ามว่า พวกตนใช้ช่องทางธรรมชาติด้านอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมาหลบหนีข้ามชายแดนเข้ามาในราชอาณาจักรไทยบริเวณชายแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จากนั้นมีผู้นำพาเป็นชาวเมียนมาที่ชำนาญเส้นทางพาเดินลัดเลาะไปตามชายป่าเพื่อหลบด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ โดยก่อนถึงด่านตรวจแต่ละด่านที่ตั้งอยู่บนนถนนสาย 323 คนขับจะให้พวกตนลงจากรถแล้วเดินลัดเลาะเพื่อหลบด่านตรวจ ซึ่งคนขับรถยนต์จะตีรถเปล่าไปรอรับอยู่ด้านหน้า จนกระทั่งมาถึงบริเวณชาบป่าบ้านลิเจีย หมู่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี นายชัยศิลป์ จึงนำรถมารับอีกทอดหนึ่ง ระหว่างเดินทางไปยังจุดนัดหมายในพื้นที่อำเภอเมืองกาญจนบุรี ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้เสียก่อน

หลังจากผู้ต้องหายอมรับสารภาพเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดยนายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางรถยนต์กระบะที่ใช้เป็นพาหนะส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ เพื่อสอบปากคำและตรวจสอบผู้ครอบครองรถยนต์คันดังกล่าวอย่างละเอียด ก่อนที่จะดำเนินคดีต่อนายชัยศิลป์ ในข้อกล่าวหา กระทำความผิดฐาน “ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น ด้วยประการใดๆ เพื่อให้บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมายพ้นจากการจับกุม” ส่วนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาทั้ง 12 คนถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหา กระทำความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” - 001

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top