'กปร.-มหาวิทยาลัยมาเลเซีย'ลงนาม MOU แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านเกษตรกรรม สร้างสะพานเชื่อมระหว่างสาขาวิชาและพรมแดน เผยเป็นเวทีสำคัญในด้านวิชาการ และขยายผล เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2568 นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) เปิดเผยภายหลังพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการเกษตร ระหว่าง สำนักงาน กปร. กับ มหาวิทยาลัยมาเลเซียแห่งรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย (UMK) ณ ห้องประชุมหนุมาน 1 อาคารสำนักงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 พ.ค.2568 ที่ผ่านมาว่า การจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการเกษตร ครั้งนี้เกิดจากผู้นำชุมชนไทยสยามในรัฐกลันตัน และผู้บริหารจากมหาวิทยาลัยมาเลเซียแห่งรัฐกลันตัน ได้เดินทางมาศึกษาดูงานที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาพัฒนาด้านการเกษตรจนประสบผลสำเร็จ และคณะผู้บริหารของ UMK มีความประทับใจ ต้องการต่อยอดความรู้สานต่อความร่วมมือด้านการเกษตรร่วมกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ จึงได้จัดทำร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการเกษตร กับศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ ขึ้นมา
“กรอบความร่วมมือของทั้ง 2 ฝ่ายนั้น ทาง UMK จะส่งนักศึกษามาฝึกอบรมด้านเกษตรกรรมที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ และศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ ก็จะส่งบุคลากรไปศึกษาเรียนรู้ด้านการจัดการธุรกิจการเกษตรที่ UMK อาทิ การบรรจุหีบห่อ การตลาด เป็นต้น” นางสุพร ตรีนรินทร์ กล่าว
ด้าน PROF. TS. Dr. ARHAM BIN ABDULLAH (ศาสตราจารย์ ด็อกเตอร์ อาร์ฮัม บิน อับดุลลาห์) รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยมาเลเซียแห่งรัฐกลันตัน กล่าวว่าโครงการนี้เป็นการสร้างความสัมพันธ์เชิงความร่วมมือ โดยมีเป้าหมายเพื่อความก้าวหน้า และการเติบโตร่วมกันในด้านวิชาชีพที่หลากหลาย บันทึกความเข้าใจนี้จะส่งเสริมและสนับสนุนการแลกเปลี่ยนความรู้ในการศึกษาดูงานเพื่ออำนวยความสะดวกในความร่วมมือด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เกิดการแลกเปลี่ยนบุคลากรทางวิชาการ อาจารย์ นักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ดูแล ตลอดถึงความร่วมมือในการทำวิจัยและการฝึกอบรม การประชุมเชิงปฏิบัติการ สัมมนา การประชุมเชิงวิชาการ การอภิปรายในหัวข้อที่มีความสนใจร่วมกัน และความร่วมมือในด้านผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร การแปรรูปผลิตภัณฑ์ การประมง กิจกรรมทางการตลาด รวมถึงด้านสิ่งแวดล้อม
“เราได้บรรลุเป้าหมายสำคัญนี้จากความมุ่งมั่น และการสนับสนุนที่ต่อเนื่องของทั้ง 2 ฝ่าย บันทึกความเข้าใจเป็นประจักษ์พยานถึงคำมั่นสัญญาว่าเราจะทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ ในการแลกเปลี่ยนความคิด และสร้างสะพานเชื่อมระหว่างสาขาวิชา พรมแดน และมุมมองต่าง ๆ ต่อไป” รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยมาเลเซียแห่งรัฐกลันตัน กล่าว
ทั้งนี้ สำนักงาน กปร. ในฐานะหน่วยงานกลางในการประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้ประสานกับ UMK และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเอเชียตะวันออก กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กรมวิชาการเกษตร กรมพัฒนาที่ดิน และศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ ร่วมกันพิจารณากำหนดกรอบความร่วมมือดังกล่าว ในการพัฒนาบุคลากรของทั้งสองฝ่าย รวมถึงนำไปใช้ส่งเสริมและขยายผลให้เป็นรูปธรรม โดยในเบื้องต้นได้กำหนดกรอบความร่วมมือฯ เป็นระยะเวลา 3 ปี ซึ่งโครงการดังกล่าว สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงทราบฝ่าละอองพระบาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการ กปร. เห็นชอบอนุมัติให้ดำเนินโครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน
เป็นที่คาดหวังว่าความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นเวทีสำคัญในการเผยแพร่แนวคิดการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชทหาราช บรมนาถบพิตร รวมทั้งเกิดการแลกเปลี่ยนถ่ายทอดองค์ความรู้ระหว่างกัน โดยศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ จะจัดทำหลักสูตรการศึกษาดูงานและฝึกทักษะในการถ่ายทอดองค์ความรู้สู่เกษตรกรในพื้นที่ให้แก่นักศึกษาและเจ้าหน้าที่ของ UMK ที่เข้ามาฝึกอบรมภายในศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ ระยะเวลา 4 เดือน โดยมีนักวิชาการฝ่ายไทย เป็นพี่เลี้ยงในแต่ละกิจกรรมของการฝึกอบรม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทักษะการปฏิบัติงานและเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ ที่สามารถนำมาเป็นแนวทางในการพัฒนาการเกษตรและขยายผลสู่ราษฎรทั้ง 2 ประเทศต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี